เหยื่อถูกหลอกทำงานสแกมเมอร์ แฉกลใช้ AI สวมรอยใบหน้า ตีสนิทต่างชาติ รีดเงินได้เป็นล้านดอลลาร์

มีความคืบหน้าสถานการณ์แก๊งสแกมเมอร์กว่า 10 สัญชาติ ทะลักเข้ามาแดนไทยฝั่งแม่สอด จ.ตาก ล่าสุดจับกุมได้แล้วกว่า 800 คน และยังเล็ดลอดหนีการจับกุมอีกนับ 1,000 คน เจ้าหน้าที่ทางการไทยต้องทำงานอย่างหนัก



จากสถานการณ์ฝั่งเมียนมาเกิดความตึงเครียด หลังจากรัฐบาลเมียนมาส่งกำลังทหารเข้าควบคุมชายแดน และตรวจสอบอาคารสแกมเมอร์ เคเคปาร์ค ในเมืองเมียวดี กว่า 30 หลัง ตรงข้ามบ้านแม่กุ อำเภอแม่สอด ทำให้บรรดาสมาชิกสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ต่างถูกลอยแพจากหัวหน้าขบวนการศูนย์บัญชาการใหญ่ และว่ายน้ำหนีตายมายังประเทศไทย



จนถึงขณะนี้ ตำรวจ ตม. จับแรงงานเหล่านี้ได้กว่า 800 คน และยังคงหลบหนีข้ามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งชาวไทย จีน อินเดีย เนปาล เคนยา เวียดนาม ศรีลังกา เอธิโอเปีย บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ ปากีสถาน เป็นต้น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณสุสานบ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคง ตรึงกำลังแนวชายแดน และได้เข้าควบคุมตัวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวน 197 คน



หนึ่งในนั้นเป็นหญิงลูกครึ่งไทยเวียดนาม ชื่อนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ถือบัตรบุคคลไม่มีสถานะ บอกว่า ตนถูกหลอกไปเป็นแก๊งสแกมเมอร์ เพื่อหลอกเอาเงินกับชาวต่างชาติ กลุ่มเศรษฐี ทั้งแอฟริกา ดูไบ แคนนาดา โดยมีการตั้งโปรไฟล์ ใช้ระบบ AI สวมรอยใบหน้า ที่ไม่ใช้ใบหน้าตัวเอง จากนั้นจะเข้าไปตีสนิทกับเหยื่อชาวต่างชาติที่มีอายุ หลอกให้ช่วยเอาเงินมาลงทุนประเภทต่างๆ เน้นการใช้หน้าตาและคำหวานอ้อนเหยื่อที่ต้องการมีเด็กไว้ดูแล บางรายหลงเชื่อสูญเงินหลักล้านดอลลาร์ ซึ่งตนสามารถทำยอดถึงจึงไม่ค่อยถูกทำร้ายร่างกาย



ขณะที่ น.ส.จุ๋ม (นามสมมติ) ชาวไทยจาก จ.ตราด ให้เป็นข้อมูลว่า ตนหนีข้ามมาจากเคเคปาร์คตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 22 โดยตนเข้าไปทำงานเนื่องจากมีเอเจนซี่ติดต่อ โดยเขาบอกว่า เงินดีทำงานมีวันหยุดและไม่มีการบังคับอะไร ซึ่งเป็นคำพูดที่โน้มน้าวใจ ทำให้ตนตัดสินใจเข้าไปทำงาน แต่เมื่อไปถึงกลับไม่ได้เป็นเหมือนที่คุยกันไว้ หากไม่ทำตามที่เขาต้องการก็มีตัวอย่างที่เขาลงโทษเหยื่อให้เห็นว่าจะโดนอย่างไร ทำให้ตนจำใจต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก



นอกจากนี้ ตำรวจ สภ.แม่สอด ได้ตรวจค้นที่บริเวณท่าข้ามสินค้าที่ 29 ใน ต.แม่กุ พบชาวจีนจำนวนหนึ่งที่หลบหนีมาจากเมืองเคเคปาร์ค ได้ขนเงินสดผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาฝั่งไทย จำนวนกว่า 4 ล้านบาท โดยพบซุกซ่อนในกระเป๋าเป้และในถุงพลาสติกสีดำ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาก่อนจะส่งตัวให้ ตม. ดำเนินคดีและผลักดันกลับประเทศ



ส่วนแนวทางการป้องกันต่างชาติที่ทะลักเข้ามาฝั่งไทย ล่าสุดศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จ.ตาก ได้สั่งการให้ ตำรวจภูธร ภาค 6, สตม.และ ตชด. บูรณาการกับฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วย โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติการ (ส่วนหน้า) แก้ไขปัญหาบุคคลต่างชาติลักลอบเข้ามาในพื้นที่ โดยมี ผู้ว่าฯ ผอ.ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมาจังหวัดตาก เป็นประธาน ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 อ.แม่สอด โดยจะมีการคัดแยกคนต่างด้าวทุกรายอย่างละเอียด หากพบ ว่ามีความผิดในกรณีใดก็ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Hn1cchMLWss