สังคม

ว่าที่บัณฑิตสาวเศร้า พาพ่อป่วยไป รพ.รัฐแห่งหนึ่ง แต่ถูกปฏิเสธการรักษา สุดท้ายพ่อเสียชีวิต

28 ก.ค. 2567

5.3K views

ว่าที่บัณฑิตสาวเศร้า พาพ่อป่วยไป รพ.รัฐแห่งหนึ่ง แต่ถูกปฏิเสธการรักษา สุดท้ายพ่อเสียชีวิต ขอสวมชุดครุยไว้อาลัยในงานศพพ่อ



วันนี้ (28 กรกฎาคม 2567) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดสระเพลง ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ซึ่งกำลังประกอบพิธีฌาปนกิจศพของนายสมพร อายุ 50 ปี ชาว สปป.ลาว โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของชาวบ้านที่มาร่วมงานโดยเฉพาะทางภรรยาและลูกสาวของนายสมพรฯ ที่สวมชุดครุยของคณะวิทยาการจัดการ เอกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มาร่วมพิธีฌาปนกิจผู้เป็นพ่อยืนกอดรูปร้องไห้เสียใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากนางสาววรรณภรณ์ อายุ 25 ปี นั้นเพิ่งเรียนจบและเตรียมเข้ารับใบปริญญาบัตรในวันที่ 21 สิงหาคม นี้ นอกจากนี้ทางนางสาววรรณภรณ์ฯ เตรียมตัวเป็นว่าที่เจ้าสาวเนื่องจากกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานในช่วงปลายปีนี้อีกด้วย แต่ทางนายสมพรฯ ผู้เป็นพ่อนั้นมาเสียชีวิตอย่างกะทันหันไปเสียก่อนยังไม่ทันเห็นลูกสาวได้ใส่ชุดครุย ทางนางสาววรรณภรณ์จึงสวมชุดครุยมาร่วมพิธีในครั้งเพื่อให้พ่อใด้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจ



โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้สืบเนื่องจากทางนายอธิบดี อายุ 30 ปี ลูกเขยของนายสมพรฯ ได้ร้องเรียนมายังสื่อมวลชนหลังจากนายสมพรฯนั้นมีอาการป่วยและไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนที่ทางโรงพยาบาลจะปฏิเสธการรักษาและกลับมาที่บ้านอีกครั้งแต่เนื่องจากอาการไม่ดีขึ้นจึงได้ไปหาหมออีกครั้งจนอาการทรุดลงทางโรงพยาบาลดังกล่าวจึงส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอีกแห่ง แต่กว่าจะไปถึงอาการของนายสมพรก็ทรุดหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา



นายนายอธิบดี ได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า นายสมพรฯนั้นได้ไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของคืนวันที่ 21 ก.ค. (เช้ามืดของวันที่ 22 ก.ค.) ด้วยอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกโดยไปยังห้องฉุกเฉินซึ่งมีเจ้าหน้าที่อยู่ประมาณ 3-4 คน โดยในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลไม่เชื่อว่าทางนายสมพรนั้นมีอาการวิกฤติจริง ทางเจ้าหน้าที่เลยแจ้งว่าที่นี่ เวลานี้รับเฉพาะกรณีที่ผู้ป่วยวิกฤติจริงเท่านั้น ตอนนี้มาทำไมทำอะไรไม่ได้ พร้อมกับให้กลับบ้านและปฏิเสธการรักษาท่าเดียว ซึ่งเวลานั้นทางครอบครัวได้ขอร้องให้ทางโรงพบาลรับนายสมพรเอาไว้เพื่อนอนรอดูสังเกตุอาการแต่ทางโรงพยาบาลได้ทำการปฏิเสธและไล่นายสมพรลงจากเปลผู้ป่วยให้มานอนตรงที่นั่งพักรอคิว ซึ่งในขณะนั้นทางนายสมพรนั้นอาการเริ่มทรุดหนักสังเกตจากสีหน้าเพราะไม่สามารถนั่งได้แล้ว



นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลได้มีการตำหนินายสมพรฯว่าทำไมถึงไม่ใส่หน้ากากอนามัยมาจึงให้แม่ยายของตนนั้นวิ่งออกไปซื้อหน้ากากอนามัยหน้าโรงพยาบาลเพื่อมาใส่ให้กับนายสมพร ก่อนที่จะให้กลับบ้านพร้อมจ่ายยาที่ดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวกับอาการป่วยของนายสมพร ซึ่งยาที่ให้มานั้นก็มียาบรรเทาอาการโรคภูมิแพ้ ยาลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเกลือแร่ ซึ่งจากรับยาทางโรงพยาบาลก็ให้กลับไปบ้านและบอกว่าให้มาใหม่ในวันรุ่งขึ้น(22 ก.ค.) แต่หลังจากกลับไปบ้านแล้วนายสมพรอาการไม่ดีขึ้นพร้อมกับทรุดหนักลงกว่าเดิมโดยอาเจียนเป็นเลือด



