ข่าวโซเชียล
เปิดไทม์ไลน์ ‘นวดบิดคอมรณะ’ ก่อน ‘น้องผิง’ สิ้นใจ แม่จี้ร้านรับผิดชอบ นวดจุดอันตรายถึงชีวิต
โดย thichaphat_d
9 ธ.ค. 2567
176 views
อุทาหรณ์สายนวด นักร้องสาวรถแห่ นวดท่าบิดคอป่วยติดเตียง นอนเป็นเจ้าหญิงนิทรากว่า 2 เดือน ล่าสุดเสียชีวิต แม่ติดใจร้าน นวดจุดอันตราย ชี้หากนวดแล้วกระดูกคอเคลื่อนจะเป็นอันตรายถึงชีวิตแน่นอน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ผิง ชญาดา” ซึ่งเป็นนักร้องที่ จ.อุดรธานี หลายคนรู้จักในชื่อ “ผิง ชญาดา กีตาร์เรคคอร์ด” โพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระบุว่า
“หนูไม่รู้จะเริ่มยังไงดี คนทักถามเยอะมากว่าเป็นอะไร คืองี้หนูไปนวดที่ๆหนึ่งมาค่ะในอุดร อาการตอนก่อนไปนวด คือ หนูปวดแค่ไหล่เฉยๆ ค่ะ หนูไปนวดครั้งแรก อาการตอนนวดเสร็จปกติค่ะ ผ่านมา 2 วันหนูเริ่มปวดท้ายทอย หนูนึกว่าเป็นอาการปวดของการนวดปกติ (มีบิดคอนะคะ)
หลังจากนั้นหนูกินยาระงับอาการค่ะ ผ่านไปอีก 1 สัปดาห์ หนูเริ่มมีอาการชาลงแขนค่ะ ไปนวดอีกหมอคนเดิมห้องเดิม รอบนี้ (บิดคอ) อีกนะคะ ผ่านไป 2 สัปดาห์หนูเริ่มปวดตึงมากๆ มากๆ ค่ะ จนนอนหงายคว่ำไม่ได้
แต่แม่หนูเป็นหมอนวดหนู เรียนนวดมาตั้งแต่เด็กๆค่ะ หนูชอบนวดมาก หนูยังไม่เอะใจอะไรค่ะ นึกว่าเป็นเอฟเฟคจากการนวดอีก (ปวดตัวแบบนี้)
หนูไปอีกค่ะ ห้องเดิม เบอร์เดิม แต่เป็นคนใหม่ คนนี้นวดแรงบวมช้ำอยู่เป็นสัปดาห์ (ไม่ใช่คนที่บิดคอนะคะ) มีล้วงใต้ราวนม (รักแร้)ค่ะ
หลังจากนั้นหนูกินยาเพื่อบรรเทาอาการมาตลอดค่ะ เริ่มมีอาการไฟซ็อตไปปลายนิ้วค่ะ คันมากจนอยากตัดมือทิ้ง ร้อนๆหนาวๆตลอดเวลาค่ะ ก้มแล้วร้าวลงขา ซีกขวา รู้ว่าตัวเองชา ก็ตอนทาโคโลน หลังจากรอบที่3 ที่ไปนวดค่ะ เริ่มรามไปท้อง ราวนม อาการชาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ
ผ่านไปอีก 2 อาทิตย์ แขนขวาหนูเริ่มยกไม่ได้ค่ะ(อ่อนแรง) จนถึงตอนนี้ร่างกายหนู ใช้งานได้ไม่ถึง50%ค่ะ หนูมาเล่าเพราะมีคนถามมาเยอะ
อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับใครที่ชอบนวดมากๆนะคะ หนูจะต้องหายค่ะ หนูทรมานมาก อยากทำงานแล้วค่ะ แต่ตอนนี้รอแค่เวลา ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ”
ผู้สื่อข่าวย้อนไปดูโพสต์ของน้องผิง เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม เธอโพสต์ “แชร์ประสบการณ์ ปวดตัวไปนวด สรุป เป็นหนักกว่าเดิม คือเดิมตัวยกของหนักก็มีปวดไหล่ปวดคออาการปกติเลย ไปนวดเพราะอยากหาย สรุปได้กระดูกคอเคลื่อนกลับมา ทับเส้นประสาทอีก ตาย อาการ แขนกระตุกตลอดเวลา คันทั้งที่ไม่มีตุ่มอะไร ชาครึ่งซีก ตั้งแต่หัวไปเท้า อ่อนแรงยกของไม่ขึ้น (ใส่กางเกงแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ) ปวดทีลามไปทั้งตัว ทรมานมาก เพราะกระตุกจนทำอะไรไม่ได้เลย ปวดกว่าเดิมอีกตั้งหาก เป็นประสบการณ์ที่แย่มากๆสำหรับคนอายุแค่20”
อีกโพสต์ เธอเขียน “มีอาการชาครึ่งตัว มือสั่น กระตุก ปวดรุนแรง ซีกขวาอ่อนแรงยกของของไม่ได้ = บอกว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษ ตรวจมาละไม่เจอ สรุปได้ยาแก้เครียด กับยาพารา โอ้ยยยยยย กะสิบ่เบิ่งให้หนูแน่เนาะค้า คลำๆเบิ่งกะได้ ซีกขวาใช้งานบ่ได้แล้วค้าาาา”
