สังคม

'สกุลธร' น้องชายธนาธร รอดคุก วางเงิน 1.5 แสนได้ประกันตัว อุทธรณ์สู้ต่อ คดีติดสินบน 20 ล้าน

โดย nattachat_c

21 พ.ค. 2567

54 views

วานนี้ (20 พ.ค.) ที่ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการปราบปรามการทุจริต 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด จากกรณีที่ นายสกุลธร ซึ่งเป็นน้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวไกล ถูกฟ้องว่าเข้าข่ายมีพฤติการณ์กระทำผิดติดสินบนเจ้าพนักงาน และนายหน้าเป็นเงินจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อเช่าที่ดินของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 2 แปลงใน ซ.ร่วมฤดี และ ย่านชิดลม


ซึ่งข้อหาที่ นายสกุลธร ถูกฟ้อง อยู่ในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น ให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจให้กระทำการ และประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น ให้ขอให้ หรือรับว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อจูงใจให้กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบ ด้วยหน้าที่ และได้กระทำไปในฐานะเป็นผู้แทนนิติบุคคล และเพื่อประโยชน์ของนิติบุคคล


สำหรับ ผลการพิพากษาของศาล ระบุว่า เป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ทำผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144 ประกอบ 84 เพียงบทเดียว จำคุก 8 เดือน แต่ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์เเก่การพิจารณา จึงมีเหตุบรรเทาโทษ ให้ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา78 หนึ่งในสี่ คงไว้ซึ่ง จำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา


ต่อมาทนายจำเลยยื่นคำร้องปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วได้อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยใช้หลักประกันเดิมเป็นเงินสด จำนวน 150,000 บาท

---------------

คำพิพากษาโดยย่อ


วันนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 152/2566 ระหว่าง


พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต ๓ โจทก์ กับนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำเลย โดยโจทก์ฟ้องว่าจำเลยให้เป็นเงินค่าจ้างแก่นาย ส. มีเจตนาเป็นนิติกรรมอำพรางเพื่อใช้ให้นาย ส.กับนาย ป.นำเงินไปมอบให้แก่รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ โดยวิธีอันทุจริตและผิดกฎหมาย เพื่อจูงใจให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ด้วยการจัดสรรที่ดินแปลงที่ทำการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) ให้บริษัทเรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ได้รับประโยชน์ด้วยการได้สิทธิการเช่าที่ดินระยะยาวโดยไม่ต้องผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติอันเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตามระเบียบและแนวทางปฏิบัติทำให้เสียประโยชน์ที่จะได้รับเงินจากการประมูลในราคาที่ควรจะได้สูงที่สุด ขอให้ลงโทษฐาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 84, 144


พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 123/5 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4, 176, 198 จำเลยให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้มีเจตนากระทำผิดตามฟ้อง


ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าจำเลยย่อมต้องรู้ว่าการจ่ายเงินให้แก่นาย ส.ไปก็เพื่อให้นาย ส.ไปให้แก่เจ้าพนักงานในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ดังนั้น การที่จำเลยทำสัญญาจ้างนาย  ส.โดยมีการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่นาย ส.ไปโดยจำเลยรู้ว่านาย ส.ต้องนำไปให้เจ้าพนักงานเพื่อให้กระทำการอันเป็นคุณแก่จำเลย คือให้จำเลยได้สิทธิในการเช่าที่ดินระยะยาว แต่เมื่อนาย ส.มิได้นำเงินไปให้แก่เจ้าพนักงานในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ แต่เป็นการที่นาย ส.กับนาย  ป.ร่วมกันวางแผนหลอกลวงเพื่อเอาเงินจากจำเลยเท่านั้น


การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงผู้ใช้ให้นาย ส.ไปกระทำความผิดฐานให้สินบน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144 แต่เมื่อนาย ส.มิได้นำเงินไปให้แก่เจ้าพนักงานในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ จึงเท่ากับว่าความผิดนั้นมิได้กระทำลงในส่วนที่นาย ส.รับเงินจากจำเลยไปเป็นคนกลางผู้รับสินบนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 ทันที จำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 143 เพราะผู้ให้เงินคนกลางไม่มีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดไว้ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบจึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นนำเงินไปให้เจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ แต่ผู้อื่นที่ถูกใช้นั้นมิได้นำเงินไปให้เจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงถือว่าความผิดที่จำเลยใช้ยังมิได้กระทำลงไม่ว่าจะเป็นเพราะผู้ถูกใช้ไม่ยอมกระทำ ยังไม่ได้กระทำ หรือเหตุอื่นใด ซึ่งจำเลยผู้ใช้ต้องระวางโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น อันเป็นความผิดตามฟ้อง


พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 84 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/5 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 84 เพียงบทเดียว จำคุก 8 เดือน ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงจำคุก 6 เดือน

------------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kPZXRQ2uQyo

คุณอาจสนใจ