สังคม
'เศรษฐา' ลุยน้ำเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยนราธิวาส - แม่วอนช่วยลูกวัย 43 วันเป็นไข้ น้ำท่วมติดในบ้าน
โดย passamon_a
27 ธ.ค. 2566
43 views
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางถึงท่าอากาศยานนราธิวาส โดยมี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมหน่วยงานราชการในพื้นที่ รอต้อนรับ โดย นายเศรษฐา ได้ทักทายและถ่ายรูปกับประชาชนที่มารอขึ้นเครื่องภายในสนามบิน
จุดแรก นายเศรษฐา เดินทางมายังศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตั้งอยู่ภายในที่ว่าการอำเภอระแงะ เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งภายในศูนย์พักพิงแห่งนี้ ทั้งผู้สูงอายุและเด็กเข้าพักพิงกว่า 200 คน
โดย นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่เริ่มลดลง ซึ่งวันนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากกระทรวงมหาดไทย ได้ลงมาดูแล ตนเข้าใจว่าน้ำมาเร็ว มาแรง และมาเยอะ กว่าปกติ แต่การระบายก็เป็นไปได้ด้วยดี ขณะที่รัฐบาลเองต้องพยายามทำงานให้ดีขึ้นในแง่ของการเตือนภัย เนื่องจากปัญหานี้เกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ พร้อมกับกำชับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ดูแลประชาชนที่เดือดร้อนให้ดี
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ก่อนที่จะเดินไปทักทายให้กำลังใจกับผู้สูงอายุและผู้ประสบภัย พร้อมพูดคุยกับทีมแพทย์ที่มาตั้งหน่วยบริการสาธารณสุข
นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังมอบยาอาหารสัตว์พระราชทาน ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แก่ตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ และได้เยี่ยมโรงครัวของกองทัพบกที่มาตั้งรถให้บริการอาหารกับผู้ประสบภัย
จากนั้นได้ลงพื้นที่ชุมชนเขตเทศบาลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งอยู่ใกล้กับคลองตันหยงมัส และเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้สวมรองเท้าบูทเดินลุยน้ำ เพื่อไปพูดคุยกับประชาชนที่ประสบอุทกภัย
นายเศรษฐา เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ว่า หากย้อนไป 36 ชั่วโมงก่อนหน้านี้สถานการณ์เลวร้ายกว่านี้ ซึ่งบริเวณที่สูงและที่ต่ำมีความแตกต่างกัน การไหลของน้ำลงสู่ทะเลที่รับน้ำเป็นไปด้วยดี และสถานการณ์ขณะนี้คลี่คลาย แต่น้ำมีการสะสมบริเวณปลายน้ำ ซึ่งนายเกรียง จะอยู่ดูแลภาพรวมทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้น้ำมาเร็ว ซึ่งตามพยากรณ์อากาศถือว่าโชคดีเนื่องจากจะไม่มีฝนแล้วแต่ก็ไว้ใจไม่ได้ จึงต้องระมัดระวังให้ดี ซึ่งต่อไปจะต้องดูเรื่องระบบเตือนภัยให้ครบวงจร ทำงานเชิงรุกมากขึ้นในการเตือนภัย
เมื่อถามว่า น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ถือว่าเยอะที่สุด ซึ่งหากจะโยงการบริหารจัดการในพื้นที่ 3 จังหวัด ในเรื่องของความสงบดีขึ้นแล้ว การค้าขายชายแดนระหว่างเรากับมาเลเซียก็ดีขึ้นแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งทุกหน่วยงานพร้อมจัดการแต่ กระทรวงมหาดไทยและสาธารณสุขจะต้องระวังเรื่องโรคระบาดทั้งหลาย
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีโครงการ แก้ไขปัญหาในระยะยาว เนื่องจากในพื้นที่ อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง นายเศรษฐา กล่าวว่า จะต้องดูองค์รวมทั้งหมดว่าสามารถแก้ไขได้แค่ไหน และมีโครงการขนาดใหญ่หรือไม่ แน่นอนว่าเรายังไม่อยากให้เกิดปัญหาซ้ำอีกซ้ำแล้วซ้ำซาก และเกิดการสูญเสียชีวิตเกิดขึ้นจึงต้องฝากพี่น้องประชาชน หากมีการเตือนภัยขอให้เชื่อกันหน่อย
"ต้องระวังต่อไป เพราะตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ปลอดภัยนัก ขอให้ ระมัดระวังให้ดีฟังการเตือนภัยให้ดี ระหว่างนี้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขจะพยายามช่วยดูแลและเยียวยา ขอขอบคุณหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงาน ที่ช่วยสละเวลามา และกองทัพเองก็มาทำครัวเคลื่อนที่ ช่วยบรรเทาไปได้มาก"