หลังจากนั้น วันที่ 8 พฤศจิกายน เธอเช็คอินผ่านเฟซบุ๊ก ว่ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดร และเขียนข้อความ “หนูเมื่อยหลาย” (หนูปวดมาก)
จนวันที่ 18 พฤศจิกายน เธอโพสต์อัปเดต บอกว่านอนติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
“หนูอยากตอบ แชทอยากตอบคอมเม้นต์ทุกคนแต่หนูทำไม่ได้ขยับเป็นเกร็งตลอดนอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ”
จนกระทั่งเช้าวานนี้ (8 ธ.ค.67) น้องผิงเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์อุดร
ด้านแฟนหนุ่มของน้องผิง โพสต์ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก “Phumnaraong wongkong” ทำให้รู้ว่า น้องผิง ไปนวดวันที่ 5 ตุลาคม หลังเสร็จงานแห่แล้ว ผิงมีอาการปวดหลัง พอนวดเสร็จเริ่มมีอาการชาไปครึ่งตัว
โพสต์แรก วันที่ 21 พฤศจิกายน ระบุว่า “เหตุเกิดเพราะ วันที่ 5 ตุลา เสร็จจากงานแห่แล้ว ผิงบอกปวดหลัง ผมก็เลยพาผิงไปนวด ที่ที่นึงในอุดร พอนวดเสร็จก็เริ่มมีอาการชาไปครึ่งตัว ใช้งานแขนซ้ายไม่ได้ พอเวลาผ่านมาสักระยะ ก็เริ่มใช้งานไม่ได้ทั้งตัว จนถึงทุกวันนี้ ในใจผมก็อยากไปเอาผิดร้านนวด แต่ว่าไม่รู้ว่าหลักฐานจะเยอะมาพอหรือเปล่า ทั้งจำไม่ได้ว่านวดกับหมอคนไหน มันก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว”
จากนั้น แฟนหนุ่มก็อัปเดตอาการของน้องผิงมาตลอด ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. ผิงหายใจเองไม่สะดวกจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แฟนหนุ่มบอกว่า ตนเองร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะให้ร้องแล้ว
ถัดมาอีก 1 วัน (24 พ.ย.67) แฟนหนุ่มอัปเดตว่า ผิงต้องย้ายเข้าไปอยู่ชั้นผู้ป่วยหนัก หมอบอกว่า ติดเชื้อในกระแสเลือด โรคเก่ากำเริบ เลยเกิดอาการช็อก
วันต่อมา 25 พ.ย.67 อาการผิงทรุดลงอีก หมอบอกว่า ต้องเจาะคอ เนื่องจากถ้าใส่เครื่องช่วยหายใจเกิน 7 วัน (วันนี้วันที่ 3) อาจจะติดเชื้อ โอกาสรอดอาจจะน้อย ถ้าเจาะคอมาแล้วผิงหายใจเองได้ปกติ ร่างกายก็จะค่อยๆ ฟื้นฟู
แต่อาการของผิงไม่ดีขึ้น วันที่ 27 พ.ย.แฟนหนุ่มโพสต์แจ้งว่า ผิงต้องย้ายเข้าห้อง ICU เนื่องจากความดันต่ำ ช็อค มีการติดเชื้อ แต่ยังติดไม่มาก เลยจะเจาะคอแล้วให้ยาฆ่าเชื้อทางคอ
แต่เหมือนว่าอาการของผิงไม่ดีขึ้นเลย เพราะวันที่ 1 ธ.ค.แฟนหนุ่มโพสต์ว่า “ตอนนี้ผิงนอนสลบอยู่ ICU เข้าวันที่5แล้วครับ 2-3 วันที่ผ่านมา ผิงมีอาการหัวใจเต้นช้า ความดันต่ำ และตรวจเจออีกโรคนึงก็คือ สมองบวม แต่มาวันนี้ ทั้งหัวใจ และความดัน เริ่มดีขึ้นแล้วครับ เหลือแค่รอผิงตื่น ที่ผิงนอนไม่ได้สติอยู่ตอนนี้คือเกี่ยวกับระบบประสาทและสมองครับ ตอนนี้กำลังให้ยาอยู่
ถ้าผิงตื่นขึ้นมาแล้ว ก็จะได้ให้ผิงฝึกหายใจเอง(ตอนนี้ใช้ เครื่องช่วยหายใจ100% เพราะว่าผิงไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถหายใจเองได้) ถ้าฟื้นมาแล้ว ก็จะได้ถอดเครื่องช่วยหายใจ แล้วก็ทำการรักษาต่อไปครับ”
จากนั้น วันที่ 7/12/67 แฟนหนุ่ม ขอรับบริจาคเลือด เนื่องจากเกร็ดเลือดต่ำ
