สังคม

กว่าจะสิ้นฤทธิ์! ล่าระทึก สิบล้อคลั่งชนดะ ดับ 1 หนีข้ามจังหวัด โดดน้ำมุดท่อ พยายามจบชีวิต

โดย passamon_a

5 ก.ย. 2567

149 views

โชเฟอร์ 10 ล้อ คลั่งชนชาวบ้านเดินข้ามถนน แล้วหนี ตำรวจไล่ยิงสกัดยางรถ จนท.โดนมีดฟันสวน ขับหนีชนดะรถเสียหาย ทับ จยย.รับจ้างดับ ผู้โดยสารหญิงเจ็บสาหัส ก่อนขับหนีไปบางพลี กระโดดน้ำคลองว่ายน้ำหนีไป 2 กิโล มุดท่อระบายน้ำโรงงานซ่อนตัว ลูกสาวเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวไม่เป็นผล บอกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ก่อนใช้เชือกห้อยพระรัดคอจนหมดสติ ต้องหามออกจากท่อ


เมื่อวันที่ 4 ก.ย.67 เวลา 13.00 น. เกิดเหตุระทึกกลางกรุง คนขับรถ 10 ล้อ ที่ไม่มีกระบะท้าย ลักษณะเป็นรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ขับรถไปเฉี่ยวชนคนข้ามถนนตรงทางม้าลาย บริเวณแฟลตการท่าเรือ ถนนอาจณรงค์ พื้นที่ สน.ท่าเรือ เป็นชาย อายุ 68 ปี ทราบชื่อภายหลังว่า ลุงแอ๊ด ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่แทนที่ชนแล้วจะหยุดจอด รถบรรทุกคันนี้กลับขับหนีไปตามถนนอาจณรงค์ เลี้ยวซ้ายออกถนนพระราม 4 มุ่งหน้าแยกกล้วยน้ำไท


จากนั้นก็ขับรถวนไปมา โดยไปกลับรถหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง แล้ววิ่งไปตามถนนพระราม 4 มุ่งหน้าแยกกล้วยน้ำไท จากนั้นก็กลับรถ ขับมาตามถนนพระราม 4 มุ่งหน้าแยกพระโขนงอีกครั้ง แล้วก็ไปกลับรถบริเวณหน้าโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ตรงจุดนี้เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์รับจ้างที่มีผู้โดยสาร คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้โดยสารหญิงก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งเหตุการณ์ตรงจุดนี้ กล้องวงจรปิดจับภาพได้ขณะที่รถ 10 ล้อ กำลังกลับรถและทับรถจักรยานยนต์รับจ้างคันดังกล่าว ท่ามกลางความตื่นตกใจของประชาชนที่เห็นเหตุการณ์


จากนั้นรถ 10 ล้อ ขับหลบหนีมุ่งหน้าแยกเกษมราษฎร์ ไปกลับรถหน้าบิ๊กซี พระราม 4 หน้าช่อง 3 ตำรวจ สน.ท่าเรือ จำนวน 4 นาย พร้อมรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับรถไล่ติดตามรถ 10 ล้อคันนี้ พยายามเข้าสกัดจับ โดยช่วงที่รถติดไฟแดงตรงแยกกล้วยน้ำไท ตำรวจนายหนึ่งพยายามปีนขึ้นไปบนรถ 10 ล้อ และทุบกระจกรถ เพื่อจะดึงตัวคนขับรถ 10 ล้อออกมา แต่คนขับกลับเอามีดออกมาฟันตำรวจ ทำให้ตำรวจต้องล่าถอย ก่อนที่ตำรวจอีก 3 นาย จะระดมยิงยางรถ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้รถเคลื่อนที่ แต่คนขับพยายามขับเบียดขวาและตบออกซ้าย ทำให้รถเสียหลักไปเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของประชาชนที่จอดติดไฟแดง ได้รับความเสียหาย


ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดบริเวณแยกกล้วยน้ำไท จะเห็นวินาทีที่รถ 10 ล้อ บีบแตรดังลั่น และพยายามขับรถแทรกรถคันอื่น แต่ไม่สามารถไปได้เพราะติดสัญญาณไฟแดง ก่อนที่ตำรวจสายตรวจ สน.ท่าเรือ จะขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตามมาถึง และพยายามเข้าระงับเหตุ พร้อมทั้งใช้ปืนยิงใส่ยางล้อรถหลายนัด เพื่อสกัดจับ แต่รถ 10 ล้อไม่ยอมหยุด ขับพุ่งชนรถที่จอดด้านหน้า ตำรวจก็ยิงปืนใส่ยางรถอีก แต่รถ 10 ล้อก็ขับหนีไปได้


