แม่ร้อง ลูกชายถูกรุ่นพี่รับน้องโหด ทำร้ายร่างกายจนเข้าไอซียู ไตวายเฉียบพลัน

จากกรณี แม่ร้องเพจ อีซ้อขยี้ข่าว 3 หลังลูกชายถูกรุ่นพี่รับน้องโหด ทำร้ายร่างกาย จนต้องเข้าไอซียู

ทีมข่าวช่อง 3 ได้พูดคุยกับ คุณเดือน แม่ผู้บาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า น้องเดล ลูกชาย อายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้น ปวส. ปี 1 สาขาช่างไฟฟ้า ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง โดยเหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา ลูกชายบอกว่า จะขอไปร่วมงานกิจกรรมรับน้องที่วิทยาลัย ซึ่งลูกบอกว่าทางวิทยาลัยไม่ได้จัดกิจกรรม แต่รุ่นพี่บางกลุ่มจัดกิจกรรมกันเอง โดยไม่ได้จัดในวิทยาลัย ไปจัดกิจกรรมข้างนอก

คุณเดือน บอกว่า วันที่ลูกชายจะไปเข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง ตนพยายามตักเตือนลูกชายแล้ว แต่ลูกชายไม่ฟัง จึงได้แค่บอกว่าให้ดูแลตัวเองให้ดี หลังจากนั้นพอไปถึงงาน เวลาประมาณ 19.00 น. ลูกชายก็ไลน์มาหาบอกว่าถึงที่หมายแล้ว และเวลา 20.30 น. ลูกชายโทรไลน์มาหาพ่อ บอกว่าขอเลขบัตรประชาชน 13 หลักหน่อย บอกว่าจะไปหาหมอ หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก

เมื่อลูกชายโทรมาหาพ่อ บอกว่าไม่ไหวแล้ว และเสียงก็ขาดหายไป จนรุ่นพี่มาคุยโทรศัพท์แทน แล้วบอกว่า "แม่ครับ ผมให้น้องออกกำลังกายเยอะ น้องไม่ไหวแล้ว" ตนจึงบอกว่าให้รีบส่งลูกชายไปที่โรงพยาบาล จากนั้นตนได้ตามมาที่โรงพยาบาล เห็นสภาพของลูกชาย สภาพสะบักสะบอม มีอาการมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง และตนก็พยายามถามลูกว่าเป็นอะไร แต่ลูกชายไม่กล้าพูดความจริง บอกว่ารถล้ม

หลังจากนั้น หมอจึงเอกซเรย์ทั่วร่างกาย ไม่พบกระดูกหัก จึงให้ยากลับบ้าน พอกลับมาอยู่ที่บ้าน ลูกชายไม่สามารถนอนหลับได้ ต้องนั่งหลับ และมีอาการร้องโอดครวญตลอดเวลา จากนั้นมีการฉี่เป็นสีน้ำตาล และเริ่มฉี่ไม่ออก ตนพยายามสอบถามลูก แต่ลูกกลัว ไม่กล้าบอกความจริง

จากนั้น ช่วงหัวค่ำของวันที่ 24 มิถุนายน ตนเลยพาลูกกลับมาที่โรงพยาบาล แต่น้องก็ยังหลอกอยู่ว่ารถล้ม คุณหมอบอกว่า ตอนนี้อาการน้องไม่ค่อยดี เม็ดเลือดแดงแตก กล้ามเนื้อสลายเฉียบพลัด และมีอาการไตวายเฉียบพลัน จำเป็นต้องเจาะคอ เพื่อฟอกไต ทำให้แม่ตกใจเป็นอย่างมาก

ทางคุณหมอ ถามย้ำว่าไปทำอะไรมา แต่ลูกชายก็ไม่ยอมบอก ซึ่งตนและครอบครัวคิดว่าไม่ใช่เหตุรถล้มแล้ว จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ สน.วังทองหลาง หลังจากแจ้งความเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบมาสอบปากคำน้อง จึงรู้ความจริงว่า น้องถูกถูกรุ่นพี่ต่อยหน้าอก โดนกระทืบหลัง บังคับให้ดื่มเหล้าขาวจำนวนมาก และนอกจากลูกชายตนเองแล้ว ยังพบว่ามีเพื่อนที่ไปรับน้องด้วยมีอาการแบบเดียวกัน คือไตวายเฉียบพลัน เช่นกัน ซึ่งอยากให้ตำรวจตามจับรุ่นพี่ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว