สังคม

ลุยตรวจสถานรักษาเถื่อน ทำแม่ป่วยมะเร็งดับ ช็อกวิธีทำยา เผยฉีดเข้าเส้นเลือด รับรู้ว่าผิดกฎหมาย

โดย passamon_a

4 พ.ค. 2568

148 views

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกรณีผู้ป่วยวัย 61 ปี สแกนพบว่ามีก้อนเนื้อในสมองจำนวนมาก โดยแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นก้อนเนื้อร้าย และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ลูกสาวจึงพาแม่เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลจุฬา โดยระหว่างนั้นก็ได้นำแม่มาฝากไว้กับญาติ เพราะลูกสาวต้องกลับไปทำธุระเรื่องลูก ที่ จ.เพรชบุรี สองวันต่อมา (6 ธันวาคม) ลูกสาวทราบว่าแม่ไปรักษากับหมอสมุนไพรในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยอ้างว่ามีคนแนะนำมาอีกที


โดยสถานที่ที่เรียกว่าสถานรักษา ที่ อ.กบินทร์บุรี นั้น แท้จริงคือบ้านกลางป่า ซึ่งไม่มีอุปกรณ์หรือบุคลากรทางการแพทย์ใด ๆ มีเพียงสองสามีภรรยาที่อ้างตัวว่าเป็นหมอสมุนไพร ใช้วิธีให้ผู้ป่วยดื่มน้ำต้มสมุนไพรจากดอกดาวเรือง และมีการฉีดยาที่ไม่ทราบแหล่งที่มา อีกทั้งยังสั่งห้ามผู้ป่วยรับประทานยาจากแพทย์แผนปัจจุบัน โดยอ้างว่ามีแต่สเตียรอยด์


หลังจากผ่านไป 5 วัน ลูกสาวได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าแม่ของเธอหมดสติ และถูกนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ก่อนจะเข้ารับการรักษาในห้อง ICU ได้เพียง 9 วัน แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตจากสมองตาย โดยลูกสาวเผยว่า ที่เธอออกมาพูดเรื่องนี้หลังแม่เสียชีวิตไปแล้ว 3 เดือน เพราะว่าทนไม่ได้ที่ยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยเฉพาะญาติที่เป็นคนพาแม่ไปรักษาในสถานที่ลักษณะนั้น แต่กลับพยายามบอกกับญาติคนอื่นว่าตัวเธอเองเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของแม่


โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบสถานที่ที่อ้างว่าเป็นสถานรักษาอาการป่วยด้วยสมุนไพร อยู่ในพื้นที่ หมู่ 8 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบว่าสถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล โดยการเดินทางถนนส่วนใหญ่เป็นทางลูกรัง สองข้างทางเป็นป่ายูคาลิปตัส และไร่ข้าวโพด


เมื่อเดินทางไปถึงสถานที่ดังกล่าวก็พบว่ามีห้องแถวตั้งอยู่ 4 ห้อง ด้านหน้ามีป้ายเขียนติดว่า บ้านพักอภิธรรมบางปะแก้ว ถัดไปมีบ้านชั้นเดียวตั้งอยู่ และถัดจากนั้นก็มีศาลาลักษณะคล้ายที่พำนักสงฆ์ เมื่อสังเกตดูในตู้กระจกที่ตั้งอยู่ในศาลาก็พบว่ามีถุงพลาสติกตั้งวางอยู่หลายถุง ด้านในบรรจุผงต่าง ๆ โดยแต่ละถุงมีตัวอักษรเขียนระบุเอาไว้ชัดเจน อย่างเช่น กระดูก+ว่านต่าง ๆ, ดอกผักโขม, ดอกดาวเรือง นอกจากนี้ยังมีรากกระชายอบแห้ง


และเมื่อวันที่ 3 พ.ค. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่บริเวณสถานที่ดังกล่าวพบ หมอพรชัย และมีชายสูงวัย 1 คน อ้างเป็นพี่ชายของหมอพรชัย มาทราบภายหลังว่าชายคนนี้เป็นอดีตนายตำรวจเกษียณ ซึ่งชายคนดังกล่าวไม่ให้เจ้าหน้าที่ สื่อมวลชน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บันทึกภาพใด ๆ ทั้งสิ้น อ้างเป็นที่ส่วนบุคคลและเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ให้ถ่ายสถานที่ได้ พบว่าสถานที่นี้เปิดเป็นสำนักสงฆ์ ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้มีการพูดคุยสอบถามกับนายพรชัย และชายคนดังกล่าวที่อ้างว่าเป็นพี่ชายของนายพรชัย และได้ไปเดินดูสถานที่ที่พบน้ำหมักในโอ่งที่มีหนอน อ้างว่าน้ำหมักนี้เป็นปุ๋ยไม่ใช่ยา


