สังคม

เจออีก 'แคดเมียม' โผล่สมุทรสาคร-ชลบุรี เร่งตามหาอีกกว่า 5 พันตัน - ตรวจ พนง.เจอสารเกินมาตรฐาน 8 คน

โดย nattachat_c

8 เม.ย. 2567

27 views

จากกรณีพบกากแคดเมียมจากโรงงานในจังหวัดตาก จำนวน 13,000 ตันเศษ  ถูกขนออกจากพื้นที่ และพบกากแคดเมียมที่โรงงานในบางน้ำจืด จังหวัดสมุทรสาคร จำนวนประมาณ 2,440 ตัน ที่เหลืออีกกว่า 10,000 ตัน ไม่พบในบริเวณโรงงาน


ต่อมา พบถุงบิ๊กแบ็คคล้ายกับที่พบในโรงงาน จ.สมุทรสาคร ไปซุกอยู่ในโกดัง ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ซึ่งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจสอบพบเป็นกากแคดเมียม 4,391.1 ตัน ซึ่งตรวจสอบแล้ว มาจากแหล่งเดียวกันกับที่โรงงานในสมุทรสาคร โดยได้ยึดอายัด และแจ้งความดำเนินคดี ไปแล้วนั้น


ล่าสุด วานนี้ (7 เม.ย. 67) เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก. 5 บก.ปทส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร  เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ม.6 ซ.บ่อดิน ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และนำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจค้นสถานที่โกดังโรงงานไม่มีเลขที่ โดยโกดังดังกล่าวมีผ้าแสลนสีเขียวปิดบังด้านหน้าอาคารบ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้าง มีรั้วติดอยู่กับบริษัทดังกล่าว มีนายจาง เชิน ม่าว สัญชาติไต้หวันเป็นเจ้าของ หลังขยายผลจากการเข้าตรวจค้นบริษัทในพื้นที่ จ.ชลบุรี พบว่า แคดเมียมหลายพันตันถูกส่งไปจากโรงงานแห่งนี้


จากนั้น นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง และ บก.ปทส. ร่วมกันตรวจสอบโรงงานเพิ่มเติม ซึ่งประกอบกิจการหล่อหลอมทองแดงและตะกอนทองแดง


ตรวจสอบในอาคารโกดัง พบถุงบิ๊กแบ็คขนาดใหญ่บรรจุกากแคดเมียมวางซ้อนกัน ส่วนด้านนอกโกดังก็วางซ้อนกันเป็นกอง มีผ้าใบปกคลุม รวม 673 ถุงประมาณ 1,034 ตัน ทุกถุงพ่นสีหมายเลขกำกับ และ วัน-เดือน-ปี ที่ขนย้าย ในช่วงเดือน ต.ค. - พ.ย.2566 ตรงกับที่ตรวจพบในโรงงานสมุทรสาคร และชลบุรี ก่อนหน้านี้ มาจากต้นทาง จ.ตาก


ทั้งนี้  เจ้าหน้าที่ได้ยึดอายัด และแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับโรงงานดังกล่าวด้วยแล้ว นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้โรงงานเคลื่อนย้ายถุงบิ๊กแบ็คกากแคดเมียม ที่อยู่ด้านนอกเข้าไปไว้ด้านในอาคารโกดังทั้งหมด ติดป้าย “ห้ามเคลื่อนย้าย” เพื่อไม่ให้มีการฟุ้งกระจายของกากแคดเมียม เกรงว่าหากถูกฝนหรือน้ำจะซึมเข้าพื้นดิน


ขณะที่ นายจาง ชาวไต้หวัน เจ้าของโรงงาน ระบุว่า ได้มีการขนย้ายถุงบิ๊กแบ็คมาไว้ เมื่อวันที่ 26 - 31 มี.ค. ซึ่งตอนแรกตนเองแจ้งกับบริษัท เจแอนด์บีฯ ว่า ไม่มีที่วาง แต่บริษัทเจแอนด์บีฯ แจ้งว่าจะฝากไว้ 1-2 สัปดาห์ แล้วจะมาขน ซึ่งตนได้ค้าขายกับบริษัทอยู่แล้ว ก็รู้จักเป็นเพื่อนทำธุรกิจ พอเขาบอกจะฝากไว้ 1-2 สัปดาห์ ตนก็คิดว่าไม่มีอะไร จึงให้ฝากไว้ ไม่คิดว่าจะเป็นข่าวใหญ่ และตอนนั้น ก็รู้อยู่แล้วว่าของข้างในมีทองแดง


