จับต่างชาติเปิดบ่อนพนันเล่นฉ่ำกลางกรุง ถูกรวบคาร้านอาหารทุนจีน

บุกจับนักพนันชาวต่างชาติ 12 คน พร้อมโต๊ะโป๊กเกอร์ขนาดใหญ่ คาร้านอาหารทุนจีนกลางกรุงเทพฯ ยึดอุปกรณ์เล่นพนัน พร้อมเงินสดอีกหลายสกุล

จากการตรวจค้นพบว่า สถานที่ดังกล่าว มีการจัดเป็นห้องสำหรับเล่นการพนัน มีโต๊ะโป๊กเกอร์ตั้งอยู่กลางห้อง และพบของกลางเป็น เงินสดสกุลไทย จำนวน 319,400 บาท  เงินสดสกุลประเทศสิงคโปร์ จำนวน 5,308 เซนต์, เงินสดสกุลประเทศจีน จำนวน 7,035 หยวน, เงินสดสกุลฮ่องกง จำนวน 12,074 ดอลลาร์ฮ่องกง, เงินสดสกุลยุโรป จำนวน 100 ยูโร, เงินสดสกุลมาเก๊า จำนวน 70 หยวน, ชิปแทนเงินสด พร้อมกระเป๋า จำนวน 2 ใบ คิดเป็นเงิน 5,982,800 บาท, ไพ่ จำนวน 10 สำรับ,โ ทรศัพท์มือถือ 15 เครื่อง  และสุราต่างประเทศที่นำเข้ามาผิดกฎหมาย 45 ขวด

ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นนักพนันชาวต่างชาติที่พบในที่เกิดเหตุ รวม 12 คน ประกอบด้วยชาวจีน 9 คน ชาวฟิลิปปินส์ 2 คน และชาวอินเดีย 1 คน มาที่ห้องสืบสวนของ สน.บางโพงพาง เพื่อทำการสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา

ต่อมา เวลา 14.00 น. พลตำรวจโทสยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาติดตามคดีที่สน.บางโพงพาง ก่อนแถลงผลการปฏิบัติการว่า การตรวจค้นเมื่อคืนนี้สืบเนื่องจาก กองกำกับการสืบสวนนครบาล 5 ได้ส่งสายลับไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหารจีนบังหน้า แต่บนชั้น 3 มีการลักลอบเล่นการพนัน จึงแจ้งให้นำกำลังเข้าไปตรวจค้นจับกุม

พลตำรวจตรีวิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ระบุว่า บริเวณดังกล่าวเป็นเป้าหมายที่ต้องเข้าไปตรวจสอบ เนื่องจากเคยมีผู้ประกอบการรายอื่นกระทำผิดกฎหมายมาก่อน จนไปพบว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน และจับกุมนักพนันชาวต่างชาติได้ 12 คน ทั้งนี้ ตอนที่สายลับเข้าไปมีกำลังเจ้าหน้าที่ไปไม่เยอะ ทำให้มีนักพนันบางส่วนหลบหนีไปได้ประมาณ 10 กว่าคน ชุดสืบสวนกำลังไล่กล้องวงจรปิดเพื่อติดตามมาดำเนินคดี

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีพนักงานที่เป็นชาวไทยอยู่ด้วย และพบของกลางจำนวนมากที่ใช้ในการลักลอบเล่นการพนัน และยังพบสุราต่างประเทศ ที่ไม่ได้นำเข้ามาอย่างถูกต้อง จึงได้ส่งของกลางทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ เพื่อขยายผลดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง

สำหรับสถานที่แห่งนี้พบว่ามีการจดทะเบียนเปิดเป็นร้านอาหารจีนมาประมาณ 1 ปีแล้ว โดยเป็นชื่อบริษัทจีน ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าคนที่จดทะเบียนบริษัทเป็นใคร

ขณะที่ พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบปากคำลูกจ้างชาวไทยให้การที่เป็นประโยชน์ ซัดทอดไปยังนายจ้าง เบื้องต้นพบว่าเป็นชาวจีน ตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นนักพนันให้การยอมรับว่า มีการมาเล่นการพนันที่สถานที่นี้จริงหลายครั้งแล้ว แต่อ้างว่าไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย เพราะเคยเล่นการพนันที่สิงคโปร์ได้ ก็เข้าใจว่าประเทศไทยก็เล่นได้เหมือนกัน ซึ่งที่มาเล่นที่นี่ก็เป็นการบอกต่อกันปากต่อปาก และรวมกลุ่มกันมา

โดยบริเวณนี้เคยมีร้านอาหารที่อยู่ใกล้กัน แต่เป็นผู้ประกอบการคนละเจ้า ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีเมื่อปี 2566 เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดและถูกปิดไป ซึ่งตอนนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลมีนโยบายให้ทุกสถานีตำรวจ ตรวจสอบกิจการที่มีคนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจ จุดนี้จึงเป็นเป้าหมายที่ต้องส่งสายลับเข้าไปตรวจสอบ

ยืนยันว่าจากการตรวจสอบ ที่นี่เป็นการลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนัน ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นมาก่อน

สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดมีการดำเนินคดีฐานร่วมกันเล่นพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ดำเนินคดีฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนัน กับลูกจ้างชาวไทยด้วย