หลังจากนั้นได้เดินไปที่พักของ พระบุญเลิศ ที่อยู่ห่างจากสถานที่ดังกล่าว 600 เมตร ได้เข้าพูดคุย โดยพระท่านไม่ได้ปกปิดข้อมูลใด ๆ ได้บอกรายละเอียดให้ทางเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวฟัง ถึงในเรื่องการรักษาและการใช้ยา หลังจากพูดคุยกับพระบุญเลิศ ทราบว่า สถานที่แห่งนั้นเปิดเป็นสำนักสงฆ์ และทราบว่าได้มีการใช้ยาสมุนไพรรักษาคนจริง โดยใช้ทั้งกินและฉีดเข้าเส้นเลือดดำ มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเข้ามารักษา


โดย พระบุญเลิศ เล่าว่า ตนป่วยเป็นภูมิแพ้เรื่องรังเป็นปี จากการตรวจก็พบว่ามีโลหะหนักในร่างกายเยอะ ตอนนั้นในการรักษายังไม่มีการล้างพิษ ก็ใช้สมุนไพรรักษาทั้งยาต้ม ยาหยอด ยาฉีดโดยฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ยาฉีดกลั่นมาจากสมุนไพรหลายตัว ซึ่งเราทำกันเอง อาตมาเป็นผู้ออกแบบ ทั้งกลั่นเอง เนื่องจากเมื่อช่วงเด็กตอนไปกับแม่ ไปต้มเหล้า ไปเรียนเรื่องระบบควบแน่น อาตมาก็เอาความรู้นั้นมากลั่นสมุนไพร เดิมทีใช้ยาต้มแล้วฉีด มันมีผลข้างเคียงคือหนาวสั่นมาก หนาวประมาณ 5-10 นาที ตนจึงมีการพูดคุยกันว่าโมเลกุลต้องละเอียดกว่านี้จึงเข้าในร่างกายได้ หลังจากนั้นจึงได้พูดคุยกันว่าจะต้องทำถังกลั่น เลยนำมาประยุกต์จากจินตนาการ ใช้วิธีควบแน่นเอาถังแก๊สปิคนิคไปควบแน่นจุ่มลงในถัง 200 ลิตร แล้วก็กลั่นออกมา


เดิมที่เรารักษากับญาติและคนสนิท หลังจากนั้นก็มีการบอกกันปากต่อปาก ซึ่งอาตมาก็เคยฉีดให้กับตัวเอง ส่วนอาจารย์พรชัย ก็เคยฉีด แต่ฉีดใครบ้างก็จำไม่ได้ สวนสมุนไพรดอกดาวเรืองไม่ใช่ประเด็นหลัก มียารอง ยาหลัก ที่เอามากลั่น ตอนหลัง ๆ เป็นน้ำมันหอมระเหย ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เราภูมิใจ นำมากินแล้วฉีด


ส่วนที่ทำก็รู้ว่ามันผิดกฎหมาย ยารักษาได้ทุกโรคแต่ไม่ได้ทุกคน แต่ละคนมันไม่เหมือนกัน บางคนที่มารักษาก็หาย บางคนก็ไม่หาย คนเสียชีวิตก็มี แต่ว่าไม่รู้ว่าสาเหตุนี้หรือเปล่า เพราะมาเสียชีวิตภายหลัง ผู้ป่วยบางคนญาติก็เอามาทิ้งไว้ และก็ไม่เอากลับ ซึ่งยานี้ถ้าไม่ติดในเรื่องกฎหมาย คงทะลุถึงต่างประเทศแล้ว


ทั้งนี้ เรื่องกฎหมายก็คือเรื่องกฎหมาย ปล่อยให้มันเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนภายนอกกับญาติพวกเราที่ขอร้องกันมาให้รักษา ส่วนชาวต่างชาติจะมีชาวรัสเซียที่มารักษาประจำ แต่ละคนใช้ระยะเวลาไม่เท่ากัน ตัวยาหลัก ๆ คือ ดอกกานพลู เปลือกอบเชย จริง ๆ ตนไม่ได้มีหน้าที่จะมาชี้แจงในตรงนี้ หน้าที่จริง ๆ ของตนคือการแสดงธรรม ทำมาเป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว ซึ่งหนูทดลองก็คือตัวเอง มันเป็นวิธีการรักษาแบบทางเลือก


ส่วนทางด้าน นายธรรมรัฏฐ์ งามแสง นายอำเภอกบินทร์บุรี และ นายนัฐพงษ์ ขันธรักษ์ เภสัชกรชำนาญการ ได้กล่าวว่า เบื้องต้นอาการตรวจสอบได้รับข้อเท็จจริงว่าทางเขามีการเปิดทำการรักษาจริง ทั้งมีการปรุงยา มีการฉีดรักษา ซึ่งต่อไปก็จะมีการไปแจ้งความดำเนินตามกฎหมายและเรื่องของคดีสาธารณสุข ส่วนในเรื่องของความผิดเบื้องต้นประกอบด้วยไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ฉีดยาเข้าเส้นเลือดโดยไม่รับอนุญาต และข้อหาอื่น ๆ เรากำลังจะทำการตรวจสอบหาข้อมูลที่แน่ชัดก่อนที่จะร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/C-rGxnSTPbY

คุณอาจสนใจ

Related News