ทีมข่าวได้คุยกับคนที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดรถ 10 ล้อ บอกว่ารู้สึกกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็เข้าใจการทำงานของตำรวจ เนื่องจากหากไม่สกัดกั้นก็จะทำให้ประชาชนรายอื่นได้รับความเดือดร้อน แม้กระสุนบางส่วนที่เจ้าหน้าที่ยิงสกัด จะกระเด็นมาถูกทรัพย์สินของบริษัทได้รับความเสียหายก็ตาม


นายทวีชัย อายุ 32 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ใกล้จุดเกิดเหตุ และเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนยืนอยู่บริเวณหน้าร้าน เห็นนาทีที่ตำรวจใช้ปืนยิงยางรถ 10 ล้อ เสียงดังสนั่นจนตกใจ ตนเองวิ่งเข้าไปหลบในร้านเพราะกลัวโดนลูกหลง เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าบริเวณนั้น ต่างพากันหลบไปอยู่หลังร้าน พอออกมาดูก็พบว่ารถ 10 ล้อ ได้ขับหลบหนีไปแล้ว


จากนั้นรถ 10 ล้อ ยังขับหลบหนีไปได้อีก แม้ถูกตำรวจยิงสกัดยางล้อรถ โดยเลี้ยวขวาแยกกล้วยน้ำไท ใช้เส้นเลียบทางรถไฟสายเก่า-ท่าเรือ มุ่งหน้าถนนบางนา-บางพลี จ.สมุทรปราการ หลบหนีไป


นอกจากนี้ มีกล้องหน้ารถเบนซ์ ของประชาชน ที่วิ่งอยู่ในเลนกลาง บนถนนอาจณรงค์ จับภาพเหตุการณ์ขณะที่คนขับรถ 10 ล้อ พยายามหลบหนีและเบียดมาชนรถเบนซ์ ระหว่างนั้นมีตำรวจสายตรวจ สน.ท่าเรือ 2 นาย ขี่รถจักรยานยนต์มา 1 คัน พยายามมาสกัดรถ 10 ล้อให้จอด แต่รถ 10 ล้อไม่ยอมจอด ปีนเกาะกลางถนนเพื่อกลับรถ และขับหนีไป อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ


โดยตำรวจไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด กระทั่งพบรถ 10 ล้อ บริเวณสะพานข้ามคลองบางน้ำจืด ขามุ่งหน้าเข้าเอื้ออาทร เอเอพี ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยจุดที่พบรถ 10 ล้อ ห่างจากจุดเกิดเหตุ 30 กิโลเมตร สภาพรถบริเวณล้อหน้า ยางแตกเหลือแต่กระทะล้อ กระจกด้านคนขับแตกละเอียด ภายในห้องโดยสารมีคราบเลือด ส่วนชายคนขับกระโดดลงไปภายในคลองบางน้ำจืด ว่ายน้ำหลบหนี


ผู้เห็นเหตุการณ์ตรงจุดนี้ เล่าว่า ตนเองขี่รถมาตามเส้นทางปกติภายในซอยวัดศรีวาลีน้อย เห็นรถ 10 ล้อคันดังกล่าวจะเลี้ยวปาดหน้าเข้ามาในซอยอยู่ดี มุ่งหน้าเอื้ออาทร โดยมีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมา 2 คัน จนมาถึงสะพานข้ามคลองบางน้ำจืด คนขับรถ 10 ล้อ ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ นายวัลลภ อายุ 43 ปี กระโดดลงน้ำไป เจ้าหน้าที่ยิงปืนขู่ให้มอบตัว แต่คนขับรถ 10 ล้อ ก็ว่ายน้ำหนีต่อไปเรื่อย ๆ โดยเจ้าตัวใช้วิธีเกาะกล่องโฟมเพื่อพยุงตัว ลอยคอไหลไปตามกระแสน้ำ


