แฉเจ้าหน้าที่รัฐ เอารถหลวงไปใช้ส่วนตัว ชนพังยับ ปิดข่าวเงียบ พาไปซ่อมอะไหล่เชียงกง

แฉเจ้าหน้าที่รัฐนำรถหลวงไม่ติดเครื่องหมายชื่อองค์กรใช้ขับส่วนตัว กลับจากงานเลี้ยงกลางดึกเสียหลักชนต้นไม้พังยับเยิน ไม่แจ้งตำรวจ ปิดข่าวเงียบ แอบพาไปซ่อมต่างจังหวัด จะขอใช้เงินหลวงซ่อม แต่ไม่มีใครเอาด้วย ซ่อมเสร็จคาดใช้อะไหล่ไม่มีมาตรฐาน นำกลับมาจอดไม่มีใครกล้าขับ วอนผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบด้วย

วันที่ 8 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนพร้อมหลักฐานเป็นภาพถ่ายหลายภาพ ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐในจังหวัดชุมพร นำรถยนต์หลวงไปใช้ส่วนตัวโดยไม่ติดชื่อสัญลักษณ์หน่วยงาน ซึ่งได้นำไปใช้เป็นประจำเหมือนกับเป็นรถส่วนตัว

จนกระทั่งช่วงประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐคนดังกล่าวมีตำแหน่งเป็นระดับหัวหน้า ได้ใช้รถหลวงเป็นรถยนต์ SUV ไปกินงานเลี้ยงวันเกิดนักการเมืองคนดังที่มีตำแหน่งอยู่ในสภา อบจ.ชุมพร ซึ่งจัดกินเลี้ยงกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองชุมพร

จนกระทั่งงานเลี้ยงเลิก เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ขับรถยนต์หลวงที่นำมาใช้เป็นรถส่วนตัว ขับกลับบ้านในช่วงเวลาประมาณตี 2 และได้ประสบอุบัติเหตุรถเกิดเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง ทำให้รถเสียหายอย่างมาก สภาพหน้ารถพังยุบไปจนถึงเครื่องยนต์ได้รับความเสียหายหนัก ล้อยางด้านขวาทั้งล้อหน้าล้อหลังยางแตก และมีรอบยุบรอยขีดข่วนทั่วทั้งคัน ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

หลังเกิดเหตุไม่มีการแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันใดๆ ไว้เป็นหลักฐานตามระเบียนของทางราชการ แต่ได้แจ้งให้รถมาชักลากพาไปเก็บซ่อนไว้ที่อู่ซ่อมแห่งหนึ่งที่ตำบลขุนกระทิง อ.เมืองชุมพร และต่อมาได้ส่งไปซ่อมต่อที่อู่แห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อป้องกันปัญหามีคนอื่นรู้เห็น

โดยรถยนต์คันดังกล่าวใช้เวลาซ่อนนานกว่า 1 เดือน ทราบว่าหลังซ่อมเสร็จ เสียค่าซ่อมเป็นเงินกว่า 2 แสนบาท ได้มีนักการเมืองใน อบจ.บางคนช่วยออกให้ แล้วได้นำมาจอดเก็บไว้ใกล้กำแพงด้านหลัง อบจ.ชุมพร เนื่องจากไม่มีใครกล้าใช้

ต่อมาช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบรถยนต์คันดังกล่าว เพิ่งจะเคลื่อนย้ายจากที่จอดอยู่ด้านหลัง มาจอดในที่จอดรถประจำตำแหน่งผู้บริหาร ด้านข้างอาคารที่การ อบจ.ชุมพร สภาพยังมีฝุ่นติดขาวไปทั่ว ส่วนประตูหน้าด้านซ้ายและด้านขวา มีการพ่นสีขาวตราสัญลักษณ์และชื่อหน่วยงาน ที่ยังมีสภาพเพิ่งจะทำใหม่ๆ ทั้งๆ ที่ก่อนเกิดอุบัติเหตุหน้านี้เป็นรถที่ไม่มีเครื่องหมายใดๆ ทั้งสิ้น และมีการสลับเอาป้ายทะเบียนหลังที่ไม่ได้รับความเสียหายมาติดไว้ด้านหน้า ส่วนป้ายทะเบียนหน้ามีสภาพบิดเบี้ยวมีร่อยรอยการทุบเคาะแต่งให้ตรงแล้วนำไปติดไว้ด้านท้าย

นอกจากนั้นล้อยางจากสภาพเดิมก่อนเกิดอุบัติเหตุเป็นยางยี่ห้อดัง ที่มีราคาเส้นละประมาณกว่า 7 พันบาท หลังเกิดอุบัติเหตุแล้วนำไปซ่อม กลับเปลี่ยนล้อยางใหม่ทั้งหมดเป็นยี่ห้อที่ผลิตจากประเทศจีน มีราคาเส้นละประมาณ 3 พันบาท ส่งผลให้รถยนต์คันดังกล่าวหลังซ่อมเสร็จแล้ว ต้องนำมาจอดไว้ เนื่องจากสภาพหลังซ่อมทั้งเครื่องยนต์และอะไหล่ต่างๆ น่าจะเป็นอะไหล่เชียงกง หรืออะไหล่มือ 2 ที่ไม่มีคุณภาพ จึงไม่มีใครกล้าขับใช้งาน

เจ้าหน้าที่ภายในองค์กรแห่งนี้ให้ข้อมูลอีกว่า ยังมีเจ้าหน้าที่บางคนนำรถหลวงไปใช้ทำธุระส่วนตัวอยู่เป็นประจำ และเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้มีหนังสือจากทางตำรวจทางหลวง จ.สงขลา พร้อมรูปภาพรถและป้ายทะเบียนรถยนต์ ซึ่งเป็นรถใช้ในราชการ แจ้งมายังที่ทำการ อบจ.ชุมพร เรื่องถูกจับความเร็วในในพื้นที่ จ.สงขลา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บางคนขับไปทำธุระส่วนตัวในพื้นที่ดังกล่าว จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบการนำรถหลวงไปใช้ส่วนตัวด้วย เนื่องจากเป็นเงินที่มาจากภาษีของประชาชน