รวบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ใช้ไทยเป็นทางผ่านมุ่งหน้ามาเลเซีย

ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาผิดกฎหมาย ใช้ไทยเป็นทางผ่านมุ่งหน้ามาเลเซีย

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.ร่วมกันจับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา 32 ราย ความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ของกลาง 1.รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแม็ก สีเทา จำนวน 1 คัน 2.กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก สถานที่จับกุม บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 3013 กม.3-4 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ออกสืบสวนหาข่าวการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อมาถึง ทล.323 กม.100 (มุ่งหน้า กทม.) ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ติดตั้งแครีบอย มีลักษณะต้องสงสัยบรรทุกสิ่งของหนัก โดยสังเกตรถยนต์มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ สอดคล้องต้องสงสัยว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการขนย้ายแรงงานต่างด้าว จึงได้ขับขี่ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวในระยะประชิด และได้ใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟน เพื่อให้รถคันดังกล่าวหยุดและได้ทำการตรวจค้น รถยนต์คันดังกล่าวได้เร่งเครื่องหลบหนีการเรียกตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตาม

เมื่อถึงจุดกลับรถ กม.96 รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับย้อนศรเข้าซอย เมื่อถึงบริเวณ ทล.3013 กม.3-4 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ผู้ขับขี่ได้หยุดรถ และวิ่งหลบหนีการจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขอเข้าทำการตรวจค้น

จากการตรวจค้นปรากฏว่าพบผู้ต้องหา 32 ราย นั่งอยู่ภายในรถบริเวณด้านหน้าข้างผู้ขับขี่, ที่นั่งด้านหลังผู้ขับขี่ และด้านหลังกระบะภายในรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ให้ผู้ต้องหาทั้งหมด แสดงเอกสารประจำตัว เพื่อทำการตรวจสอบ พบว่าทั้ง 32 ราย ไม่สามารถแสดงเอกสารยืนยันตัวตนที่ราชการออกให้ และไม่สามารถสื่อสารหรือพูดไทยได้ จึงได้ตรวจสอบเอกสารโดยละเอียด

จาการตรวจสอบปรากฎว่าไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 32 ราย พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ และทำการจับกุมตัวพร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผ่านล่าม ผู้ต้องหาทั้ง 32 ราย ให้การรับสารภาพว่า ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวไปรับพวกตน ไม่ทราบพื้นที่หรือบริเวณจุดรับ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดได้เดินทางมาจากเมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมา จากนั้นจะมีนายจ้างมารับต่อจะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย