ไฟไหม้ตึกแถว คร่าชีวิต 2 ผัวเมียเจ้าของร้าน ดับเพลิงขึ้นรถกระเช้าดับไฟ ถูกไฟดูด 2 คน

เมื่อช่วงตี 5 วันที่ 12 ก.พ.68 เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 6 ชั้น ริมถนนเอกชัย-บางบอน ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โดยต้นเพลิงเกิดจากร้านขายส่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตำรวจ สภ.ย่อยบางน้ำจืด ประสานรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.บางน้ำจืด และใกล้เคียง ทั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและกรุงเทพมหานคร รวมกว่า 20 คัน ระดมฉีดน้ำดับเพลิง แต่เพลิงก็ยังลุกลามไปยังอาคารข้างเคียงรวม 5 คูหา


ระหว่างที่นักดับเพลิงกำลังช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อรถกระเช้าที่พาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครสมุทรสาคร 2 คน ขึ้นไปฉีดน้ำดับเพลิงด้านบน ขณะกำลังเคลื่อนตัวจากคูหาหนึ่ง ไปอีกคูหาหนึ่ง เพื่อฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าไปดับไฟด้านในอาคาร ปรากฏว่าศีรษะของเจ้าหน้าที่ 1 คน เกิดไปโดนสายไฟฟ้าแรงสูง ที่ไม่ได้ตัดกระแสไฟฟ้า ทำให้ทั้ง 2 คน ถูกไฟดูด ล้มลงกองกับกระเช้า โดย 1 คน หมดสติ เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำร่างลงมา แล้วรีบพาตัวส่งไปโรงพยาบาล ส่วนอีกคนแม้จะมีสติพอเดินได้ แต่ก็ถูกส่งไปรักษาตัวเช่นกัน โดยช่วงที่เกิดเหตุ มีผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ได้ จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ศีรษะไปโดนสายไฟ ถูกไฟดูดจนเกิดประกายไฟพุ่งออกมา และควันลอยคลุ้งก่อนจะล้มลงหมดสติ ส่วนอีกคนก็ล้มลงไปกองที่พื้นกระเช้า


การดับเพลิงครั้งนี้ใช้เวลาเกือบ 7 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบด้านในตัวอาคาร พบผู้เสียชีวิตในกองเพลิง 2 คน คือ นายวสันต์ อายุ 73 ปี และ นางอาภาพรรณ อายุ 69 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน และเป็นเจ้าของร้านต้นเพลิง โดยพบศพที่ชั้นที่ 3 ภายในห้องครัว 1 ศพ ส่วนอีกศพอยู่ตรงบันไดทางขึ้น จากชั้น 4 ไปดาดฟ้า ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ใครอยู่ตรงไหน เพราะร่างถูกไฟไหม้เกรียม


นายสัมพันธ์ อายุ 59 ปี เจ้าของร้านเครื่องยนต์ที่อยู่ข้าง ๆ กับร้านต้นเพลิง เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนนั่งซ่อมเครื่องยนต์อยู่ด้านล่าง ได้ยินเสียงระเบิด 2 ครั้ง จึงเปิดประตูออกมาดู เห็นกลุ่มควันและกลิ่นไหม้ ลอยออกมาจากตึกต้นเพลิง จึงส่องดูตรงช่องว่าง ก็เห็นเพลิงลุกมาจากด้านในตัวตึก จึงรีบโทรแจ้งหน่วยงานต่าง ๆ ให้มาช่วย และยังโทรแจ้งเฮียกับเจ๊เจ้าของตึกที่พักอยู่ข้างใน ว่าไฟไหม้ให้รีบออกมา แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย


ด้าน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เล่าว่า ตอนมาถึงที่เกิดเหตุ ไฟไหม้ลามไปเยอะแล้ว และยังมีอุปสรรคคือ มีรถจอดกีดขวางหน้าอาคาร ส่วนประตูอาคารก็เปิดไม่ได้ เพราะเป็นประตูไฟฟ้า จึงต้องพังประตูเข้าไป เพราะได้รับแจ้งว่ามีคนติดค้างอยู่ด้านใน 2 คน ตอนที่พังเข้าไปได้ ก็เห็นแต่ไฟเต็มไปหมด ไม่เห็นคน เพราะคนอยู่ด้านบน


นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ห้อง จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อะไหล่ยนต์มือสอง มีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นสามีภรรยา เป็นเจ้าของตึก และมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงถูกไฟฟ้าดูด หลังเพลิงสงบแล้ว ได้สั่งการให้นายก อบต.บางน้ำจืด เจ้าของพื้นที่ออกคำสั่ง ห้ามใช้อาคารโดยเด็ดขาด พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยในการใช้อาคารด้วย ในส่วนของการเยียวยาผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาต่อไป ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ


ต่อมาช่วงบ่าย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร เพื่อเยี่ยม นายสุริยา 1 ในเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในกระเช้า แต่ไม่ได้โดนไฟดูดโดยตรง ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่แพทย์ให้พักฟื้นที่โรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการ


นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ยังได้พูดคุยให้กำลังใจแม่ของ นายอัครนิธ์ เจ้าหน้าที่อีกคนที่ถูกไฟดูด ซึ่งเข้ารับการผ่าตัดสมอง ที่โรงพยาบาลเอกชัย อาการปลอดภัยแล้ว แต่แพทย์ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยผู้ว่าฯ ขอให้แม่และครอบครัวสบายใจ เพราะทางจังหวัดจะดูแลเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บอย่างเต็มที่


ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบภายในอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร พร้อมด้วยทีมกู้ภัยอาสาฯ และเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิง ร่วมกันเข้าไปนำร่างนายวสันต์ และนางอาภาพรรณ ออกมาจากซากอาคารพาณิชย์ได้แล้ว ซึ่งลูกหลานและครอบครัวมาคอยรับร่างด้วยความเศร้าโศกเสียใจ


สำหรับสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ ยังคงอยู่ในระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด และต้องรอผลพิสูจน์ทราบจากเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน ผนวกกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/W25p61gkfuM