สาวร้อง ศธ. ขอความเป็นธรรม สอบครูติดอันดับ 1 แต่ชื่อหาย ด้าน โฆษก ศธ. ขีดเส้น 7 วัน ได้ผลสรุป

นายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางมาพร้อม นางสาวเบญญาภา ผู้เสียหาย เพื่อเข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ถึงพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอความธรรม กรณีการสอบบรรจุพนักงานราชการตำแหน่งครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จังหวัดสระแก้ว ที่พบครั้งแรกมีรายชื่อตนได้ลำดับที่ 1 ของการสอบ แต่ต่อมากลับมีการประกาศ รายชื่อใหม่โดยไม่มีชื่อตน

ซึ่ง นางสาวเบญญาภา ผู้ที่สอบได้ลำดับที่ 1 กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่มีการประกาศผลการสอบ 2 รอบ โดยครั้งแรก ประกาศ เมื่อวันที่ 9 กันยายน มีชื่อของตนอยู่ในลำดับที่ 1 แต่ต่อมาวันที่ 12 กันยายน มีการแก้ไขประกาศผลการสอบใหม่ โดยไม่มีชื่อของตนเองอยู่ในลำดับที่ 1-10 ของผู้สอบผ่านเลย ตนจึงมีข้อสงสัยว่าเกิดการทุจริตหรือไม่ ทั้งนี้หลังเกิดเหตุการณ์ ยังไม่เคยได้รับการชี้แจงใดที่ชัดเจน มีเพียงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อธิบายเพียงว่า มีความผิดพลาดที่ข้อสอบจึงมีการเปลี่ยนผลคะแนน ซึ่งก็ไม่ชัดเจนและยังไม่คลายข้อสงสัย ตนจึงนำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อให้สังคมช่วยตรวจสอบ แต่ล่าสุด มีผู้ใหญ่ในพื้นที่ติดต่อมาข่มขู่ให้ตนลบโพสต์ดังกล่าว ในวันนี้จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรม

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาได้รับการติดต่อเพื่อเยียวยาเบื้องต้น ให้ตนไปรับตำแหน่งครูอัตราจ้างในโรงเรียนใกล้บ้าน แต่สำหรับตนยังไม่ชัดเจนว่าข้อเสนอนั้นระยะยาวหรือมีความมั่นคงหรือไม่ จึงขอรอผลการตรวจสอบในครั้งนี้ก่อน เพราะเชื่อว่าตนก็ทำข้อสอบได้ แต่ทั่งนี้หากมีการตรวจสอบและนำคำตอบมาเปิดเผย สรุปว่าตนคะแนนไม่ผ่าน ก็พร้อมยอมรับในผลนั่น

ด้าน นายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการเรียกร้องความเป็นธรรม โดยหวังว่า กระทรวงศึกษาธิการ จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและจะเปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบอย่างโปร่งใส ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยมีความเชื่อว่า การสอบบรรจุข้าราชการนั้นใ นสังคมไทยยังมีระบบอุปถัมภ์ คือกลุ่มเด็กเส้น แต่ไม่เคยมีการตรวจสอบ หรือออกมาเรียกร้องเช่นกรณีนี้

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์หลังรับเรื่องร้องเรียน กรณีนี้ทาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำชับและสั่งการให้ติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่มีการโพสต์ข้อมูล โดยเมื่อ 13 กันยายน ได้ให้ สพฐ. ดำเนินการติดตามเรื่อง ส่งนิติกรลงพื้นที่ จังหวัดสระแก้ว เพื่อทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆเช่น ชุดข้อสอบ กระดาษคำตอบ มาตรวจสอบ ว่าเป็นลักษณะความประมาทเลินเล่อ หรือตั้งใจทุจริตในการประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบไม่ตรงกัน 2 ครั้ง ยืนยันว่าในเรื่องนี้คนทำผิดจะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน โดยกำหนดระยะเวลา 7 วันต้องได้ข้อสรุป หากพบว่าเป็นการจงใจทุจริต มีโทษสูงสุดคือไล่ออกจากข้าราชการ

เบื้องต้น ทราบว่าทาง สพฐ. ได้ยื่นเสนอให้ผู้เสียหายเลือกเป็นครูอัตราจ้างในสถานศึกษาใกล้บ้าน เป็นแนว สพฐ.ส่วนกลาง ที่ดำเนินการในเบื้องต้น ไม่ใช่การยื่นข้อเสนอหรือเงื่อนไขเพื่อปิดปากจากพื้นที่แต่อย่างใด

ส่วนกรณี ผลการสอบในครั้งที่กำหนดจะต้องมีการรายงานตัวในวันพรุ่งนี้ (17 กันยายน) จะสั่งการให้ชะลอการรายงานตัวไปก่อน เพื่อรอให้ผลการตรวจสอบชัดเจน

นายสิริพงศ์ กล่าว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญต่อกรณีนี้เป็นอย่างมาก โดยได้กำชับให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ไม่ปกป้องใคร และยึดหลักความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเคร่งครัด และทราบว่าในขณะนี้ ทาง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้เข้าร่วมสอบสวนข้อเท็จเรื่องนี้ด้วย