ซึ่งทางญาติจึงได้นำตัวนายสมพรไปยังโรงพยาบาลอีกครั้งตอนเวลา 06.00 น. กว่าจะได้รักษาก็เวลา 08.00 น. ซึ่งหลังจากไปรอบที่ 2 ทางหมอและพยาบาลก็ได้ตรวจร่างกายและอีกหลายอย่างก่อนที่จะเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้นพร้อมกับเกินความสามารถในการรักษาของโรงพยาบาลจึงได้มีการส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลอีกแห่ง ซึ่งกว่าจะมาถึงและเข้ารับการรักษาก็เป็นเวลา 11.00 น. แล้ว ซึ่งขณะกำลังรักษาอยู่ที่ รพ.ที่สองนั้น ทางแพทย์และพยาบาลก็ให้การรักษาอย่างเต็มที่ จนนายสมพรได้เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 22 ก.ค. ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนตั้งคำถามถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เนื่องจากตนรู้สึกว่าการดูแลรักษาคนไข้นั้นไม่เต็มที่และมารยาทก็ไม่ดี ทั้งเรื่องการให้นายสมพรฯพ่อตาของตนนั้นลงจากเปลไปนอนอยู่ที่นั่งรอคิว รวมไปถึงการตำหนิเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย ทำไมถึงต้องให้ทางแม่ยายของตนนั้นวิ่งออกไปหาซื้อหน้ากากอนามัยทั้งที่ทางโรงพยาบาลน่าจะมีแค่ 1 ชิ้น ก็ให้ไม่ได้เลยเหรอ



นายอธิบดี เล่าต่อว่า ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วนั้นทางตนและครอบครัวของแฟนได้มีการเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนไปยังสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาเพื่อให้เข้าตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังจากร้องเรียนไปไม่นานทาง ผอ.โรงพยาบาลได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยเพื่อหาทางเยียวยาต่างๆ แต่พฤติกรรมของทางโรงพยาบาลนั้นไม่ใช่ เนื่องจากในวันเผา(28 ก.ค.) นั้นทางโรงพยาบาลนั้นก็ไม่ได้ส่งตัวแทนมารวมไปถึงพวงหรีดเพื่อแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ตนรู้สึกรับไม่ได้กับเรื่องนี้และเตรียมที่จะดำเนินการให้ถึงที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีก



นางสาววรรณภรณ์ อายุ 25 ปี ลูกสาวของนายสมพรฯ เล่าให้ฟังว่า ที่ตนใส่ชุดครุยมาในวันนี้ก็เพื่อต้องการให้พ่อเห็นเพราะพ่อนั้นยังไม่เคยเห็นตนใส่ชุดครุยสักครั้งซึ่งตนจะเข้ารับปริญญาในวันที่ 21 ส.ค.นี้ และจะเข้าพิธีแต่งงานในช่วงปลายปีนี้แต่ทางพ่อนั้นไม่มีโอกาสได้เห็นแต่ต้องมาเสียชีวิตไปเสียก่อน ซึ่งตนก็สงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ รพ.เพราะพ่อของตนไปรับการรักษาตอนตี 3 ทางเจ้าหน้าที่กลับปฏิเสธการรักษาพร้อมไล่กลับบ้าน ซึ่งถ้าหากในวันนั้นเจ้าหน้าที่รับพ่อของตนไว้รักษาก็อาจทำให้มีโอกาสรอดชีวิตถึงแม้จะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม



ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนอยากให้ทาง รพ.ออกมาชี้แจงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงไม่รับพ่อของตนไว้รักษาตั้งแต่แรก ซึ่งทางแม่ของตนและพี่ชายก็พยายามบอกให้ทางโรงพยาบาลรับตัวพ่อเอาไว้เพื่อดูอาการเพราะอาการพ่อของตนนั้นไม่ดีแต่ทางโรงพยาบาลกลับปฏิเสธพร้อมกลับให้ไปรักษาตัวที่บ้านจนกระทั่งอาการพ่อของตนนั้นทรุดหนัก ส่งไปรักษาตัวไปอีก รพ. แต่สายเกินไปจนพ่อของตนนั้นเสียชีวิตในที่สุด



คุณอาจสนใจ

Related News