เตือนภัย! ชาวบ้านผวารถกระบะตู้ทึบไล่จับเด็กช่วงปิดเทอม

ชาวบ้านผวา รถกระบะตู้ทึบไล่จับเด็กช่วงปิดเทอมในพื้นที่สระบุรี โชคดีเด็กรอดมาได้ ก่อนโพสต์คลิปเตือนภัย ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายดำเนินคดี

วันที่ 27 เมษายน 2568 จากกรณีโลกโซเชียลแชร์ภาพรถกระบะตู้ทึบไล่จับเด็กในช่วงปิดเทอม ซึ่งเหตุการณ์เกิดช่วงกลางวันในพื้นที่จังหวัดสระบุรี และระบุข้อความว่า “ฝากเตือนพี่น้องชาวจังหวัดสระบุรีครับ #มีรถกระบะตู้ทึบสีขาวมาจอดไล่อุ้มเด็ก เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ซอยโรงแรมดารารีสอร์ท เลยหน้าโรมแรมดารารีสอร์ทมาก่อนถึงวัดเขาแก้วหากใครพบเห็นรถกระบะตู้ทึบสีขาวตามในรูป โปรดแจ้งเบาะแสผมหน่อยครับ เพราะผมได้แจ้งตำรวจไว้แล้ว”

ในคลิปจะเห็นได้ว่า มีชาย 2 คนสวมเสื้อสีเหลืองและเสื้อสีแดงเข้ามาไล่ต้อนเด็ก 3 คน และจับเด็กได้ 2 คน จากนั้นได้อุ้มเด็กเพื่อที่จะไปที่รถกระบะตู้ทึบที่จอดอยู่ข้างทาง แต่เด็กพยายามดิ้นรนขัดขืน โดยมีเด็กอีกคนถีบจักรยานหลบหนีไปก่อน และเมื่อมีรถกระบะอีกคันขับมา ชายทั้ง 2 คนจึงได้ปล่อยตัวเด็กทั้ง 2 คนลง และกลับมาขึ้นรถกระบะตู้ทึบขับหนีออกไป ซึ่งดูจากภาพกล้องวงจรปิดรถกระบะตู้ทึบน่าจะเป็นรถยี่ห้อ อีซูซุ แต่หมายเลขทะเบียนมองไม่เห็นชัด

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุบริเวณ ม.4 9 ห้วยจะเข้ ซ.7 ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี เพื่อสอบถามเกี่ยวกับมีรถกระบะตู้ทึบวิ่งไล่จับเด็ก โดยได้พบกับนางธีรนันท์ ยายของเด็กชายที่ถูกกลุ่มคนร้ายจับตัว กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุนั้นตนเองไม่อยู่บ้าน หลังกลับจากทำงาน หลานมาเล่าให้ฟังว่า มีผู้ชายเข้ามาจับเพื่อนที่ชื่อโก๊ะ จากนั้นตนเองก็พยายามที่จะวิ่งหนีไปด้านหลัง เพื่อที่จะไปบอกกับตาของโก๊ะ แต่วิ่งหนีไม่ทัน มีชายเสื้อเหลืองวิ่งเข้ามาจับตัวน้อง ซึ่งก็มีผู้ชายอีกคนได้จับตัวโก๊ะไว้ด้วย ภายในรถก็ยังมีผู้หญิงสูงอายุนั่งอยู่ภายในรถกระบะตู้ทึบอยู่ด้วย ซึ่งกระบะตู้ทึบเปิดประตูท้ายกระบะไว้ด้วย ตอนนี้เธอและชาวบ้านรู้สึกผวาและหวาดกลัว เพราะว่าลูกหลานก็วิ่งเล่นกันอยู่ในซอย เธอก็ต้องออกไปทำงาน ปล่อยหลานอยู่กับญาติๆ และวิ่งเล่นกันอยู่ในหมู่บ้าน

