สังคม

คนร้ายลอบวางบึ้มนราธิวาส อส.ดับ 1 เจ็บ 12 - ‘เศรษฐา’ ห่วงสถานการณ์ชายแดนใต้ ต่อสายตรงหารือ ผบ.ทบ.

โดย thichaphat_d

21 พ.ค. 2567

55 views

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 อำเภอ นราธิวาส อส.ดับ 1 เจ็บ 12 - จนท.อีโอดี.พลาดเหยียบกับระเบิดซ้ำ ขาขาด 2 ข้าง ด้านนายกฯ ต่อสายตรง ข้ามทวีป ถึง ผบ.ทบ. ติดตามสถานการณ์จังหวัดชายแดนใต้  เผยเตรียมลงพื้นที่ ภายใน 1-2 สัปดาห์


เมื่อเวลา 07.20 น. วานนี้ (20 พ.ค.) ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิด จำนวน 2 ลูก ลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน ประจำฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลจวบ ที่บริเวณริมถนนทางหลวงชนบท สายเจาะไอร้อง - ยานิง ม.2 ต.จวบ ซึ่งเป็นทางเข้าเครื่องส่งสัญยาณมือถือระบบดีแทค ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย


ที่เกิดเหตุพบที่บริเวณเสาไฟฟ้าทางเข้าเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ มีรถ จยย. 2 คัน ล้มตะแคงอยู่ริมถนนโดยที่โคนเสาไฟฟ้าซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายลอบวางระเบิด เสาไฟฟ้าหักแต่ไม่ล้มขวางถนน ซึ่งที่โคนเสาไฟฟ้ามีหลุมลึก 50 ซ.ม. กว้าง 1 เมตร และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 กก. จุดชนวนด้วยวิทยสื่อสารตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง และห่างไปประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ 2


เจ้าหน้าที่พบเสาป้ายบอกเส้นทางริมถนนถูกอนุภาพระเบิดจนเสาหักมากองอยู่กับพื้น โดยรอบเสาป้ายถูกอนุภาพระเบิดเป็นรัศมีกว้าง 50 ซ.ม. และมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องเหมือนกับจุดที่ 1 ตกกระจายเกลื่อนพื้นที่ถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง พร้อมทั้งปลอกกระสุนปืนอาก้าของเจ้าหน้าที่ตกอยู่บนถนน จำนวนกว่า 30 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน


ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลเจาะไอร้องไปก่อนหน้าแล้ว โดยส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดเฉี่ยวบริเวณตามลำตัว และมีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ ประกอบด้วย 1. สมาชิกมัซลัญ แซะเฮง 28 ปี 2. สมาชิกเอกลุกมัง เง๊าะ 38 ปี 3.สมาชิกเอกรีดูวัน แวบือซา 38 ปี 4.นายหมู่โทอาดือนัน มะดิง 52 ปี 5.สมาชิกเอกมาฮาเดร์ มามะ 43 ปี และ 6.ส.อ.วุฒิศักด์ ชูบุญศรี 31 ปี มีอาการหูอื้อแน่นหน้าอก เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.วุฒิศักดิ์ หน.ชุด ได้นำกำลัง อส.ชคต.จวบ รวม 6 นาย ขี่และซ้อนท้าย รถ จยย. 3 คัน ออกจากฐานเพื่อปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนคุ้มครองครูโรงเรียนบ้านลูโบ๊ะเยาะ ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ขี่รถ จยย.ไล่หลังกันมาห่างจากฐาน ชคต.ประมาณ 100 เมตร คนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบได้จุดชนวนระเบิดที่ลอบไปวางไว้แบบเร่งด่วน จนเกิดระเบิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน จำนวน 2 ลูกซ้อน ทำให้เจ้าหน้าที่ถูกสะเก็ดระเบิดเฉี่ยวที่บริเวณตามร่างกาย และได้จอดรถ จยย.พร้อมหาที่กำบังและได้ใช้อาวุธปืนประจำกาย อา.ก้า. ซุ่มยิงไปจุดที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายอาศัยอยู่จำนวน 1 ชุดใหญ่ ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป


ส่วนพื้นที่ อ.สุคิริน เมื่อเวลา 08.10 น.วันเดียวกัน ตำรวจสภ.สุคิริน รับแจ้งมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่บริเวณทางโค้งริมถนนก่อนถึงสนามฟุตบอลชุมชนบ้านไอยามู ม.2 ต.เกียร์ ประมาณ 100 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ ซึ่งทำหน้าที่ รปภ.ครูโรงเรียนนิคมพัฒนา 2 ได้รับบาดเจ็บ 7 นาย


ที่เกิดเหตุพบที่บริเวณทางโค้งริมถนน ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายลอบวางระเบิด มีหลุมลึก 40 ซ.ม. กว้าง 50 ซ.ม. โดยมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง และที่ริมไหล่ถนนเจ้าหน้าที่พบ รถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ 2 คัน ล้มตะแคงอยู่ พร้อมด้วยคราบเลือดและสัมภาระจำนวนหนึ่งตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน


ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนกองอาสารักษาดินแดนที่เข้าสนับสนุน ได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุคิรินไปก่อนหน้าแล้ว รวม 7 นาย ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกายและมีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ ประกอบด้วย 1.สมาชิกเอกวีระพล อับดุลราลิม 41 ปี 2.สมาชิกอาซูวัน เปาะจิ 27 ปี 3.สมาชิกเอกซัมซู อูมา 38 ปี 4.สมาชิกเอกมาหามะสอบรี เปาะซา 41 ปี 5.สมาชิกเอกซีริม มะ 41 ปี 6.สมาชิกเอกสุกรี บินดือเระ 30 ปี และ จ.ส.อ.นิอาเรฟ นิหลง 37 ปี และต่อมา สมาชิกเอกวีระพล ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งได้ส่งตัว สมาชิกเอกอาซูวัน และ สมาชิกเอกซัมซู ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จ.ส.อ.นิอาเรฟ หน.ชุด ได้นำกำลัง อส.ชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ รวม 7 นาย ขี่รถ จยย. 3 คัน ไปปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ครูโรงเรียนนิคมพัฒนา 2 เมื่อแล้วเสร็จได้ขี่รถ จยย.เพื่อกลับฐาน ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้จุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางซุกไว้ริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้นในขณะที่ สมาชิกเอกวีระพล และสมาชิกอาซูวัน ขี่รถ จยย.ผ่าน จนรถ จยย.เสียหลักตกไหล่ทาง แล้วคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงซ้ำ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันนานกว่า 5 นาที แล้วคนร้ายอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป จ.ส.อ.นิอาเรฟ ได้วิทยุกลับไปยังฐาน เพื่อขอสนับสนุนรถยนต์และกำลังพลมาลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุคิรินดังกล่าวส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน


ขณะที่เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วานนี้ (20 พ.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภธร จ.นราธิวาส กระจายกำลังกันตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ รปภ.ครูโรงเรียนนิคมพัฒนา 2 ที่ริมถนนทางโค้งก่อนถึงสนามฟุตบอลชุมชนบ้านไอยามู ม.2 ต.เกียร์ ซึ่งห่างจากสนามฟุตบอลชุมชน ประมาณ 100 เมตรนั้น จ.ส.ต.วรวิทย์ ณะรัตตะ 35 ปี ที่กำลังเดินลงไปตรวจสอบ จุด รถ จยย.ของเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน ได้ตกลงไปในไหล่ทาง และได้พลาดเดินไปเหยียบกับดักระเบิดที่คนร้ายฝังไว้ จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ร่างของ จ.ส.ต.วรวิทย์ ถูกอนุภาพระเบิดลอยและล้มทั้งยืน จนขาทั้ง 2 ขาขาด เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าช่วยเหลือ จ.ส.ต.วรวิทย์ ด้วยความระมัดระวัง ก่อนที่จะนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุคิรินอย่างเร่งด่วน


ล่าสุด พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ได้สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ ไปรับ จ.ส.ต.วรวิทย์ เจ้าหน้าที่ชุด อีโอดี ที่พลาดไปเหยียบกับระเบิดขาทั้ง 2 ข้างขาด จากหโรงพยาบาลสุคิริน เพื่อนำตัวไปส่งรักษาต่ออย่างเร่งด่วน ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา


ขณะเดียวกันเมื่อ วานนี้ (20 พ.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังได้รับโทรศัพท์รายงานสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จาก พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก พบว่ามีปัญหาสองจุด ซึ่งผู้ได้รับความเสียหายคือผลกระทบ กองบังคับการควบคุมกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (อส.) ซึ่งมีทั้งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ และทหารที่เข้าไปช่วยก็ถูกระเบิดซ้ำ ยอมรับว่าน่ากังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลกำลังจะส่งพื้นที่ให้กับ อส. ภายในปี 2570 ดังนั้นจึงต้องกลับมาพิจารณาความไม่สมบูรณ์เกิดขึ้นใหม่หากความไม่สงบเกิดขึ้น ซึ่งหาก อส. ยังไม่สามารถทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ ก็จะต้องมีฝ่ายความมั่นคงและทหารเข้าดูแลด้วย


นายกรัฐมนตรี แจ้งกับผู้บัญชาการทหารบก ว่า หลังจากเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว จะลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง ภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อไปติดตามงานด้านความมั่นคงและการดูแลพื้นที่ ด้วยตนเอง


ขณะที่สถานการณ์ภาพรวม ผู้บัญชาการทหารบกก็เป็นกังวล และเตรียมจะลงพื้นที่เพื่อไปติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด เพราะการที่ อส. ถูกทำร้ายถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี


ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียอมรับว่า จะต้องมีการพิจารณากฎหมายที่บังคับใช้ในพื้นที่ รวมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดอีกครั้ง ต้องพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใหม่ทั้งหมด ด้วยการหยิบยกเอาสถานการณ์โดยรวมที่เกิดขึ้นมาหารือ อย่างไรก็ตามจะขอลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ก่อนและจะมีการวางมาตรการเพิ่มเติมอีกครั้ง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ww5vW0FIHeM



คุณอาจสนใจ

Related News