ยาย-ป้า โร่แจ้งความหลาน 3 ขวบ ถูกพี่เลี้ยงหามส่งรพ.กลางดึก กระเพาะแตก-พบรอยฟกช้ำตามร่างกาย

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 พ.ค. น.ส.แสงทอง อายุ 59 ปี พร้อม น.ส.ปนัดดา อายุ 37 ปี ยายและป้า น้องพอร์ช (นามสมมติ) อายุ 3 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับว่าที่ ร.ต.ต. กันตินันท์ การถาง รอง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน หลังน้องพอร์ช ถูกพี่เลี้ยงหามส่งรพ.มงกุฎวัฒนะ กลางดึก ด้วยอาการกระเพาะแตก มีรอยฟกช้ำตามร่างกายอาการสาหัส เชื่อถูกพี่เลี้ยงทำร้าย



น.ส.แสงทอง ยายน้องพอร์ช เล่าว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป พักอยู่แถวเสนานิคม ย่านเกษตรเป็นยายน้องพอร์ช โดยลูกตนทำงานเป็นคนงานทำแผ่นป้ายโฆษณา ย่านพัฒนาการ พักอาศัยอยู่ย่านที่ทำงานประกอบกับลูกสาวแยกทางกับสามี ทำให้ต้องนำลูกชายวัย 3 ขวบ ฝากคนรู้จักที่อยู่ซอยรามอินทรา 19 เลี้ยงโดยตนเป็นผู้จ่ายค่าจ้างเดือนละ 6,000 บาท ตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 66

ที่ผ่านมาแม่น้องพอร์ชไปเยี่ยมเป็นครั้งคราว แต่ทุกครั้งก็จะเห็นร่องรอยฟกช้ำ และเมื่อสอบถามก็จะอ้างว่าเป็นเรื่องของเด็กซนตามประสา เมื่อบอกว่าจะเข้ามาเยี่ยมมักจะปฏิเสธทุกครั้ง แต่ก็จะมีการถ่ายรูปน้องมาให้ดูว่ากำลังกินข้าวบ้าง พาไปเที่ยวบ้างซึ่งล่าสุดเย็นวันที่ 16 ยังได้ส่งรูปน้องพอร์ชชู้นิ้วใบหน้ายิ้มแย้มมาให้ดู ทำให้ตนเองไม่ได้เอะใจอะไร



น.ส.แสงทอง กล่าวอีกว่า แต่เมื่อช่วงเวลา 02.00 น. วันที่ 17 พ.ค. แม่น้องพอร์ชได้รับโทรศัพท์มาบอกว่าน้องพอร์ช อยู่รพ.มงกุฎวัฒนะ โดยแพทย์แจ้งว่าน้องพอร์ชกระเพาะแตก และมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย เป็นตายเท่ากันซึ่งแม่น้องพอร์ช ได้เดินทางแจ้งความไว้เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ และกลับไปเฝ้าลูกที่โรงพยาบาล



ด้าน น.ส.ปนัดดา อายุ 37 ปี ป้าน้องพอร์ช ระบุว่า ตนเคยเลี้ยงดูน้องพอร์ชอยู่ประมาณ 1 ปี ต่อมาแม่น้องพอร์ชได้รับกลับไปดูแล ก่อนจะมารู้ว่าได้นำไปให้คนรู้จักกันเลี้ยงดู

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุตนไปดูหลานที่โรงพยาบาลรู้สึกตกใจเมื่อเห็นแผลฟกช้ำเต็มตัวที่ท้องที่คอที่หลังหมอบอกถูกของแข็งกระแทกสอบถามพี่เลี้ยงบอกแค่ตกบันไดก่อนหน้านี้ก็เคยหกล้มและนั่งตกชักโครก ตอนนี้จึงเชื่อว่าหลานถูกทำร้ายอย่างแน่นอนเพราะไม่เชื่อว่าการตกบันได หรือตกชักโครก จะทำให้ท้องแตกได้



อย่างไรก็ตามตอนนี้น้องรู้สึกตัวแล้วแต่ต้องเตรียมตัวย้ายโรงพยาบาลไปที่อ่างทอง เพราะน้องใช้สิทธิ์บัตรทองรักษาฉุกเฉินเข้ารักษาที่โรงพยาบาลมงกุฏ ซึ่งจำเป็นต้องย้ายไปรพ.ตามสิทธิ์ที่น้องมี และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นเหตุตามที่พี่เลี้ยงกล่าว หรือมีใครทำร้ายหรือไม่