หมอนวดโต้กลับ หลังลูกชายติดใจ แม่วัย 55 นวดจัดกระดูก ผ่านไป 10 วันเสียชีวิต

หญิงวัย 55 ปี ถูกหมอดูชักชวนไปนวดดึงจัดกระดูกที่ จ.ร้อยเอ็ด ผ่านไป 10 วัน เสียชีวิต แพทย์ระบุสาเหตุการตาย “หลอดเลือดแดงใหญ่ มีเลือดออกในผนัง” ลูกชายสงสัยนวดผิดวิธีเป็นสาเหตุตายหรือไม่ ด้านหมอนวดขอความเป็นธรรมได้ความเสียหาย รักษาฟรี 10 กว่าปี ไม่เคยมีคนตาย ย้ำใครมีโรคประจำตัวสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายไม่นวดให้เด็ดขาด

วานนี้ (12 ธ.ค.) เพจ ‘บิ๊กเกรียน’ เปิดเคสลูกชายร้องว่ามีหมอดูคนหนึ่งพาแม่ของตัวเอง ชื่อนางสมศรี มาหัวเขา อายุ 55 ปี ไปนวดดึงจัดกระดูกที่ จ.ร้อยเอ็ด กลับมาบ้าน 10 วัน เสียชีวิต (ไม่แน่ชัดว่าสาเหตุเสียชีวิตเกิดจากการนวดหรือไม่) ซึ่งแพทย์ระบุสาเหตุการตาย “หลอดเลือดแดงใหญ่ มีเลือดออกในผนัง”

ทีมข่าวได้คุยกับนายกวิน มาหัวเขา อายุ 31 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อวันที่  7 ม.ค.2566 แม่ของตนมีอาการแน่นหน้าอก ปวดร้าวลงขา จะอวก ไปหาหมอโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ประมาณเที่ยงคืนถึงตี 1  เข้าห้องฉุกเฉินหมอตรวจคลื่นหัวใจและตรวจเช็คทุกอย่างแจ้งว่าแม่ของตนเป็นแพนิค มีความเครียดสะสม หมอจ่ายยาและให้กลับบ้าน พอกลับบ้านอาการของแม่ก็ยังไม่ดีขึ้น ตนก็พยายามดูแลไม่ให้แม่เครียดทุกๆ เรื่อง ซึ่งเรื่องที่แม่เครียดส่วนมากจะเป็นเรื่องลูกๆ และครอบครัว เวลาตนถามแม่ก็ไม่ยอมพูดอะไร

จากนั้นวันที่ 10 ม.ค.2566 แม่มาขอเศษผม เศษเล็บ เสื้อผ้าเพื่อจะนำไปทำพิธี โดยได้ไปหาหมอดูร่างทรง ที่เคยทัก (น่าจะเป็นสาเหตุที่เครียด) ไปแก้ต่างๆ หมดไปหลายหมื่น และหมอดูคนร่างกล่าวได้นัดชวนกันไปทำบุญที่ จ.ร้อยเอ็ด โดยนั่งรถตู้ไปเป็นคณะ ปกติตนจะห้ามแต่ด้วยที่หมอแจ้งว่าอย่าให้แม่เครียดตนเลยปล่อย ซึ่งแม่ก็ได้ส่งรูปตอนไปทำบุญมาให้ดู  

จนกระทั่งวันที่ 24 ม.ค.2566 แม่ส่งคลิปที่ไปนวดดึงกระดูก จัดกระดูกมาให้ดู ตนก็ตกใจ แต่ไม่ได้คิดอะไร โดยคลิปที่เห็นแม่ของตนนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงภายในบ้าน และมีชายหญิงรวม 5 คน ใช้ผ้าขาวม้ารัดที่ลำตัว ขาทั้งสองข้างและช่วยกันดึงเป็นการจัดกระดูก จากนั้นก็ให้แม่ของตนนอนหงาย ใช้ผ้าคล้องที่คอและดึงกระชากสุดแรง ตนก็ไม่มีความรู้ว่าอันตรายหรือไม่ ซึ่งแม่ยังบอกจะชวนพ่อมาทำ

ลูกชายของผู้เสียชีวิต เล่าต่อว่า หลังจากกลับมาที่บ้านย่านลาดปลาเค้า กรุงเทพฯ แม่มีอาการเหนื่อย อ่อนเพลียไม่ค่อยมีแรง ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นผลจากการนั่งรถจากอุดรธานีกลับกรุงเทพฯ หรือเป็นผลมาจากการไปนวดดึงกระดูกหรือไม่ ผ่านมาไม่ถึง 10 วัน แม่ก็เสียชีวิต ตนส่งศพชันสูตรระบุสาเหตุการตาย “หลอดเลือดแดงใหญ่มีเลือดออกในผนัง หลอดเลือดแดงมีรอยปริฉีก” หมอบอกว่าคนไข้มีความดันก็น่าจะเกิดจากความดัน

