สังคม

เพื่อนบ้านร้องสื่อ หญิงป่วยจิตเวชทำเดือดร้อนทั้งซอย หลอนคิดว่าคนจะขโมยของ โยนหิน-ไม้-สารพัดสิ่งปฏิกูล กระจายทั่วหลังคาบ้าน

โดย gamonthip_s

4 มิ.ย. 2567

54 views

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนางอำนวย อายุ 62 ปี อยู่บ้านซอยเบญจา 1 ถนนเจริญสุข ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งพักอาศัยอยู่กับหลานชาย 3 ขวบ ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนถึงความเดือดร้อน และขอความช่วยมาแก้ไขปัญหา ที่เพื่อนบ้านสร้างความเดือดร้อนให้มา 5 ปีแล้ว ไม่ได้รับการแก้ไข แจ้งความกับตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไรได้ โดยตำรวจบอกแต่เพียงให้อดทน และใช้ธรรมะเข้าสู้



นางอำนวย เจ้าของบ้าน ซึ่งอยู่ติดกันกับเพื่อนบ้านรายดังกล่าว พาผู้สื่อข่าวดูในพื้นที่บ้าน และหลังคาบ้านที่เต็มไปด้วยเศษสิ่งของ และสิ่งปฏิกูล รวมถึงขี้หมาที่อยู่บนหลังคาบ้าน พร้อมกับเปิดเผยว่า ตนเองซื้อบ้าน เพื่อพักอาศัยอยู่กับลูกหลาน ช่วงแรก ๆ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของนางอรทัย อายุ 63 ปี และหนักที่สุดในช่วง 5 ปี หลังจากมารดาของนางอรทัยเสียชีวิต นางอรทัยก็มีอาการหนักขึ้น กลางคืนก็ไม่นอน ทุบทำลายสิ่งของ และปีนรั้วมาทำลายสิ่งของบ้านตน และยังเผากระดาษโยนข้ามรั้วเข้ามาในบ้าน โชคดีที่ไม่ลุกลาม จึงตัดสินใจทำรั้วสังกะสีสูงประมาณ 2 เมตรขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้นางอรทัยปีนรั้วเข้ามาทำลายสิ่งของในบ้าน และล็อกกุญแจประตูทางเข้าบ้าน ก็ถูกนางอรทัยใช้กาวตราช้างหยอดรูกุญแจจนพังเสียหาย จนไม่สามารถที่จะล็อกกุญแจได้เลย และก็ยังโยนสิ่งของ โยนขี้หมาใส่บนหลังคาบ้านทุกวัน



ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา นางอรทัย ทุบทำลายรั้วสังกะสีจนพังเสียหาย และด่าทอด้วยคำหยาบคาย จึงไปแจ้งตำรวจ ที่สภ.พล แต่ตำรวจบอกว่า ทำอะไรไม่ได้ เพราะคนบ้าคนประสาท ตำรวจจับไม่ได้ ขอให้ชาวบ้านอดทน ใช้ธรรมะเข้าสู้ เมื่อฟังคำพูดแล้วรู้สึกว่าพึ่งพาไม่ได้ เพราะไม่มีคำแนะนำใด ๆ ให้เลย จึงร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน และอยากให้หน่วยงานทางราชการเข้ามาจัดการปัญหาที่สะสมมานาน ถ้านางสาวอรทัยป่วยจิตเวชจริงก็ควรพาไปรักษา ไม่ใช่ปล่อยไว้แบบนี้ เพราะกลัวนางสาวอรทัยจะก่อเหตุรุนแรงกว่านี้ หรืออาจจะเผาบ้านของชาวบ้านในซอยก็เป็นได้




ทางด้าน นางรัตนาภรณ์ อายุ 53 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของนางสาวอรทัย จนต้องพาครอบครัวย้ายออกไปเช่าบ้านอยู่ที่อื่น กล่าวว่า อาศัยอยู่ที่บ้านในซอยเบญจา 1 มากว่า 11 ปี แต่ในปี 2563 ก็สุดที่จะทน เพราะนางสาวอรทัยปาขี้หมา ปาสิ่งของ และเอากาวตราช้างมาหยอดกุญแจบ้าน รวมทั้งด่าว่าต่าง ๆ และปาหินใส่ลูกหลายครั้ง จึงคิดว่าหากลูกเติบโตมาท่ามกลางการกระทำของนางสาวอรทัยคงไม่ใช่เรื่องดี จึงตัดสินใจย้ายออกไป 



พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของนางอรทัย พบว่าไม่อยู่บ้าน สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า อาจจะไปซื้อของกิน โดยพบเพียงสุนัข 4 ตัว นอนอยู่ในบ้าน จากการสำรวจด้วยสายตาพบว่า มีขี้หมาเกลื่อนเต็มพื้น และพบว่ามีการติดป้ายประกาศไว้ตรงประตูบ้านตัวเอง เขียนข้อความด้วยลายมือ ระบุข้อความว่า "ขอประกาศ แหล่งหากินพวกมิจฉาชีพโจรในซอยนี้ยกเค้าลักขโมยเฉพาะในบ้านนี้อย่างมืออาชีพจงใจโดยเฉพาะ คนในซอยงัดบุกรุกเข้าบ้านนี้ทุกวัน ขโมยกุญแจไปปั๊มทำกุญแจผีมาก่อเหตุ คุกคามล่วงละเมิดทางเพศ ของพวกแมงดาโจรบ่อนพนันกับแม่เล้า เซียนนักเลง เจ้าของบ่อนพนัน มาเฟียข้างบ้านติดกันหลังท้ายสุด ตะวันออกเปิดบริษัทค้ากามทั้งในและนอกประเทศโดยพี่ชายอยู่ที่กทม. เคยก่อคดีโชกโชนมาแล้วมากมายปล้นฆ่าข่มขืนลักทรัพย์ปลอมแปลงเอกสารทุกชนิด โจรยกคุ้มเมืองใหม่หมดเลยทั้งแก๊ง มีธุรกิจมืดบริการครบวงจรหมดทำงานเป็นทีม"



พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.พีระฉัตร สาขา ผกก.สภ.พล ทราบว่า กรณีที่มีผู้ป่วยจิตเวชอาละวาด ระรานเพื่อนบ้าน จนเดือดร้อนกันทั้งซอย และเป็นปัญหาต่อเนื่องกันมานานนั้น ขณะนี้ตำรวจได้ประสานกับแพทย์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อร่วมกันลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้ป่วย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า หญิงวัย 63 ปีนั้น ป่วยจิตเวชจริงหรือไม่ เคยรับยามากินหรือไม่ เพราะถ้าคนที่ป่วยจิตเวชจริง และเคยรักษาจริง แพทย์ต้องมีประวัติการรักษา และถ้าเขาป่วยจริง เจ้าหน้าที่จะร่วมกันนำตัวเข้าสู่การรักษา เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างมีความสุข

คุณอาจสนใจ

Related News