ชาวระยองสุดทน แจ้งจับอธิบดีกรมโรงงาน-อุตฯจังหวัด ปล่อยปละโรงงานสารเคมีจนไฟไหม้

วานนี้ (24 เม.ย.67)  มีตัวแทนชาวบ้าน และพระสงฆ์ ในพื้นที่บ้านหนองพะวา ม.4 และ บ้านโขดกลาง ม.8  ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จำนวน 100 คน  รวมตัวกันที่ศาลาวัดหนองพะวา นำโดยนายอนันต์ ประกอบสุข อายุ 52 ปี เพื่อรวบรวมรายชื่อชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี และกากอุตสาหกรรม ของ บริษัท วินโพรเสส เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.บ้านค่าย

เพื่อให้ดำเนินคดีกับ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) / อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ฐานปล่อยปละละเลยให้โรงงานเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม บ.วินโพรเสส เก็บสารเคมีไว้ จนเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น

นายอนันต์ เปิดเผยว่า ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบมานานกว่า 10 ปี  กระทบทั้งความเป็นอยู่ และสิ่งแวดล้อม จนกระทั่ง มาเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น ทำให้ชาวบ้านรับไม่ได้ จึงได้มารวมตัวกัน เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ฐานปล่อยปละละเลยให้โรงงานแห่งนี้เก็บสารเคมีอันตรายไว้ จนกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ และเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น

และขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาโดยด่วน ดับไฟให้สนิท และไม่ให้มีควันพิษส่งผลกระทบกับชาวบ้าน  เพราะขณะนี้ มีชาวบ้านหลายครัวเรือนได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โรงงาน ยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ ต้องไปอาศัยอยู่บ้านญาติ เนื่องจากควันไฟยังปกคลุมบ้านเรือนอยู่  

และกลัวว่า หากฝนตกลงมา จะชะล้างสารเคมีในโรงงาน ไหลลงไปในแหล่งน้ำ กระทบต่อสุขภาพของชาวบ้าน และสิ่งแวดล้อม  รวมทั้ง ขอให้เร่งขนย้ายสารเคมีออกไปให้หมด พร้อมทั้งหาแนวทางเยียวยาชาวบ้านด้วย

ด้าน ร.ต.อ.วิทยา กุลบุญ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บ้านค่าย เปิดเผยว่า

เบื้องต้นได้แนะนำให้ชาวบ้านไปตรวจสุขภาพ เพื่อนำใบรับรองการตรวจสุขภาพ มาประกอบการแจ้งความ โดยขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 สภ.ในพื้นที่ คือ สภ.บ้านค่าย และ สภ.หนองกรับ ที่รอรับแจ้งความ ณ ที่ทำการ อบต.บางบุตร  

ส่วนเรื่องคดี ขณะนี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากไฟยังไม่ดับ ยังไม่มีความปลอดภัย  

ส่วนการสอบสวน ก็ได้สอบปากคำชาวบ้านโดยรอบ และพนักงานโรงงาน ไปหลายปากแล้ว เพื่อเร่งสรุปสำนวนคดี

ด้าน นายโกเมน ผิวพุ่ม ผู้ช่วยอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบโรงงาน พร้อมเปิดเผยว่า เบื้องต้น ได้ทำหนังสือแจ้งไปที่ ธนาคาร อิสลามฯ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน และตัวอาคารโรงงาน (แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของสารเคมีข้างในโรงงาน) และกรรมการผู้จัดการ บ.วินโพรเสส ซึ่งเป็นเจ้าของสารเคมี ว่า  ครอบครองวัตถุอันตราย ให้ดำเนินการขนย้ายให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

และอีกส่วนหนึ่ง บ.วินโพรเสส ต้องคำพิพากษาของศาลระยอง ก็จะแจ้งอัยการจังหวัดระยอง เพื่อนำเรียนศาลระยองต่อไป ในแนวทางการใช้กฎหมาย ซึ่งจะดำเนินการในทุกทาง ที่จะสามารถทำได้ เพื่อให้เหตุการณ์นี้ คลี่คลายลงไปได้

ส่วนสถานการณ์ล่าสุด ยังคงมีไฟลุกเป็นจุด ๆ ในโรงงาน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ใช้รถแบคโฮเกลี่ยกองไฟให้กระจาย แล้วฉีดน้ำสเปรย์ไปด้วย

ส่วนจุดที่เป็นสารเคมีที่เรียกว่า 'อะลูมิเนียม ดอส' (เหล็กผสมจากกระบวนการเผาไหม้) จะใช้ดินกลบ เนื่องจากใช้น้ำไม่ได้ โดยจะใช้รถบรรทุกขนดิน และทรายเข้าไป เพื่อเร่งดับไฟ และควัน ไม่ให้กระทบชาวบ้าน

------------



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/BR71gwRGM38