ด้านเด็กชายผู้เสียหาย พร้อมเพื่อนอีก 2 คน กล่าวว่า มีชายหญิง 3 คน ขับรถเข้ามา และถามว่า มีหัวเด็กขายไหม ซึ่งตนเองก็ตอบไปว่า ไม่มีครับ และบอกอีกว่า ให้ไปหามีดมาสิ แต่เขาไม่ได้เอามีดมา จากนั้นรถกระบะตู้ทึบขับออกไป และขับมาใหม่อีกรอบ จากนั้นก็จอดรถห่างออกไปเล็กน้อย และเปิดประตูออกมาและวิ่งไล่จับพวกตนเอง ลักษณะการเปิดประตูเหมือนกับตำรวจเปิดประตูไล่จับคนร้าย ซึ่งสามารถจับตนเองและโก๊ะได้ ส่วนอีกคนวิ่งหนีไปได้ ซึ่งลักษณะการจับ จะจับขาจับแขนเหมือนทำท่าจะโยนลงน้ำ เพื่อที่จะเอาขึ้นรถ ตนเองพยายามดิ้น และใช้มือต่อยไปที่ท้องของคนจับ ทำให้ตนเองได้รับบาดแผลที่แขนขวา มีรอยแดงที่ต้นแขน

ทางด้านนางบุญธรรม อายุ 61 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เห็นรถกระบะตู้ทึบไปจอดที่หน้าบ้าน จากนั้นก็ถามเด็กๆ ว่า มีหัวเด็กขายไหม ซึ่งเด็กก็ตอบว่าไม่มี อยากได้ก็ไปหาเอาเอง และเอาหมาของหนูไปด้วย ซึ่งตนเองก็คิดว่าคนที่เข้ามาพูดคุยกับเด็กเป็นญาติกัน ก็ไม่ได้สนใจอะไรได้แต่นั่งดูอยู่เฉยๆ จากนั้นรถกระบะตู้ทึบขับออกไปสักพัก แล้วขับกลับมาใหม่ ซึ่งตนเองก็บอกกับน้องสาวว่ารถคันนี้กลับมาอีกแล้ว คิดว่าน่าจะเข้ามาจับเด็ก 3 คนนี้ที่ขี่รถจักรยานเล่นกันอยู่ พอพูดยังไม่ทันขาดคำรถก็จอดและเปิดประตูออกมาวิ่งไล่จับเด็กเลย พวกเด็กจึงได้วิ่งหนี และจับเด็กได้ 2 คน ตนเองยังตะโกนไปว่า เฮ้ย เขาจะมาจับพวกมึงแล้วทำไมไม่วิ่งหนี ซึ่งตนเองก็พูดลอยๆ และไม่รู้ด้วยว่าจะมาจับเด็ก จากนั้นได้มีรถกระบะอีกคันเข้ามาในซอย ซึ่งมีรถจักรยานของเด็กล้มขวางทางอยู่ ตนเองจึงบอกให้เด็กเอารถจักรยานหลบเพื่อที่จะให้รถกระบะผ่านไปได้ และหนึ่งในคนร้ายพูดว่า เฮ้ยน้องรถมาแล้วเอารถหนีเขา จากนั้นคนร้ายก็ขึ้นรถและขับออกไปเลย เธอก็ไม่ค่อยเห็นรถคันนี้ ในซอยมีรถเข้ามาส่งของเป็นประจำ และมีรถเข้าออกเยอะมาก ส่วนรถยี่ห้ออะไรนั้นไม่รู้เลย ทะเบียนรถก็มองไม่เห็น อยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจดูบ้างว่าชุมชนนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ที่ผ่านมาไม่เคยมีเจ้าหน้าที่คนไหนเข้ามาดูแลเลย ต้องช่วยเหลือกันเอง ส่วนที่เธอไม่ได้สงสัยเหตุที่เกิด เนื่องจากว่ามีคนที่ผ่านไปมา เข้ามาถามทางอยู่บ่อยๆ

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้ เนื่องจากว่ายังไม่ทราบยี่ห้อรถ และหมายเลขทะเบียนที่แน่ชัด ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ และเมื่อทราบหมายเลขทะเบียนรถที่แน่ชัด ก็จะติดตามเรียกเจ้าของรถเข้ามาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีทางด้านกฎหมายต่อไป