8 ธ.ค.67 แฟนหนุ่มโพสต์ “00:59 ตอนนี้ผิงเริ่มไม่ไหวแล้วนะครับ หมอบอกว่าตอนนี้อยู่ได้เพราะยา โอกาสรอดแทบจะไม่มี… ไม่คิดเลยว่าการบอกรักครั้งนั้น มันจะเป็นครั้งสุดท้าย”
และโพสต์สุดท้าย แฟนหนุ่มแจ้งข่าว “06.08 ผิงไม่อยู่แล้วนะครับ ผิงจากไปแล้ว”
ขณะที่เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.67) เวลา 11.00 น. ญาตินำร่างน้องผิงกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านพัก ใน ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี
นางฉันธกาญจน์ พร้าวหอม อายุ 47 ปี แม่ของน้องผิง เล่าว่า ตนเป็นหมอนวดแผนโบราณ มีลูก 3 คน ชาย 2 คน หญิง 1 คน น้องผิงเป็นคนสุดท้อง เป็นคนชอบร้องเพลงลูกทุ่งและหมอลำ เป็นนักร้องรถแห่และเรียนไปด้วย หลังเรียนจบ ม.6 น้องผิงไปเป็นนักร้องประจำกับรถแห่
แม่เล่าอาการป่วยของลูกสาว เริ่มแรกเดือนตุลาคม 2567 น้องผิงมีอาการปวดไหล่และคอ ลูกอยากให้ตนนวดให้ แต่ตนเพิ่งผ่าตัดมานวดไม่ได้ ลูกจึงไปนวดที่ร้านนวดแผนโบราณที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี
หลังนวดกลับมา น้องผิงส่งแชทมาเล่าว่า นอนหงายไม่ได้ เพราะปวดต้นคอ เลยกินยาแก้ปวดตลอด เพราะคิดว่าเกิดเอฟเฟ็กต์จากการนวด จึงกลับไปนวดใหม่เป็นครั้งที่ 2 กับหมอนวดคนเดิม โดยมีการหักคอซ้ำเป็นครั้งที่ 2 หลังจากนั้นอาการปวดคอก็มากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ไปซื้อยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อกินตลอด จากนั้นก็มีอาการชาลงแขนซ้าย มือสั่น ก็ยังคิดว่าเกิดจากเอฟเฟ็กต์เหมือนเดิม จึงไปนวดครั้งที่ 3 อีก เป็นห้องเดิมแต่หมอนวดคนใหม่ ซึ่งหมอนวดคนนี้ได้ล้วงรักแร้ด้วย กลับมาลูกสาวมีอาการหนัก มีอาการแขน-ขาชา อ่อนแรง เริ่มจากแขนซ้าย ลำตัวซ้าย และขาซ้าย ซีกซ้ายใช้การไม่ได้เลย หลังจากนั้นก็เริ่มชาทางซีกขวา ซึ่งมีอาการเหมือนกัน แล้วก็เดินไม่ได้
แม่ไล่ไทม์ไลน์ว่า ช่วงที่ลูกยังเดินได้ ลูกเล่าอาการให้ฟัง ตนซึ่งเป็นหมอนวดเหมือนกันก็เช็กอาการชาว่าเกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณใด แต่ไม่พบสาเหตุที่จะทำให้ชาและอ่อนแรง จึงถามลูกว่าหมอนวดได้หักคอให้หรือไม่ ลูกตอบว่าหัก 2 รอบ แม่รู้เลยว่ากระดูกคอต้องเคลื่อน จึงบอกให้ลูกไปตรวจที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ไปเล่าอาการให้หมอฟัง หมอสอบถามอาการ และไม่เชื่อว่าอาการนี้เกิดจากการนวด พอเห็นมือน้องผิงสั่น ก็ถามว่าน้องผิงติดยาเสพติดไหม ซึ่งคำพูดนี้ทำให้ตนเสียใจมาก หลังจากนั้นหมอก็ให้แค่ยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อมากิน และให้ลูกกลับมารักษาตัวที่บ้าน โดยไม่ได้เอ็กซเรย์ให้
จากนั้น แม่จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำอำเภอพิบูลย์รักษ์ หมอได้เอกซเรย์ให้ พบว่ากระดูกต้นคอเคลื่อนจริง จึงนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลหนองหาน
โรงพยาบาลหนองหาน เอกซเรย์ซ้ำก็พบว่ากระดูกคอเคลื่อน โดยกระดูกคอ ซี่ที่ 1 , 2 และ 3 เคลื่อน จึงฉีดยาแก้ปวดและให้กินยา จากนั้นก็นัดพบแพทย์อีกครั้งในวันที่ 16 พ.ย.67 แต่น้องผิงรอไม่ได้ เพราะมีอาการปวดมากขึ้น อ่อนแรงมากขึ้น จึงไปพบหมอก่อนนัดคือวันที่ 6 พ.ย.