นายจาง อธิบายเพิ่มเติมว่า หลังทราบข้อมูล  และทางบริษัทเจแอนด์บีฯ จะมาเอาของประมาณวันอังคาร วันพุธนี้ แต่ด้วยความร้อนใจเห็นข่าว จึงได้หารือกับฝ่ายกฎหมาย และไปแจ้งความเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะบริษัท เจแอนด์บีฯ เอามาฝาก โดยอ้างว่า โกดังที่เขาเช่าหมดสัญญา และรู้ว่าเป็นทองแดง ที่จะต้องมาคำนวนปริมาณขาย


ทางตนเองไม่เคยรู้เรื่องสารแคดเมียม หรือเรื่องวัตถุอันตราย ซึ่งที่ผ่านมาทำสัญญาซื้อขายกัน 5,000 ตัน และบริษัทเจแอนด์บี ขนไปชลบุรีแล้ว 4,000 ตัน และมาฝากไว้ที่ตนเอง 1,000 กว่าตัน


โดยการทำธุรกิจซื้อขายกากอุตสาหกรรม กว่า 5,000 ตันครั้งนี้ มีนายหน้าชื่อนายกิต มาเสนอว่า บริษัทที่ จ.ชลบุรี ต้องการทองแดง ทางตนก็เป็นฝ่ายจัดซื้อ และมาพิสูจน์ว่ามีปริมาณเท่าไร โดยเป็นคนกลางไปดีลกับบริษัทเจแอนด์บีฯ ให้ จากนั้นบริษัทเจแอนด์บีฯ ก็ส่งของตรงไปให้ที่ จ.ชลบุรี กว่า 4,000 ตัน ส่วนอีก 1,000 ตัน เอามาฝากไว้ที่ตนเองก่อน เนื่องจากยังไม่ได้จ่ายเงิน  

------------------

นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำหรับตัวเลขปริมาณกากอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตคือ 15,000 ตัน แต่ที่มีการขนส่งจริงประมาณ 13,000 ตัน กระจายไปบริษัทแรก 2,440 ตัน โกดังที่ 2 จ.ชลบุรี 4,391.1 ตัน และบริษัทที่ 3 จ.สมุทรสาคร อีก 1,034 ตัน รวมที่จับกุมได้หมดทั้งสิ้น 7,865 ตัน ซึ่งจำนวนที่ต้องตามหาเหลืออีกประมาณกว่า 5,000 ตัน


ส่วนกากแคดเมียมที่กำลังหาอยู่ จะถูกส่งออกไปนอกประเทศหรือยังนั้น อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่า ถ้าออกไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คิดว่ายังไม่สามารถออกไปได้ ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ที่จะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศปลายทาง และกากแคดเมียมเป็นวัตถุอันตราย จะต้องมีการขออนุญาตหลายขั้นตอน และจากการตรวจสอบ ยังไม่มีการขออนุญาตนำออกไปยังต่างประเทศ


ส่วนปลายทางที่ จ.ตาก ได้มีการไปตรวจสอบหลุมฝังกลบ จากการตรวจสอบหลุมเดิม สภาพของหลุมยังมีความมั่นคงจึงมีความพร้อมให้นำกลับไปฝัง  


ส่วนจะสามารถดำเนินการได้เมื่อไหร่ ก็ต้องรอทางต้นทางประสานมา และหลังจากนี้ จะมีการทยอยตรวจสอบโรงหล่อภายในจ จ.สมุทรสาคร ทั้งหมด และจะมีการขยายผลตรวจสอบไปยังจังหวัดอื่น ๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออก

------------------

วานนี้ (7 เม.ย. 67)  นางสาวอังศุมาลิน ฉัตรสุวรรณวารี อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่  ได้นำประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ เรื่อง ยึดอายัดตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ไปติดตั้งพร้อมติดแถบสีห้ามเคลื่อนย้ายกองถุงบิ๊กแบ็คบรรจุกากแคดเมียมจำนวน 3 โกดัง น้ำหนักรวม 4,400 ตัน หรือประมาณ 2,740 กว่าถุง  