นายเศรษฐา ยังได้กล่าวกับผู้ว่าฯนราธิวาส ว่า ตนก็ไม่อยากที่จะมาในเหตุการณ์แบบนี้ อยากจะมาดูแลด้านการค้า เพราะสิ่งต่าง ๆ กำลังเป็นไปได้ด้วยดีทั้งเรื่องความสงบก็ดีขึ้น ด้านความมั่นคงก็มีการเจรจากับมาเลเซียได้ดีขึ้น พอเราเปิดการค้าชายแดนดีขึ้น ตนก็อยากมาทำกิจกรรมและจัดเทศกาลในพื้นที่ให้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายว่า การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส นายเศรษฐา ได้นั่งรถ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ หมายเลขทะเบียน กจ 4544 นราธิวาส
ต่อมา นายเศรษฐา ได้โพสต์ระบุว่า "มีประชาชนได้รับผลกระทบ 19,624 ครัวเรือน จากสถานการณ์น้ำท่วม 5 จังหวัดภาคใต้ สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดย จ.นราธิวาสได้รับผลกระทบมากที่สุด ภาคใต้ตอนล่างปกติมีฝนตกตลอดทั้งปี ซึ่งจะหนักหากมีมรสุมและแรงกดอากาศต่ำเข้ามาพร้อมกันเหมือนขณะนี้ แต่หน่วยงานแจ้งว่าอุทกภัยจะไม่กินเวลานาน เพราะมีการระบายออกทะเลได้ ดังนั้น การระบายน้ำออกจึงเป็นเรื่องสำคัญในตอนนี้
ผมขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งบรรเทาภัย การให้ความช่วยเหลือ และการแจ้งเตือนประชาชน ผมขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทุกคน โดยท่านเกรียง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งดูกรม ปภ. จะอยู่ในพื้นที่ต่อจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายด้วยครับ"
////
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.66 เวลา 13.00 น. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nurain Ain โพสต์ภาพความเป็นอยู่ของคนในครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งครอบครัวนี้อยู่ในพื้นที่ ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งมีเด็กแรกเกิดอายุ 43 วัน อยู่ด้วยพร้อมกับมีอาการไข้ โดยข้อความระบุว่า
"ขอความช่วยเหลือประสานหน่อยนะคะ มีคนติดในบ้านประมาณ 5 คน หนึ่งในนั้นมีเด็กเล็กเพิ่งคลอด อายุประมาณ 40 วัน น้องมีไข้ด้วย ตอนนี้น้ำไหลเข้ามาในบ้านเลยหัวไปแล้ว น้้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนยังไม่ได้กินข้าว ตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนน้องมีผ้าขนหนูและเสื้อ 2 ตัว ต้องการนม แพมเพิสด่วน พร้อมระบุบ้านเลขที่ 85 หมู่ 2 ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา และเบอร์โทรศัพท์เอาไว้"
นอกจากนี้ แม่เด็ก ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ยาอัลลอฮฺ คุ้มครองฉันและลูกๆ ครอบครัวฉันด้วยเถอะ # สงสารที่สุดลูกคนเล็ก วัย 43 วัน"
จากนั้นได้โพสต์ภาพลูกคนเล็กอายุ 43 วัน พร้อมสมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ บอกว่า "อัลฮัมดุลิลละห์ แค่เอาตัวรอด ก็ดีแค่ไหนแล้ว # อดทนน่ะค่ะคนเก่งของมี๊" นอกจากนี้โพสต์รูปเพิ่มเติมขณะให้นมลูก บอกว่า "อาเดะ (อาเดะแปลว่า น้อง) รู้ว่ามามี้้ลำบาก ไม่งอแงเลย เก่งมากๆ สู้ไปกับมามี้นะ"
ต่อมาช่วงบ่าย เวลาประมาณ 15.30 น. ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ได้คุยแม่เด็ก ให้ข้อมูลสั้น ๆ เนื่องจากแบตเตอรี่โทรศัพท์ใกล้หมด เหลือเพียง 7% และในพื้นที่ถูกตัดน้ำและไฟ บอกว่า สถานการณ์น้ำเริ่มลดระดับลงแล้ว แต่ช่วงที่สถานกาณ์หนัก ๆ คือ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. น้ำทะลักเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงเช้า จนต้องเอาไม้มาต่ออาศัยอยู่ใต้หลังคา
ส่วนในบ้านของตน มีคนอยู่รวมกัน 23 คน มีทั้งผู้สูงอายุ คนวัยหนุ่มสาว และเด็ก รวมทั้งลูกชายคนเล็กของตน อายุ 43 วัน ซึ่งเป็นไข้มาแล้วหลายวันและยังคงมีไข้อยู่ ขณะนี้กำลังรอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ประสานมาแล้วว่าเตรียมเข้าช่วยเหลือ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์สอบถามความคืบหน้า แต่คุณแม่ไม่รับสายแล้ว คาดว่าโทรศัพท์แบตหมด จึงได้โทรศัพท์สอบถามไปยังนายอำเภอรามัน ยืนยันกับทีมข่าวว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งอพยพประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งครอบครัวนี้ด้วย ซึ่งจะอพยพเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยให้เสร็จภายในวันนี้อย่างแน่นอน
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/9ROKLonyTds
แท็กที่เกี่ยวข้อง เศรษฐาทวีสิน ,ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ,น้ำท่วมภาคใต้