นายกฯ ยันเมียนมาจะอภัยโทษ ปล่อยตัวหลังปีใหม่ หลัง 4 ลูกเรือไทย ถูกสั่งจำคุก

ศาลเมียนมา สั่งจำคุก 4 ลูกเรือไทย 4-6 ปี รุกล้ำน่านน้ำทำประมง-ลอบเข้าประเทศ แพทองธาร แจงรับโทษจำคุกเป็นไปตามกระบวนการ สามารถขออภัยโทษได้ ยันกรอบปล่อยตัวเป็นไปตามเดิมหลังปีใหม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.67 ศาลจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา ได้ตัดสินคดีความของ 4 ลูกเรือประมงไทย ที่ถูกจับกุมพร้อมกับลูกเรือชาวเมียนมาอีก 27 คน รวมเป็น 31 คน และยึดเรือประมงไว้ที่เกาะย่านเชือก จังหวัดเกาะสอง เมื่อวันที่ 30 พ.ย.67 ในขณะที่กำลังทำประมงในพื้นที่ทับซ้อน


โดยตัดสินจำคุกเจ้าของเรือไทย เป็นเวลา 5 ปี ในข้อหาลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย หรือรุกล้ำน่านน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำคุก 1 ปี ในข้อหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมจำคุก 6 ปี และปรับเงิน 200,000 จ๊าด (คิดเป็นเงินไทย 3,200 บาท)


ส่วนลูกเรือไทยอีก 3 คน ศาลสั่งจำคุกคนละ 3 ปี ในข้อหาลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย และตัดสินจำคุก 1 ปี ในข้อหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมจำคุก 4 ปี และปรับคนละ 20,000 จ๊าด (คิดเป็นเงินไทย 320 บาท) ขณะที่ลูกเรือชาวเมียนมา 27 คน ศาลสั่งจำคุกคนละ 1 ปี ในข้อหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย


รายงานข่าวระบุว่า ต้องมีการประสานงานกันอีกครั้งว่า 4 ลูกเรือไทย จะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ และต้องดูว่าระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา (TBC) จะทำอะไรได้แค่ไหน หรือในที่สุดอาจต้องให้ระดับบนดำเนินการแทน เพราะถือเป็นปัญหาระดับประเทศแล้ว


ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา ได้แจ้งเพิ่มเติมถึงการตัดสินคดีความของศาลจังหวัดเกาะสอง ว่า การตัดสินคดีดังกล่าว ถือเป็นการช่วยเหลือลูกเรือไทยเป็นกรณีพิเศษแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดคำครหา ตามธรรมเนียมของกฎหมายเมียนมา ที่ผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษ โดยการตัดสินครั้งนี้เป็นการตัดสินตามอัตราโทษที่ต่ำสุด เพื่อให้จบกระบวนการทางยุติธรรม


โดยคาดว่า ฝ่ายเมียนมาจะอภัยโทษ ปล่อยตัวลูกเรือชาวไทยทั้ง 4 คน ในวันชาติเมียนมา คือวันที่ 4 ม.ค.68 นี้


ด้าน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณีศาลจังหวัดเกาะสอง ตัดสินจำคุกลูกเรือประมงไทย ในข้อหาลักลอบทำประมงในน่านน้ำประเทศเมียนมาโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว โดยกระบวนการนี้เป็นกระบวนการปกติ ที่จะพิพากษาดำเนินคดีและจะมีการอภัยโทษต่อเนื่องมา ซึ่งทางฝ่ายไทยได้คุยเรื่องนี้ และประสานไปเรียบร้อยแล้วว่าจะมีการอภัยโทษเกิดขึ้น ส่วนที่เคยบอกว่าจะมีข่าวดีหลังปีใหม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยังเป็นไปตามกรอบเดิม


ขณะที่ นายมาริษ อธิบายเพิ่มเติมว่า กระบวนการดังกล่าวไม่ได้หมายถึงการติดคุกไปก่อน แต่เป็นกระบวนการภายในของเมียนมา ซึ่งเหมือนกระบวนการทั่วไปที่มีข้อหาว่าไปละเมิดน่านน้ำ จึงเป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากไม่มีการดำเนินการอะไรจะถือเป็นความผิดของรัฐบาล แต่เราได้ขอความร่วมมือในการขอปล่อยตัวก่อนเวลา หรือที่เรียกว่า Early release มาตั้งแต่ต้น แต่ก็อยากให้กระบวนการภายในของเมียนมาเรียบร้อยก่อน เช่นเดียวกับกระบวนการภายในของไทย ที่ต้องดำเนินคดีก่อน ต้องพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมยืนยันว่า กรอบนี้จะไม่ยืดเยื้อ


ส่วนที่ถูกตัดสินให้จำคุก 4-5 ปีนั้น นายมาริษ ระบุว่า นั่นคือการพิจารณาของทางการเมียนมา แต่ในความร่วมมือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีและความร่วมมือระหว่างประเทศ สามารถที่จะพูดคุยกัน เพื่อให้มีการอภัยโทษได้


สำหรับกรณีที่มีการจับกุมชาวเมียนมาได้ที่น่านน้ำระนอง เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สามารถเจรจาแลกเปลี่ยนกันได้หรือไม่ นายมาริษ กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน พร้อมยืนยันว่า ณ ขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามกรอบเดิม คือจะได้รับการปล่อยตัวหลังปีใหม่

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/oVJfI5VEYyA