สังคม

ชายกัมพูชาชิงทรัพย์แม่ลูกอ่อน อุกอาจกลางถนน พลเมืองดีช่วยได้ทันนำตัวส่งตำรวจ

7 พ.ค. 2568

234 views

ชายกัมพูชาก่อเหตุวิ่งราวกระชากกระเป๋า ชิงทรัพย์แม่ลูกอ่อนอุกอาจกลางถนนขณะขี่จักรยายนต์ เตรียมเผ่นหนีแต่ไม่รอด 2 พลเมืองดีจับได้นำตัวส่งตำรวจ

วันที่ 7 พ.ค. 68 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด ว่ามีเหตุวิ่งราวทรัพย์บริเวณปากซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 6 (ซอยข้างโรงเรียนปากเกร็ด) หมู่ 3 ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จึงไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบ นายวี ลา ผู้ต้องหาสัญชาติกัมพูชา อายุ 36 ปี กำลังถูกพลเมืองดีคือนายโพโรจน์ และ นายต๋อง ควบคุมตัวด้วยการมัดมือทั้งสองข้างไว้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถามนายไพโรจน์ และนายต๋อง โดยให้การว่าก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 คนกำลังขับรถจักรยานยนต์พบผู้เสียหายเลี้ยวเข้ามาในซอยแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด 6 (ซอยข้างโรงเรียนปากเกร็ด) พบผู้ต้องหากำลังวิ่งเข้ามากระชากกระเป๋าที่ผู้เสียหายสะพายอยู่ในขณะนั้นไปและได้หยิบเอาโทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ในกระเป๋าของผู้เสียหายไปจากนั้นตนทั้ง 2 คน จึงได้ร่วมกันช่วยจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ ก่อนช่วยกันใช้ผ้ามัดมือของผู้ต้องหาไว้ และโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ และมานำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหา นายวี ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ผู้อื่น



ส่วนหญิงแม่ลูกอ่อนผู้เสียหาย เล่าว่า ตอนที่เกิดเหตุตนได้ขับรถจักรยานยนต์ กลับมาหลังจากที่ไปสมัครเรียนให้ลูกชายคนเล็ก ตอนนั้นตนซื้อของเสร็จก็ขับจักรยานยนต์ เพื่อที่จะกลับบ้านโดยขับเลี้ยวเข้าซอยหลังโรงเรียนปากเกร็ด ตนก็ขับจักรยานยนต์ ไปเรื่อยๆ จนมาถึงร้านกาแฟเก่าซึ่งปิดอยู่ นาย วี ลา ที่ซ่อนตัวอยู่ในร้านกาแฟ ก็วิ่งตัวสั่นออกมาหาตน ดึงกระเป๋าของตน จนรถ จักรยานยนต์ ของตนล้มและจับไหล่ตน ตนจึงรีบสะบัดออก แล้ววิ่งหนี นาย วี ลา จึงค้นทรัพย์สินกระเป๋าตน พบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ก็รีบแย่งไป ตอนนั้นตนก็ตะโกนร้องให้คนช่วยทันที และตนก็พยายาม ยกมือไหว้ขอร้องนาย วี ลา ว่าอย่าอาโทรศัพท์ไปเลย

พอคนเริ่มเยอะ นาย วี ลา ก็ยังยืนอยู่และพยายามทำเป็นช่วยยกรถจักรยานยนต์ ของตนขึ้น ทำเหมือนว่ารถตนล้มแล้วเข้ามาช่วย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ นาย วี ลา เป็นโจรมาชิงทรัพย์ตน ที่นาย วี ลา หยุดทำเพราะมีคนเข้ามาช่วยเลยกลัว และนำโทรศัพท์เอาใส่กระเป๋าไว้ โชคดีที่มีพี่พลเมืองดีทั้ง 2 คน คือ นายไพโรจน์ และนายต๋อง เข้ามาช่วยจับไว้ และให้พี่ที่ตนรู้จักที่อำเภอ ขอให้เขาช่วยเรียกฝ่ายปกครองให้ พี่เขาจึงประสานทางด้านตำรวจมาให้ ก็ต้องขอบคุณทั้ง พลเมืองดีที่เข้ามาช่วย ขอบคุณพี่ที่ช่วยประสานตำรวจให้ และชอบคุณจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาช่วยเหลือตน ตนก็ฝากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะว่าไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้อีกหรือไม่ มันทำให้ตนหวาดกลัว แล้วตนก็เป็นคนที่ต้องไปทำงานแต่เช้าช่วง 05.30 น. หากเกิดเหตุขึ้นเวลานั้นจะเป็นยังไง โชคยังดีที่ลูกชายคนเล็กของตนไม่มาด้วยหากมาด้วยคงได้รับบาดเจ็บ

คุณอาจสนใจ