สังคม

DSI บุกจับแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกรีวิวที่เที่ยว ดูดเงินเกลี้ยงบัญชี

โดย gamonthip_s

29 มี.ค. 2567

213 views

วันที่ 29 มี.ค.67 ตำรวจไซเบอร์สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 100 นาย บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักพูลวิลล่าหรูขนาดใหญ่ 3 หลัง ที่ปลูกติดกัน ในพื้นที่ ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พบชาวจีนอยู่ในบ้านเกือบ 30 คน ตรวจค้นภายในบ้านพบถูกดัดแปลงเป็นออฟฟิศ มีกลุ่มผู้ต้องหากำลังใช้คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์หลอกผู้เสียหายอยู่



จุดที่ 2 ห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นโรงแรม 5 คูหา 4 ชั้น มีห้องพัก 22 ห้อง โดยชั้น 1-2 เป็นห้องนอน ชั้น 3 ดัดแปลงเป็นออฟฟิศ มีเครื่องคอมพิวเตอร์ และมือถือจำนวนมาก ทั้งหมดถูกเช่าโดนคนจีนที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว จุดนี้พบคนจีนกว่า 20 คน



จุดที่ 3 เป็นอาคารพาณิชย์ปลูกติดกัน 3 คูหา ภายในพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ถูกเก็บไว้จำนวนมาก



รวมแล้วจับผู้ต้องหาได้ 90 คน สัญชาติไทย 35 คน, สัญชาติอื่น 55 คน, เครื่องคอมพิวเตอร์กว่า 223 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือและซิมผี 1,300 รายการ, เลาเตอร์กระจายสัญญาณ 12 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) 80 เล่ม



การบุกจับครั้งนี้สืบเนื่องจากช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 มีกลุ่มเครือข่ายคนไทยและคนจีนกว่า 30 คน ใช้สถานที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.จันดี อ.ฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งสำนักงานหลอกลวงผู้เสียหายทางโทรศัพท์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีการชักชวนให้เหยื่อร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล และเล่นการพนันออนไลน์ รวมทั้งหลอกให้ซื้อสินค้า โดยมีการสร้างเพจหรือยิงแอดโฆษณา สร้างเรื่องหลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อและโอนเงิน



โดยพฤติการณ์ของพวกเขา คือ จากการสอบสวนทราบว่าหาเหยื่อผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียจากแอปพลิเคชันเทเลแกรม จากนั้นชักชวนเหยื่อให้ช่วยแนะนำรีวิวโรงแรม รีสอร์ท ที่พักต่างๆ อ้างว่าจะได้รับรางวัลตอบแทนเป็นที่พัก หรือตั๋วเครื่องบินฟรี หากสนใจต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ส่งข้อความแนบลิงก์เพื่อยืนยันการรับรางวัล เมื่อเหยื่อกดติดตั้งแอปฯ จะถูกควบคุมโทรศัพท์มือถือจากระยะไกล (รีโมท) แล้วจะใช้ข้อมูลส่วนตัวที่เหยื่อให้ไว้ เข้าถึงบัญชีธนาคารผ่านโมบายแบงก์กิ้ง ดูดเงินออกจากบัญชีของเหยื่อ



เบื้องต้นทั้งหมดมีความผิดตามพ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ, พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าวฯ, พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, พ.ร.บ.โทรคมนาคมฯ, พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และประกาศกสทช. เรื่องการยืนยันตัวตนและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการฯ และจะมีการขยายผลการกระทำผิดไปถึงทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการยึดทรัพย์

คุณอาจสนใจ

Related News