สื่อเกาหลีใต้แฉ โฆษณางานในต่างประเทศยังแพร่ระบาดบนโซเชียล บางงานระบุ “ผิดกฎหมาย” แต่ปลอดภัย

สื่อเกาหลีใต้แฉ โฆษณางานในต่างประเทศที่มีค่าตอบแทนสูง พร้อมที่พักหรูหรา-ตั๋วเครื่องบิน ยังแพร่ระบาดบนโซเชียล แม้จะมีคำเตือนออกมากมายหลังเหตุสลดของนักศึกษาวัย 22 บางงานยอมรับ “ผิดกฎหมาย” แต่ปลอดภัย

เว็บไซต์ข่าว Korea Times รายงานว่า ขณะนี้ โฆษณางานพาร์ทไทม์ในต่างประเทศที่ให้ค่าตอบแทนสูงกำลังแพร่ระบาดอย่างหนักบนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นกับดักล่อลวงคนวัยหนุ่มสาวให้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อแก๊งอาชญากรรมในต่างประเทศ

นักข่าวของ Korea Times ลองสวมบทเป็นคนสมัครงาน และติดต่อหานายหน้าจัดหางานในต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรม ซึ่งเขาได้รับการตอบกลับมาภายใน 5 นาที นายหน้าจัดหางานยอมรับตรงๆ ว่าตำแหน่งที่กำลังเปิดรับสมัครคือ การปลอมเป็นอัยการในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และมีรายได้สูงถึง 10 ล้านวอน (ราว 228,000 บาท) ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นการยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นงานผิดกฎหมาย แต่สถานที่ทำงานปลอดภัย และต้องไปทำงานในต่างประเทศ อย่างกัมพูชา เวียดนาม หรือไทย

เมื่อนักข่าวเริ่มแสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัย นายหน้าจัดหางานก็รีบสร้างความมั่นใจให้ทันที โดยผู้จัดการที่อยู่ในกรุงเทพบอกว่า ในกัมพูชา คนเกาหลีมักถูกลักพาตัวไปสร้างบัญชีธนาคารปลอม แต่ประเทศไทยปลอดภัยกว่ามาก มีหัวหน้างานชาวเกาหลีเชื้อสายจีนสองคน และพนักงานชาวเกาหลี 15 คน ทำงานร่วมกันเหมือนครอบครัว

นายหน้าจัดหางานอีกคนในเวียดนามก็บอกว่า “หากงานไม่เหมาะกับคุณ คุณสามารถกลับบ้านได้เสมอ เราไม่เคยทำอะไรโหดร้าย” ส่วนนายหน้าอีกคนในกัมพูชาก็บอกว่า สามารถย้ายไปที่อื่นได้เพื่อความปลอดภัย

ในการสัมภาษณ์ นักข่าวถูกขอข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น สำเนาหนังสือเดินทาง, บันทึกประกันสุขภาพ, ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งนายหน้าได้ขอให้เขาถ่ายภาพถือบัตรประชาชนกับใบหน้าอย่างชัดเจน

แม้เหยื่อหลายรายอ้างว่า พวกเขาถูกหลอก แต่บางรายก็รู้ว่างานที่ทำนั้นมีลักษณะเป็นอาชญากรรม โดยนายหน้าจัดหางานที่นักข่าวติดต่อไป ยอมรับตั้งแต่เนิ่นๆ ในการสนทนาว่าพวกเขาเป็นสมาชิกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

แม้ล่าสุด ตำรวจเกาหลีใต้จะยกระดับการเฝ้าระวังและปราบปรามการงานหาลักษณะนี้ รวมถึงระงับบัญชีต้องสงสัย แต่โฆษณาจัดหางานลักษณะนี้ยังคงแพร่กระจายอยู่บนโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

โฆษณาจำนวนมากถูกทำให้น่าเชื่อถือด้วยการบอกว่า “ไม่มีชาวจีนเกี่ยวข้อง พนักงานทุกคนเป็นคนเกาหลี, สภาพแวดล้อมปลอดภัย ปราศจากความรุนแรงหรือการกักขัง และพนักงานสามารถใช้โทรศัพท์และออกไปข้างนอกได้อย่างอิสระหลังเลิกงาน”

อี บยองฮุน ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยชุงอังกล่าวว่า ผู้คนจำเป็นต้องตระหนักว่าการไล่ตามหารายได้ที่สูงเกินจริงอาจทำให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม พร้อมเสริมว่ารัฐบาลต้องสร้างระบบป้องกันไม่ให้กลุ่มอาชญากรเข้าถึงคนที่กำลังหางานทำ

ด้านอี อุงฮยอก ศาสตราจารย์ด้านตำรวจศึกษาจากมหาวิทยาลัยคอนกุก เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ขยายการสืบสวนโฆษณางานผิดกฎหมายในต่างประเทศ และทำลายองค์กรที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อตัดช่องทางที่นำไปสู่อาชญากรรม