ซึ่งการสอบสวนนายหลิว ลู่ ยอมรับว่าเป็นผู้ครอบครองกากแคดเมียมทั้งหมด โดยสั่งซื้อมาจากนายจาง ที่จังหวัดสมุทรสาคร ลักลอบขนส่งมาตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ขนครั้งสุดท้ายวันที่ 23 มีนาคม 2567 มาพักรอตู้คอนเทนเนอร์เตรียมส่งไปประเทศจีน และเป็นผู้เช่าอาคารโกดัง 3 หลัง ของบริษัท อิฟง จำกัด เจ้าของอาคารโกดังทั้งหมด


สำหรับกากแคดเมียมทั้งหมดที่ยึดอายัด ต้องรอคำสั่งจากกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อนำไปฝังกลบที่จังหวัดตากภายใน 7 วันนับจากนี้ และยังต้องติดตามกากแคดเมียมที่เหลือจากน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 13,000 ตัน  ส่วนผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาครองครองวัตถุสารอันตราย


ขณะเดียวกัน  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ร่วมกับศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี  สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี โรงพยาบาลชลบุรี โรงพยาบาลบ้านบึง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังทั้ง 3 หลัง พบว่า บริเวณโดยรอบโกดังเป็นพื้นที่การเกษตร  และเนื่องจากโรงงานถูกสั่งปิด ทำให้มีพนักงานจำนวนไม่มาก พนักงานที่พบเป็นชาวเมียนมา 4 คน  แบ่งเป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน และมีประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ระยะห่าง 3 กิโลเมตร ระหว่างหมู่ที่ 4 และ หมู่ที่ 7 ประมาณ 20 คน

------------

นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตากได้ มีคำสั่งประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก ลงวันที่ 6 เมษายน2567 ห้ามมิให้บุคคลใดๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่ใกล้จะเกิดสาธารณภัย ตามรายงานของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก และจากการตรวจสอบของเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 พบว่า


มีกากแคดเมียมและกากสังกะสี อยู่ในพื้นที่โรงงาน บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่เลขที่ 94 หมู่ที่ 1 ถนนพหลโยธิน กม.409-410 ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก ประกอบกับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ได้มีประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ เรื่องยึดอายัดตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 รวมทั้งภาชนะบรรจุและสิ่งของอื่นๆ ลงวันที่ 4 เมษายน 2567 โดยได้มีการอายัดกากแคดเมียม กากสังกะสี และสิ่งของอื่นๆ ไว้ทั้งหมด มิให้มีการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่


เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายประชาชนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 อาศัยอำนาจ ตามมาตรา 29 ของพระราชบัญญัติเดียวกันนี้ ประกาศห้ามมิให้บุคคลใดๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดๆ ในพื้นที่ โรงงาน บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ในรัศมี 100 เมตร จากบริเวณโดยรอบบ่อเก็บกากอุตสาหกรรม ทั้ง 7 บ่อ และอาคารโรงงานเก็บพัสดุ ที่มีกากแคดเมียมบรรจุในถุงบิ๊กแบ็คภายในอาคาร เป็นระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันประกาศนี้เป็นต้นไป

---------------

วานนี้ (7 เม.ย. 67) เวลา 14.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่เกาะสมุย ถึงความคืบหน้าการตรวจหาสารแคดเมียมจำนวนกว่า 1 หมื่นตัน ที่หายไปจากโรงงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ว่า


ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่ามีอะไร  ที่ไหนบ้าง ใครเอาไปดำเนินการอย่างไรบ้าง รวมถึงตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ โดยใช้อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ และพบว่าไม่มีอะไร


ในส่วนที่สามารถดำเนินการติดตามสารที่กลับมาได้นั้น ต้องดำเนินการนำไปฝังกลบภายใน 15 วัน


ส่วนที่มีข่าวว่า  สารดังกล่าวหลุดไปที่จังหวัดชลบุรี  ก็ต้องนำกลับมาให้หมด โดยมีการตั้งคณะกรรมการสืบทราบความจริงแล้ว อย่างไรก็ตามนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ลงพื้นที่ดูแลด้วยตัวเองทุกเคสแล้ว


