จับคนไทยลอบขนต่างด้าว ซิ่งกระบะหนีตำรวจชนรถชาวบ้านพัง

จับชายชาวไทยลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ยัดใส่ท้ายกระบะ ซิ่งหนีตำรวจทางหลวงชนรถชาวบ้านพังเสียหาย โดนจับได้ไม่ยอมลงจากรถ ตำรวจจึงต้องใช้กำลังทางยุทธวิธี

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)  ร่วมจับกุมผู้ต้องหา  นายพงษ์ศักดิ์ หรือศักดิ์ อายุ 36 ปี ผู้ขับขี่ พร้อมด้วย นายเรียม  อายุ 43 ปี, นายเรียะ อายุ 22  ปี,นายเปือย อายุ 35 ปี, นางรุน อายุ 38  ปี, น.ส.เปือน อายุ 18 ปี,นาง.กวง อายุ 21 ปี, นางเจีย อายุ 34  ปี และ นางไน อายุ 44  ปี ทั้งหมดสัญชาติกัมพูชา

โดยกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาที่ 1 “ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าว หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม”  ส่วนผู้ต้องหาที่ 2-9 “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พร้อมของกลางที่ตรวจยึด รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล สีเทา ทะเบียน จ.สระแก้ว จำนวน 1 คัน พร้อมด้วย กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก จับกุมได้ที่บริเวณ ทล.33 (แยกกบินทร์บุรี) กม 199-200 ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี  

โดยก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ขับขี่รถวิทยุตรวจการณ์ออกกวดขันวินัยจราจรและป้องอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณ ทล.33 กม.199-200 ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี พบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล สีเทา ทะเบียน จ.สระแก้ว โดยมีลักษณะผิดสังเกต คือ มีตาข่ายปกคลุมสิ่งของที่กระบะท้าย และมีเงาบุคคลภายในห้องโดยสารมากกว่าการโดยสารตามปกติ  


เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้รถยนต์คันดังกล่าวหยุด แต่รถคันดังกล่าวไม่หยุดพร้อมเร่งความเร็วหนี มุ่งหน้ามายังแยกบินทร์บุรี (แยกสามทหาร) ซึ่งเป็นเขตชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่าประชาชนจะได้รับอันตราย จึงได้ประสานตำรวจภูธรกบิทร์บุรี เข้าช่วยสกัดจับ เมื่อติดตามมาถึงบริเวณสี่แยกกบินทร์บุรี รถคันดังกล่าวได้เสียหลักเฉี่ยวชน รถยนต์ของประชาชนที่อยู่บริเวณสี่แยกฯ ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และรถจักรยานยนต์อีก จำนวน 1 คัน ก่อนจะพุ่งชนเข้ากับเกาะกลางถนน จนไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าปิดล้อม ปรากฏว่าผู้ขับขี่ไม่ยอมลงมาจากรถ จึงได้ใช้กำลังทางยุทธวิธี เข้าควบคุมตัวผู้ขับขี่ ต่อมาทราบชื่อ คือ นายพงษ์ศักดิ์ และผู้โดยสาร เป็นชาวกัมพูชา จำนวน 8 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 5 คน นำเข้าพื้นที่ปลอดภัย โดยก่อนเข้าทำการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจ จึงเริ่มทำการตรวจสอบด้วยความสมัครใจของผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว จากการตรวจสอบชาวกัมพูชาทั้ง 8 คน ไม่มีเอกสารหนังสือเดินทาง หรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ จึงได้นำตัว นายพงษ์ศักดิ์ และชาวกัมพูชา 8 คน พร้อมรถยนต์คันดังกล่าวมาส่งพนักงานสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  

จากสอบถามคำให้การผู้ต้องหา ที่ 2-9 เบื้องต้น โดยมีนางรุน ซัน (ผู้ถูกจับที่ 5) สามารถสื่อสาร และเข้าใจภาษากัมพูชาและภาษาไทยได้ดี ทราบว่า ชาวกัมพูชาที่โดยสารมา ไม่มีเอกสารหนังสือเดินทาง หรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ ได้เดินทางมาจากประเทศกัมพูชาเข้ามายังประเทศไทยผ่านทาง  บ้านอ่างศิลา ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อไปทำงานที่สวนผลไม้ ในพื้นที่ อ.ขลุง จ.จันทบุรี  และจากการสอบถาม นายพงษ์ศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การว่าตนเป็นผู้รับจ้างมาจากบุคคล

ชื่อ “ป้าแก้ว” โดยได้รับค่าว่าจ้างให้ขนส่งชาวกัมพูชาคนละ 800 บาท โดยให้มารับชาวกัมพูชา ที่บริเวณป่าอ้อยริมทาง ในพื้นที่ บ้านอ่างศิลา ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อไปส่งที่สวนผลไม้ อ.ขลุง   จ.จันทบุรี โดยเคยทำความผิดลักษณะนี้มาแล้ว 3 ครั้ง