สังคม

"ธนกฤต" ลุยตรวจวัดพระบาทน้ำพุ ส่อผิดสร้างสถานพยาบาล พบเก็บ 20 ศพ สั่งนำไปฌาปนกิจ

โดย panisa_p

21 ส.ค. 2568

70 views

เมื่อวานนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสถานที่ดูแลผู้ป่วยของวัดพระบาทน้ำพุ



ดร.ธนกฤต นำคณะเข้าตรวจสอบในจุดแรก คือ สถานชีวาภิบาล และพูดคุยกับคณะผู้ดูแลและผู้ป่วยที่ไม่ใช่กลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อ ก่อนจะพาคณะเดินทางออกมาอีกอาคาร คือ อาคารเมตตาธรรม ซึ่งเป็นจุดที่ผู้สื่อข่าวเคยเข้าไปสำรวจและพบว่ามีถังออกซิเจน และอุปกรณ์ทางการแพทย์วางเกลื่อนไว้เต็มพื้นที่



จากการตรวจสอบ พบว่าแต่ละห้องอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน และถูกทิ้งร้างตามที่ปรากฏในข่าวจริง ก่อนพูดคุยกันบอกว่าอาคารดังกล่าวนั้น มีการออกแบบลักษณะคล้ายกับสถานพยาบาล ก่อนจะขึ้นไปในแต่ละชั้นและพบว่าบริเวณชั้น 3 ที่ไปพบถังออกซิเจนนั้น ไปพบป้ายประกาศที่ติดเอาไว้ระบุว่า สิทธิ์ของผู้ป่วย เชื่อว่าอาคารดังกล่าวสร้างขึ้นมา เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยจริง



หลังจากนั้นคณะเดินต่อไปยังอาคารคนทำดีอวดผี เพื่อไปดูจุดเก็บรักษายาของผู้ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งเดินเข้าสำรวจและพบการเก็บรักษายาไว้อย่างดี โดยมี อย.เข้าร่วมสำรวจด้วย ก่อนเดินไปยังห้องด้านข้างที่มีผู้ป่วยติดเตียงรักษาตัวอยู่



ภายหลังการตรวจพื้นที่ ดร.ธนกฤต เปิดเผยว่า การตรวจสอบครั้งนี้มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นสถานชีวาภิบาลยังไม่มีอะไรที่ผิดปกติ เว้นแต่มีข้อแนะนำบางส่วน ว่าให้ทางวัดจัดหาพื้นที่หรือทำเป็นมูลนิธิ หรือหาอาคารสัก 1 หลัง จดทะเบียนเป็นสถานพยาบาล หรือคลินิกแยกส่วนออกมา ส่วนอาคารคนอวดผี ที่เป็นอาคารรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่พบความผิดปกติ



และขณะนี้มีผู้ป่วย 60 คน พักรักษาตัวนอนรวมกันอยู่ ส่วนผู้ป่วยติดเชื้ออีก 60 ราย ที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จากพักรักษาอยู่ตามบ้านพัก พบว่าเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข เพราะมีการไปเบิกยาจากโรงพยาบาลพระนารายณ์แล้วนำมาให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้



ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในส่วนของอาคารมีทั้งหมด 3 ส่วน อาคารที่เป็นชีวาภิบาลก็เป็นไปตามที่กรมอนามัย ได้พิจารณาอนุญาตไปแล้ว แต่ในส่วนของอาคารที่เอาไว้ใช้สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีเข้าใจว่า ไปรับยาจากโรงพยาบาล และนำยาตรงนี้มาจ่ายยาตามที่แพทย์สั่ง ซึ่งกลไกส่วนนี้ถือว่าถูกต้องตามมาตรฐาน



ส่วนอาคารเมตตาธรรม ซึ่งเป็นอาคารร้าง อาคารนี้พบข้อพิรุธหลายส่วนด้วยกัน เช่น ถังออกซิเจน รถฉุกเฉินในการเคลื่อนย้ายยาสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ในห้องตรวจแพทย์ และพบคำประกาศสิทธิ์ผู้ป่วย นอกจากนี้ยังพบห้องกดจุดผู้ป่วยด้วย ซึ่งในส่วนนี้ต้องสืบสวนอีกรอบ ซึ่ง สปส.จังหวัดจะร่วมมือกันสืบสวนดูว่าพยานหลักฐานเป็นอย่างไรบ้าง เราจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฏหมายต่อไป



