น้ำทะลักแนวคันกั้นประตูน้ำปากคลองบางบาล ท่วมบ้านเรือน สวนกล้วยหอม

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าสู่ภาวะวิกฤต หลังเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำเพิ่มขึ้น ไหลทะลักล้นแนวคันกั้นประตูน้ำปากคลองบางบาล ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง บ้านเรือน สวนกล้วยหอม และโรงเรียนในพื้นที่ถูกน้ำท่วมเสียหายอย่างหนัก นอกจากนี้ วัดโบสถ์ ซึ่งเป็นวัดโบราณอายุกว่า 100 ปี ยังถูกน้ำท่วมสูง ส่งผลให้โบสถ์เก่าแก่ทรุดตัวลง

น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำยกตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 40-50 เซนติเมตร สร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนบริเวณปากคลองบางบาล น้ำไหลล้นคันกั้นและทะลักเข้าสู่บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ประชาชนต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินออกจากบ้าน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่สามารถรับมือได้ทัน สวนกล้วยหอมที่กำลังอยู่ในช่วงออกผลผลิตกว่า 1,000 ต้น ถูกน้ำท่วมจนเกิดความเสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ ถนนในหมู่บ้านเริ่มถูกน้ำท่วมมากขึ้น รวมถึงโรงเรียนวัดโบสถ์ ที่ครูและนักเรียนต้องใช้เศษคอนกรีต มาปิดกั้นน้ำที่ไหลเซาะพื้นผิวถนนเพื่อลดการกัดเซาะ

สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือโบสถ์เก่าแก่ของวัดโบสถ์ ที่ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ระดับน้ำเริ่มแตะพื้นโบสถ์ ซึ่งส่งผลให้โครงสร้างของโบสถ์ทรุดตัว พระสุนทร สุนทโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ เปิดเผยว่า หลวงพ่อใหญ่ พระประธานในโบสถ์ เริ่มทรุดตัวไปทางทิศใต้ประมาณ 15-20 เซนติเมตร สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านในพื้นที่ หากน้ำยังคงเพิ่มระดับต่อไป อาจส่งผลให้พระประธาน ทรุดตัวลงมาเพิ่มขึ้น

พระสุนทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาเสริมคันกั้นน้ำที่บริเวณปากคลองบางบาล ระหว่างหมู่ 4 และหมู่ 1 เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำขยายท่วมเป็นวงกว้างไปมากกว่านี้ การเสริมคันกั้นน้ำจะสามารถช่วยลดความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน และวัดโบราณที่อยู่ในเส้นทางน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