ตนไม่ได้นึกถึงการนวดจัดกระดูกเลย พอมาไล่ดูผลตรวจย้อนหลังพบว่าหมอมีการวินิจฉัยผิดพลาดตั้งแต่แรกตอนไปโรงพยาบาลหรือไม่ ซึ่งผลตรวจพบว่าหลอดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ แต่หมอไม่แจ้งให้ทราบ แจ้งเพียงว่าเป็นแพนิค ถ้าตนรู้คงไม่ให้แม่ออกจากโรงงพยาบาล จะให้แอดมิทเพื่อรักษาต่อ ทำให้แม่เสียโอกาสเข้าถึงการรักษา แม่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีโรคอะไรไรบ้าง แม่อายุมากปวดขาจึงไปนวดจัดกระดูก ซึ่งคนที่จะทำมันมีข้อห้าม

ภายหลังที่นำร่างแม่ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ราชบุรี และฌาปนกิจเสร็จสิ้น ตนเองได้ร้องเรียนไปหลายๆ ที่ไม่มีการตอบรับ คงเป็นเพราะคนที่ตนกล่าวหาเป็นแพทย์หรือไม่ จึงไม่มีใครรับเรื่องร้องเรียน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวเรื่องการนวดเสียชีวิต ตนเลยนึกได้ว่าแม่เคยส่งคลิปมา จึงมาย้อนดูเรียงเรื่องราว มีโอกาสสูงมากที่อาจจะเสียชีวิตจากการไปนวดจักกระดูกหรือไม่

ซึ่งหลังจากที่ตนโพสต์คลิปในโซเชียล คนที่ทำการนวดจัดกรดูกทักมาหาตนบอกว่า “คนหายเยอะแยะ” ตนก็ได้แต่คิดในใจคนที่ตายไปจะทักไปบอกเขายังไง ตนโพสต์คลิปแค่เป็นการตั้งคำถามว่าเคสนี้เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีส่วนทำให้แม่ของตนเสียชีวิต ตนไม่ได้บอกว่าแม่เสียชีวิตจากการไปดึงกระดูก

โดยแชทที่หมอนวดทักมาว่า “คุณเอาคลิปผมไปลงคืออะไรครับ ขอทราบรายละเอียดที” / ลูกชายผู้ตาย ตอกลับว่า “ตามคลิปที่ลงคือสงสัยครับ แม่ผมเองในคลิปไปดึงมาได้ไม่ถึง 10 วัน เสียชีวิต” หมอนวดถามว่า “เสียจากอะไรครับรบกวนเล่ารายละเอียดให้ฟังว่ามีโรคประจำตัวอะไรบ้างนะครับ” ลูกชายผู้ตาย ถามกลับว่า “อยากทราบว่าตอนแม่ผมไปแจ้งอะไรบ้างถึงได้ทำแบบในคลิป มีการถามข้อมูลประวัติไหม”

ฝั่งหมอนวดตอบว่า “ที่มาผมจะซักประวัติว่าเคยผ่าตัดกระดูกแกนกลางมาไหม ดามเหล็กไหม ถ้าคนไข้บอกว่าไม่เคยผ่าตัด ไม่เคยดามเหล็ก ไม่เคยผ่าตัดหัวใจผมก็จะทำให้ ที่สำคัญถ้าเป็นคนแก่ที่มีอายุมาก ผมก็จำทำให้เบาๆ ไม่ได้ทำให้หนักเพราะว่าคนแก่ทำเหมือนคนหนุ่มไม่ได้ เรานึกถึงความปลอดภัยให้กับคนไข้เหมือนกัน ทีนี้มันขึ้นอยู่กับว่าคนไข้มีโรคประจำตัวอะไรที่เขาไม่บอกเรา ผมก็สงสัยว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการดึงจัดกระดูก เพราะคนที่มาหาผมล่าสุดอายุ 96 ปี คุณยายยังแข็งแรงเหมือนเดิมคนไข้ที่มาส่วนมากจะเป็นปวดคอบ่าไหล่ ปวดเอวลงสะโพกร้าวลงขาชาที่เท้า”

อย่างไรก็ตามตนได้มาศึกษาข้อห้ามของการจัดกระดูก ว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งคนที่ทำไม่มีใบวิชาชีพ แถมไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าจริง ๆ แล้ว แค่ความดันก็ทำไม่ได้ และวิธีการที่เขาทำมันผิดมาก ๆ เพราะการดึงต้องมีน้ำหนัก คำนวณจากน้ำหนักตัวหารออกมา และแบ่งเป็นเซ็ตเป็นเวลาตามแพทย์คำนวณ แต่นี่ไม่มีเลย กระชากด้วยซ้ำ   ทั้งนี้ตนอยากให้มีการตรวจสอบวิธีการรักษานวดจัดกระดูก ของหมอนวดที่ จ.ร้อยเอ็ด ด้วย

