จับชายกัมพูชา อ้างเป็นบาทหลวง สวมบัตรปชช.คนไทย ทำธุรกรรม-ลักทรัพย์ในคริสตจักร

ข่าว 3 มิติได้รับเรื่องร้องเรียนจากคริสตจักรหลายแห่งว่า ถูกคนร้ายเข้ามาลักขโมยทรัพย์สินไปจำนวนมาก และที่น่ากังวลเนื่องจากคนร้ายรายนี้ได้สวมบัตรประชาชนของบาทหลวง เพื่อทำธุรกรรมต่างๆ และลอยนวลมากว่า 2 ปี มีพฤติกรรมชอบนำสุนัขไปเปิดหมวกร้องเพลง ล่าสุดวันนี้ถูกตำรวจ สน.บางรัก ติดตามจับกุมได้ โดยพบว่าคนร้ายเป็นต่างชาติ ใช้บัตรประชาชนของคนไทย 2 ใบ ในการก่อเหตุ

กล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นพฤติกรรมของคนร้าย ที่ปีนข้ามรั้วเข้ามาในคริสจักร หลังจากนั้นปฏิบัติการ รื้อค้นทรัพย์สินก็เริ่มขึ้น เนื่องจากผู้ต้องหาเคยเข้ามารื้อค้นขโมยทรัพย์สิน เป็นอุปกรณ์ดนตรีและโน๊ตบุ๊ก แต่ยังไม่พอแค่นั้น คนร้ายยังได้ย้อนกลับมาก่อเหตุเป็นรอบ 2 โดยนำกระเป๋าเดินทาง มาใส่ทรัพย์สินที่โขมยได้หนีไป ที่สำคัญคนร้ายได้ขโมยบัตรประชาชนของบาทหลวง ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่เชียงรายไปด้วย

หลังจากนั้นก็ได้สวมรอยเป็นบาทหลวงเรื่อยมา นานนับปี ที่เบื้องหน้าคนร้ายอ้างเป็นบาทหลวง เข้า-ออก ในไปหลายคริตสจักร เข้าไปขอข้าว ขอเงินบ้าง นอนพักบ้าง แต่เบื้องหลังย้อนไปขโมยทรัพย์สินมีการสวมสูทเพื่อให้คนเห็นเข้าใจว่าเป็นบาทหลวง เมื่อคริสจักรหลายแห่ง เริ่มระส่ำระสายกับความไม่ปลอดภัย อีกทั้ง เมื่อตรวจสอบไป พบคนร้ายใช้บัตรประชาชนปลอมของคนอื่น ในการทำขายทรัพย์สินที่ขโมยมาได้ทางออนไลน์ หรือสวมบัตรในการธุรกรรมอื่นๆ

ครูสอนศาสนา คนหนึ่งได้สืบหาความจริง โดยคนร้ายชอบนำสุนัขไซบีเรียนและลาวาดอ ไปเร่ร่อนเปิดหมวกร้องเพลง โดยอ้างว่าขอเงินเลี้ยงสุนัข แต่ก็ไม่พบตัว สุดท้ายสุนัขทั้ง 2 ตัวตาย โดยคนร้ายอ้างว่าถูกวางยา


ครูสอนศาสนา จึงได้ปลอมเป็นผู้หญิงเข้าไปชมว่าคนร้ายร้องเพลงไพเราะ และชวนคุยพูดคุยเรื่องสุนัข แต่คนร้ายก็ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนว่าเป็นใคร อ้างแต่ว่าเป็นครูสอนศาสนา


ตัวแทนบาทหลวง จึงได้ร้องเรียน ผ่านข่าว 3 มิติ เพื่อช่วยประสาน ไปยัง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 นำทีมสืบสวน คนร้ายที่สวมรอยบัตรประชาชนบาทหลวงทำผิด คือใคร ในที่สุดชุดสืบสวน สน.บางรัก สะกดรอยติดตามหลายวัน กระทั่งจับได้ที่บ้านเช่า ย่านพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ


ผู้ต้องหายังปากแข็งไม่ยอมรับว่าเป็นต่างชาติ ยังนำบัตรประชาชนผู้อื่นมายืนยันว่าเป็นคนไทย เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปเช็กประวัติตรวจคนเข้าเมือง จนพบว่าเป็นชาวกัมพูชา อีกทั้งเมื่อบาทหลวงหลายแห่งมายืนยันก็จำนนต่อหลักฐาน


ตำรวจได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยพบว่าขณะนี้มีคริสจักร ที่ถูกผู้ต้องหารายนี้เข้าไปขโมยทรัพย์สินแล้ว 7 แห่ง และคาดว่ามีอีกหลายแห่ง ที่ยังไม่ได้แจ้งความ หากจำรูปพรรณคนร้ายได้ จึงขอให้แจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้