เมื่อถามว่าประชาชนมีความกังวลว่าสารดังกล่าวเป็นอันตรายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าเป็น แต่ได้ดำเนินการตรวจสอบที่หลุดกระจายออกไปแล้ว ยังไม่มีอันตราย

---------------

วันที่ 7 เมษายน 2567 นายผล ดำธรรม ตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยต่อ “ประชาชาติธุรกิจ”ว่า  พบสารแคดเมียมในร่างกายพนักงานบริษัท 11 คน พรุ่งนี้นำเข้ารับการรักษา สสจ.สมุทรสาคร ขออย่าเพิ่งตระหนก !


จากการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้เก็บตัวอย่างปัสสาวะของพนักงานบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ทั้งสิ้น 11 คน ไปตรวจเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ขณะนี้ผลตรวจออกมาแล้ว พบสารแคดเมียม ในร่างกายเกินระดับมาตรฐาน 8 ราย ส่งอีก 2 คนยังปลอดภัย ซึ่งก็จะให้พนักงานที้ง 8 คนเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล

-------------

วานนี้ (7 เม.ย. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์  สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม(กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการพบเจอกากแคดเมียมในพื้นที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ว่า  


ที่ผ่านมาทาง กมธ.อุตสาหกรรม ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการสอบสวน จนพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย จึงเปิดประเด็นแถลงข่าวแจ้งไปยังรัฐบาลเพื่อสั่งการให้ดำเนินการเอาผิด ซึ่งกรณีนี้เห็นได้ว่าทุกภาคส่วนมีความตื่นตัวในการเร่งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า กากแคดเมียมที่เจอในจังหวัดชลบุรีนั้น ล่าสุด ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว มีจำนวน 4,400 ตัน ไม่ใช่ 6,000 ตัน จึงเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะต้องเร่งสืบสวนเพื่อค้นหากากเคมีอันตรายส่วนที่เหลือต่อไป  


ประเด็นที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง คือ  ทั้งนายหน้าขายกากแร่จากสมุทรสาคร คนเช่าพื้นที่โรงงานที่ชลบุรีเพื่อส่งออกกากแร่ และเจ้าของโรงงานที่ชลบุรี ล้วนเป็นเครือข่ายคนจีน ที่มีความเชื่อมโยงกับกรณีพบกากเเร่อันตรายที่จังหวัดสมุทรสาครที่มีการขนย้ายมาจากจังหวัดตาก


“เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายทุนจีนสีเทาในธุรกิจอุตสาหกรรม ที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม ต้องเร่งสอบสวนถึงความเชื่อมโยง และเร่งดำเนินการนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด


ดังนั้น จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตำรวจได้สอบสวนและดำเนินคดีกับเครือข่ายนี้แบบถอนรากถอนโคน เพราะที่ผ่านมา กรรมาธิการอุตสาหกรรมได้เคยสอบพบเครือข่ายดังกล่าว ทำผิดกฎหมายโรงงานอุตสาหกรรมซ้ำซาก โดยทำลายสิ่งแวดล้อมรุนแรง  และส่งผลกระทบกับชุมชนอย่างมาก จนเป็นเหตุให้นำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีมาแล้ว โดยมีกรรมาธิการอุตสาหกรรมเป็นผู้ชี้เป้าให้หน่วยงานภาครัฐไปดำเนินการอย่างเด็ดขาด” นายอัครเดช กล่าว

-------------

วานนี้ (7 เม.ย.67)  สส.ก้าวไกล เฟซบุ๊กไลฟ์ตั้งวงคุยฉุกเฉิน  เตือนประชาชน และตั้งคำถามต่อรัฐบาล กรณีกากแคดเมียมหาย 15,000 ตัน ซึ่งอาจมีบางส่วนถูกหลอม เกิดสารพิษปนเปื้อนสู่ชุมชน


โดยในวงสนทนาประกอบด้วย นายคริษฐ์ ปานเนียม สส.ตาก เขต 1 พื้นที่ตั้งเหมืองสังกะสี ต้นตอกากแคดเมียมประมาณ 15,000 ตัน // นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร เขต 1 พื้นที่ที่พบกากแคดเมียมเตรียมหลอม  // นายชวาล พลเมืองดี สส.ชลบุรี เขต 3 พื้นที่บ้านบึง ซึ่งพบกากแคดเมียม 7,000 ตัน และคาดว่าบางส่วนถูกหลอมแล้ว // นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม และ นายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center ศูนย์นโยบายพรรคก้าวไกล