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านช่างหมอโชติ ที่บ้านคุยผง ต.เหล่าหลวง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งนายธนัช อาชิรญาณ์ อายุ 61 ปี ใช้บ้านเป็นสำนักนวดรักษาคน ภายในสำนักมีหุ่นขี้ผึ้ง หลวงปู่สรวง และรูป ปู่ชีวก พร้อมครูบาอาจารย์ ของหมอโชติประดิษฐานอยู่ลานบ้านและในห้องนวด รวมถึงมีใบประกาศนียบัตร อบรมหลักสูตรการนวดไทย นวดปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย ที่ออกจากสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย ของ หมอโชติ ติดอยู่ในบ้าน พร้อมป้ายคำเตือนไม่นวดให้กับผู้ที่เคยผ่าตัดกระดูกสันหลัง คอ หัวใจ ดามเหล็กหรือเกิดอุบัติเหตุ

นายธนัช อาชิรญาน์ กล่าวว่า ตนเองเรียนรู้วิชารูปแบบการนวดรักษาโรคด้วยดึงกระดูกแบบนี้สมัยอยู่ที่ชัยภูมิ ถึงอยู่ 7 ปี เนื่องจากตนเองป่วยเป็นโรคประจำตัวเกี่ยวกับกระดูก ประกอบกับป่วยเป็นอัมพาตครึ่งซีก และรักษาวิธีนี้ได้ผลดี จึงเรียนวิชานี้นำมาใช้ รักษาตัวเอง และมีคนงานรับจ้างก่อสร้าง ที่มีโรคกระดูก เส้นเอ็น มาขอให้ช่วยรักษาอาการให้ ก็ช่วยเหลือรักษาให้ทุกคนฟรี เป็นเวลา 7 ปี ก่อนจะย้ายกลับมาบ้านเกิดที่ร้อยเอ็ด แล้วใช้บ้านเปิดการรักษาโรคกระดูก ให้กับชาวบ้านทุกคนแบบไม่คิดเงินค่ารักษา มาเป็นปีที่ 5 ซึ่งไม่เคยมีปัญหา

แต่แปลกที่จู่ๆ ก็มีคนโพสต์เชิงร้องเรียนและโจมตีว่า ตนเองทำให้แม่ของผู้ร้องเรียนเสียชีวิตหลังจากมารับการนวดไป 10 วันแล้วทำให้แม่เขาเสียชีวิต  ตนเองค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นเรื่องไม่จริง ที่ตนทำให้แม่ของชายดังกล่าวเสียชีวิต เพราะตนจำได้ว่าผู้ตายไม่ใช่เพิ่งมานวดที่ตนเองแล้วกลับไป 10 วันแล้วเสียชีวิต เพราะความจริงรายนี้มานวดที่บ้านตนเองไปเกือบ 2 ปีแล้ว แต่พอเกิดเหตุมีคนไปนวดแล้วเสียชีวิตที่อุดรธานี ก็เลยเกาะกระแสว่าสงสัยว่าแม่จะเสียชีวิตด้วยเหตุจากการนวดแบบที่อุดรธานี

นายธนัช ยังสาธิตขั้นตอนของการนวดดึงกระดูก ด้วยผ้าขาวม้า เพื่อเป็นการยืนยันว่า วิธีการรักษาคนของตนที่ใช้เวลาเพียงไม่ถึงนาที ไม่น่าจะเป็นเหตุที่ทำให้คนตายได้ เพราะที่ผ่านมา 10 กว่าปี ที่ใช้วิธีการนี้มารักษาคนฟรี แบบไม่คิดเงิน ก็มีหลายพันคน ยังไม่เคยปรากฏว่ามีใครตายเลย หากทำให้คนตายได้ก็คงไม่ตายแค่คนเดียว และเวลา 10 กว่าปี คงจะตายไปมากกว่า 1 คน

ดังนั้นจึงต้องขอความเป็นธรรมให้กับตนเองที่ช่วยคนฟรีโดยไม่คิดเงินต้องได้รับความเสียหาย ยืนยันว่าสำนักของตนไม่ได้นวดรุนแรง เป็นการนวดรักษาเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รวมถึงใครที่มีโรคประจำตัวและสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายตนก็จะไม่นวดให้เด็ดขาด นอกเสียจากคนที่มานวดปกปิดข้อเท็จจริงก็เป็นได้ที่อาจจะเสียชีวิต ซึ่งรายที่ตายก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยว่า ตายเพราะปกปิดโรคประจำตัวเพื่อเข้ารับการนวดหรือเปล่า

ขณะที่หมอหมู รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เผยว่า จากที่แพทย์ระบุสาเหตุการตาย “หลอดเลือดแดงใหญ่ มีเลือดออกในผนัง” ซึ่งลักษณะของการปริแตกที่ไม่ได้เกิดจากแรงกระทำจากภายนอก ส่วนใหญ่เกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน ประกอบกับผู้ป่วยมีโรคประจำตัว ดังนั้นการเสียชีวิตไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการนวด น่าจะเกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่นมากกว่า

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/erD7G-XHdos