ขณะที่ตำรวจทั้ง สน.ท่าเรือ และตำรวจ สภ.บางพลี สนธิกำลังเดินเท้าติดตามทั้งสองฝั่งคลอง เพื่อเกลี้ยกล่อมให้นายวัลลภ ยอมมอบตัวและขึ้นมาจากคลอง แต่นายวัลลภไม่ยอมและยังคงลอยคออยู่กลางคลอง เจ้าหน้าที่ต้องเดินไล่ตามเพื่อไม่ให้คลาดสายตา ท่ามกลางอุปสรรคต่าง ๆ มากมายบริเวณริมคลอง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าเข้าประชิดตัวนายวัลลภ เพราะทราบว่าผู้ก่อเหตุมีมีดทำครัวติดมือมาด้วย


เจ้าหน้าที่ติดตามไปจนถึงปากท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ ที่หลังโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่นายวัลลภกระโดดลงคลองมาเกือบ 2 กิโลเมตร มีชาวบ้านชี้ยืนยันว่าเห็นนายวัลลภ มุดเข้าไปในท่อระบายน้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดล้อมพื้นที่ และประสานทางโรงงานดังกล่าว เพื่อหาแนวของท่อระบายน้ำ ป้องกันการมุดท่อระบายน้ำหลบหนีไปทางช่องทางอื่น


กระทั่งทราบว่า ท่อระบายน้ำเป็นท่อตัน ไม่สามารถจะหลบหนีออกช่องทางอื่นได้ นอกจากทางเข้าด้านหน้าคลอง อีกทั้งท่อระบายน้ำดังกล่าวเป็นลักษณะทางเข้าจากด้านคลอง ระยะทางลึกประมาณ 10 เมตร แล้วเป็นสามแยก ทางตัน ซ้าย ขวา ซึ่งเป็นมุมอับที่สามารถหลบซ่อนตัวให้พ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ หากมองจากด้านนอกเข้าไปด้านใน จะมองไม่เห็น ทำให้นายนรินทร์ ผู้ช่วยเจ้าพนักงานของ สน.ท่าเรือ ตัดสินใจมุดท่อเข้าไปสำรวจด้านใน กระทั่งไปเจอตัวนายวัลลภ มุดน้ำซ่อนตัวอยู่ด้านใน แต่เจ้าตัวถือมีดปลายแหลมฟาดใส่เจ้าหน้าที่ และไม่ยอมให้เข้าใกล้ ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะกดดันและเกลี้ยกล่อมทุกทาง  


กระทั่งเวลาผ่านไปราวชั่วโมงเศษ เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อลูกสาวของนายวัลลภได้ จึงต่อโทรศัพท์ถึงลูกสาว แล้วเจ้าหน้าที่มุดเข้าท่อระบายน้ำ เปิดลำโพงโทรศัพท์ให้ลูกสาวพูดเกลี้ยกล่อมให้พ่อยอมมอบตัว แต่ไม่เป็นผล นายวัลลภพูดกับลูกสาวว่า ตนเองขับรถชนคนตาย และไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว


ซึ่งจังหวะนั้น เจ้าหน้าที่หันไปเห็นว่านายวัลลภกำลังใช้เชือกร่มห้อยพระที่คอ พยายามรัดคอตนเองและเริ่มมีอาการแย่ลง จึงตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสี่ยงชีวิตมุดท่อระบายน้ำ เพื่อเข้าไปชาร์จตัวในท่อได้สำเร็จ และรีบพาตัวออกมาด้านนอก ซึ่งพอออกมาจากท่อระบายน้ำ พบว่านายวัลลภมีอาการหมดแรง หายใจติดขัด จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบางพลี


ทีมข่าวได้คุยกับ จ.ส.ต.ไชยเชษฐ์ พิมพ์แพน ผบ.หมู่ (ป.) สน.ท่าเรือ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณถนนพระราม 4 ได้รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งขับรถบรรทุกในลักษณะน่าหวาดเสียว เฉี่ยวชนผู้อื่นแล้วหลบหนี จึงไปตรวจสอบพบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ขับวนรอบระหว่างตึกมาลีนนท์ ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. มุ่งหน้าแยกพระโขนง จากนั้นกลับรถขับมาทางตึกมาลีนนท์และมุ่งหน้าขาออก กระทั่งรถ 10 ล้อไปติดไฟแดงบริเวณแยกกล้วยน้ำไท