จากนั้น น้องผิงถูกส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีอีกครั้ง โดยไปมาระหว่างบ้านกับโรงพยาบาล แต่วันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา น้องมีอาการหนัก จึงพาไปโรงพยาบาลอีกครั้งและนอนยาว จนวันที่ 7 ธ.ค.น้องมีอาการปอดเป็นฝ้า ติดเชื้อชนิดดื้อยา สมองบวม ต้องใช้ยาจากต่างประเทศรักษา และในเช้าวันที่ 8 ธ.ค.67 น้องเสียชีวิต
แม่บอกว่า ก่อนจะเสียชีวิต ผิงเป็นเจ้าหญิงนิทรา อยู่ในห้องไอซียู ประมาณ 10 คืน จนคืนวันที่ 7 ธ.ค. หมอเรียกแม่ไปถามว่า ถ้าหัวใจน้องหยุดเต้นจะให้ปั๊มหัวใจหรือไม่ แม่ตอบว่า ไม่ เพราะถ้าปั๊มหัวใจแล้วน้องผิงก็อยู่กับเราไม่นาน เพราะทุกอย่างในร่างกายรวนไปหมดแล้ว ปอดก็เป็นฝ้า ติดเชื้อชนิดดื้อยา เลือดมีเชื้อรา เชื้อขึ้นสมองบวม ใช้ยาแพง ยาเมืองนอก ยาแรง แต่ยาก็มีผลกดภูมิคุ้มกันของน้องผิง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตหมอบกว่าติดเชื้อมาก ร่างกายรับไม่ไหว ในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 หมอจะออกเอกสารระบุสาเหตุการเสียชีวิตให้
คุณแม่ยังสาธิตวิธีการนวดบิดคอ และบอกว่า ติดใจการเสียชีวิตของน้องผิงมาก เพราะตนก็เป็นหมอนวด จุดไหนอันตราย หรือไม่อันตรายเรารู้ หากนวดแล้วกระดูกคอเคลื่อนจะเป็นอันตรายถึงชีวิตแน่นอน เหตุการณ์นี้อยากให้เจ้าของร้านออกมาแสดงความรับผิดชอบ ออกมาชี้แจงให้กระจ่าง โดยเฉพาะหมอนวด เพราะลูกเราร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว อยากฝากหมอนวด หากไม่มีความรู้เรื่องจัดกระดูกคออย่าไปทำแบบนี้
แม่บอกด้วยว่า น้องผิงชอบร้องเพลง ฝันอยากจะเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง เวลามีประกวดที่ไหนที่ผิงอยากไป แม่ก็จะพาไป และมีการเปิดค่ายเพลงเล็กๆ ใกล้บ้าน พอดีกับหัวหน้าค่ายกีต้าร์เรคคอร์ดเห็น ก็พาน้องผิงไปอยู่ค่าย ได้ออกเพลง 2 ซิงเกิล ยังไม่ทันมีชื่อเสียง ลูกก็ด่วนจากไป ค่ายเพลงก็มาเยี่ยมและช่วยเงินรักษา หลังจากนี้จะรอพี่ชายทั้งสองคนเดินทางกลับมาบ้าน จึงจะทำพิธีฌาปนกิจน้องผิง
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/szmIIRqKrPc
แท็กที่เกี่ยวข้อง นวดบิดคอ ,ผิง ชญาดา ,อุดรธานี ,หมอนวด ,เจ้าหญิงนิทรา ,นวดหักคอ ,น้องผิง