นายคริษฐ์ ในฐานะ สส.ตาก ระบุว่า เหมืองสังกะสีผาแดงเป็นเหมืองแร่ขนาดใหญ่ที่อยู่มา 40 ปี  แม้วันนี้จะปิดตัวไปแล้ว  แต่ก็ยังทิ้งผลกระทบในพื้นที่จากการรั่วไหลของแคดเมียม  อันเป็นผลพวงจากการทำเหมือง หลายพื้นที่ไม่สามารถเพาะปลูกได้  กากแคดเมียมจากเหมืองผาแดงเดิมถูกฝังกลบในบ่อซีเมนต์ถูกต้องตามหลักวิชาการ แต่อยู่ ๆ ชาวตากก็มารู้ข่าวพร้อมคนไทยทั้งประเทศ ว่า มีการเปิดบ่อเพื่อเอาแคดเมียมออกมาขาย ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในพื้นที่อย่างมาก


ที่สำคัญ กระทรวงอุตสาหกรรมยังระบุว่า จะนำกากแคดเมียมมาคืนที่เดิม แต่กลับไม่มีการตรวจสอบว่า บ่อที่ถูกเปิดออกมาแล้ว จะเกิดการรั่วไหลของสารพิษหรือไม่ รวมถึง ไม่ตรวจสอบที่มาที่ไปของการเปิดบ่อว่า ทำอย่างถูกต้องหรือไม่ด้วย


“ผมอยากทราบว่าทำไมเกิดความไม่เท่าเทียมกันในการจัดการสถานการณ์ ที่สมุทรสาครกับชลบุรีมีการเร่งตรวจสอบ ปิดพื้นที่ แต่ที่ตาก กลับไม่ตรวจสอบอะไรเลย แถมบอกว่าจะเอากากแคดเมียมกลับมาคืนที่เดิม อีกไม่นาน พายุฤดูร้อนจะมา ประชาชนในพื้นที่กังวลมากว่า บ่อกากแร่ที่ถูกเปิดออกแล้ว เมื่อเจอพายุฝนจะรั่วไหลพาสารพิษลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติหรือไม่ และหากนำกากแคดเมียมกลับมา บ่อจะถูกปิดสนิทเหมือนเดิมหรือไม่” นายคริษฐ์กล่าว


ด้านนายชวาล สส.ชลบุรี กล่าวว่า ตนได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่มาระยะหนึ่งแล้วว่า ได้กลิ่นผิดปกติจากโรงหลอมในตำบลคลองกิ่ว ซึ่งเป็นโรงรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ของกลุ่มทุนจีน


นอกจากนี้ ประชาชนยังพบว่า สัตว์เลี้ยงไม่ยอมลงไปกินน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างที่เคย ตนเองเคยเข้าไปตรวจสอบพื้นที่โรงงาน ก็พบถุงบิ๊กแบ็คหน้าตาน่าสงสัยจำนวนมาก  


วันนี้ ก็พบแล้วว่า ถุงดังกล่าวเป็นกากแคดเมียมปริมาณถึง 7,000 ตัน หลายส่วนถูกพบหน้าเตาหลอม ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่า มีกากแคดเมียมบางส่วนถูกหลอมไปแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ตนจึงมีข้อเสนอเร่งด่วนต่อรัฐบาล ดังนี้


1. รัฐบาลต้องประกาศให้พื้นที่คลองกิ่วเป็นเขตควบคุมมลพิษ

2. ตรวจสอบโรงหลอมและการฝังกลบของเสียในพื้นที่โรงหลอมทั่วทั้งประเทศ ทั้งที่มีใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาต

3. ตรวจสอบการสำแดงเท็จนำเข้ากากอุตสาหกรรมอันตรายที่เป็นวัตถุดิบเข้ามาในประเทศ

4. หยุดการออกใบอนุญาตให้กับโรงหลอมเพิ่ม

-----------------

คุณอาจสนใจ

Related News