เมื่อ จ.ส.ต.ไชยเชษฐ์ และเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ รวม 4 นาย ขี่รถจยย.เข้าไปประชิดในจังหวะที่รถติด เพื่อบอกให้คนขับลงมาจากรถ แต่คนขับไม่ยอมลงจากรถ และมีท่าทางพยายามจะขับหนี แต่ตอนนั้นรถติด จ.ส.ต.ไชยเชษฐ์ จึงปีนขึ้นไปบนรถเพื่อจะควบคุมตัวคนขับ ปรากฏว่าคนขับใช้มีดยาวประมาณ 1 ฟุต ฟันไปมา เพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำให้ จ.ส.ต.ไชยเชษฐ์ บาดเจ็บที่แขนซ้าย  


เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ ใช้ปืนยิงใส่ยางรถร่วม 10 นัด เพื่อสกัดกั้นไม่ให้คนขับหลบหนี แต่คนขับรถบรรทุกขับรถเบียดขวาและออกซ้าย ทำให้รถเสียหลักไปเฉี่ยวชนกับรถยนต์ที่จอดติดไฟแดงได้รับความเสียหาย


ทีมข่าวได้คุยกับคนดูแลลานจอดรถบรรทุก ที่นายวัลลภขับรถอยู่ บอกว่า ลานจอดรถอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ และโดยปกติแล้วนายวัลลภเป็นคนขยันทำงาน โดยทำงานมาแล้ว 4 เดือน ดื่มเหล้าบ้างในวันหยุด ทางบริษัทที่นายวัลลภทำงานอยู่ ก็มีการสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดเป็นประจำ เนื่องจากบริษัทไม่ให้คนขับเสพยา หากตรวจเจอจะให้ออกทันที


ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ ได้ยกรถของกลางกลับไปที่ สน.ท่าเรือ ส่วนตัวนายวัลลภ คนขับ ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางพลี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวอย่างแน่นหนา


พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า เหตุนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลา 13.00 น. บริเวณถนนอาจณรงค์ พื้นที่ สน.ท่าเรือ ในตอนแรกผู้ก่อเหตุขับรถชนคนเดินข้ามถนนจนได้รับบาดเจ็บ แล้วหลบหนีมามาตามถนนอาจณรงค์ ออกไปแยกกล้วยน้ำไท หลังจากนั้นสายตรวจ สน.ท่าเรือ ได้รับแจ้งเหตุจึงแจ้งสกัดจับและติดตามไป จนกระทั่งทราบว่ารถคันดังกล่าวไปเฉี่ยวชนรถคันอื่น ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ อีก 2 ราย และผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บ


และรถบรรทุกคันดังกล่าวไปยูเทิร์นรถหน้า รพ.กล้วยน้ำไท พื้นที่ สน.คลองตัน และไปชนรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บชายหญิง 2 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นก็หลบหนี โดยมีสายตรวจของ สน.ท่าเรือ ไล่ติดตาม หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับรถขึ้นทางด่วน ไปลงที่บางนาและหลบหนีไปย่านบางพลี


ในส่วนของ สน.ท่าเรือ และ สน.บางนา ได้ประสานทาง สภ.บางพลี เพื่อเข้าร่วมการติดตามจับกุม โดยพบว่าผู้ก่อเหตุไปจอดรถทิ้งไว้บนสะพาน จากนั้นได้กระโดดลงน้ำและลอยคอไปเรื่อย ๆ และไม่นานเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายก็ช่วยกัน จนสามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้ ในเวลา 17.00 น.


เบื้องต้น ในส่วนความผิดหลัก ๆ คือ ขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งต้องตรวจสอบอีกครั้งว่ามีการกระทำผิดในเรื่องอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ ในคลิปจะเห็นได้ว่า ตรงแยกกล้วยน้ำไทที่เจ้าหน้าที่เข้าสกัดจับ ผู้ก่อเหตุพยายามต่อสู้โดยใช้มีด เบื้องต้นตรวจสอบประวัติการกระทำผิด พบว่าเคยถูกจับกุมในความผิดฐานครอบครองยาเสพติด ในปี 2560 ที่จังหวัดภูเก็ต


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/HwHe10eByO4

คุณอาจสนใจ

Related News