ด้านนายแพทย์ ประสาน ชัยวิรัตนะ ผอ.ศูนย์อนามัยที่ 4 กล่าวว่า ในส่วนของกรมอนามัย เป็นเรื่องของการเก็บศพที่เป็นธรรมสังเวช เก็บไว้ให้ดูเพื่อปลงอาบัติ แต่จำนวนศพที่พบตอนนี้มี 20 ศพ และมีการฉีดฟอร์มาลีน สภาพศพเก็บมาหลาย 10 ปีแล้ว แห้งเป็นปกติ แต่ พ.ร.บ.ที่ดูแลเรียกว่า พ.ร.บ.ฌาปนสถานและสุสาน ซึ่ง พ.ร.บ.นี้ควบคุมโดยท้องถิ่น จากการสอบถามเทศบาลเขาสามยอดที่เข้าร่วมตรวจสอบด้วย พบว่ายังไม่มีการร้องเรียน ซึ่งหากมีการร้องเรียนหรือแจ้งกล่าวโทษ จึงจะดำเนินการต่อได้ ทั้งนี้ ศพทั้งหมดต้องนำไปฌาปนกิจ



ขณะที่ ดร.ธนกฤต ย้ำว่า 20 ศพต้องไปฌาปนกิจ หน้าที่ของการดูแลศพเป็นท้องถิ่น เอาไว้อย่างนี้ไม่ได้ ส่วนเรื่องตึกร้างก็เข้าข่ายเป็นสถานพยาบาลเดี๋ยวจะต้องดูและรวบรวมพยานหลักฐานก่อน หากพบความผิดก็จะดำเนินคดี ใครที่เป็นผู้บริหารในนี้ก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ



ส่วนเรื่องตึกร้างมีการปิดทำการไปนานแล้ว ต้องไปดูเรื่องของอายุความ หากพบว่ามีองค์ประกอบอื่นสัมพันธ์กับเรื่องของตำรวจกองปราบที่ดำเนินคดี จะเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ หรือสารตั้งต้น ที่เกี่ยวพันกับการทำมูลนิธิและการเรียกรับ ต้องมีข้อมูลว่าเมื่อไม่ได้เปิดเป็นสถานพยาบาล แต่มีการเรี่ยไรในเรื่องของการรักษาพยาบาล ที่ผ่านมาทำกันอย่างไรก็จะดูว่าเข้าข้อกฎหมายอะไรบ้าง



สำหรับการเบิกเงินของผู้เสียชีวิต ทางวัดเป็นคนเบิกจากสปสช. แต่ก็ต้องไปตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่าเมื่อปี 67 วัดเบิกไปประมาณ 160,000 บาท ส่วนก่อนที่จะเปิดเป็นสถานชีวาภิบาล เบิกไปประมาณ 130,000 บาท แต่จะไปตรวจสอบว่าการเบิกถูกต้องหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรผิดสังเกต หากเทียบกับที่วัดต้องดูแลคนน่าจะมากกว่าและเงินที่ไปเบิก



ภายหลังการเข้าตรวจสอบภายในวัดพระบาทน้ำพุเสร็จสิ้นแล้ว ดร.ธนกฤต จิตอารีรัตน์ เลขาฯรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางเข้าพบหลวงพ่ออลงกต ที่อาคารใจฟ้า อะคาเดมี่ พร้อมชี้แจงให้หลวงพ่ออลงกตฟังว่า ในส่วนของตึกร้างและอาคารต่างๆที่ใช้ดูแลผู้ป่วย ซึ่งมีอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ในลักษณะคล้ายสถานพยาบาล แต่ทางวัดหรือมูลนิธิฯ ไม่ได้ขอจดทะเบียนอย่างถูกต้องจึงต้องดำเนินการมางกฎหมาย ถือว่ามีความผิดในส่วนนี้ รวมถึงอาคารธรรมะสังเวชที่เก็บร่างของผู้ป่วยเอชไอวี พี่ดูไม่เหมาะสมในเรื่องสุขลักษณะ และความปลอดภัยต่อการแพร่เชื้อโรคอื่นๆ จึงได้แจ้งกับทางหลวงพ่ออลงกตว่าต้องนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดไปฌาปนกิจให้ถูกต้อง


ด้านหลวงพ่ออลงกต ก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามและยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยอมรับว่า ไม่รู้เรื่องกฎหมายการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ตรงไหนผิดว่าไปตามผิด ให้ทางกระทรวงสาธารณะสุขดำเนินการได้เลย หลวงพ่อบอกว่า พร้อมแก้ไขให้ถูกต้อง และหลวงพ่อจะเดินหน้าต่อในการดูแลผู้ป่วยต่อไป



หลังจากนั้น ดร.ธนกฤต ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานที่ปลูกกัญชา พบมีมาตรฐานตามกฎหมายกำหนด และสถานที่แห่งนี้เป็นของบริษัทเอกชน ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลวงพ่ออลงกต ใดๆเลย โดยทางโรงงานได้ขอเช่าพื้นที่จากทางมูลนิธิอาทรประชานาถ สัญญาเช่า 3 ปี ซึ่งโรงงาน ได้ถูก ก่อตั้งมาก่อนโรงเรียนและสนามฟุตบอลใจฟ้าอะคาเดมี่ และเพิ่งจะต่อสัญญาไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568



โดยยืนยันว่าทั้งหลวงพ่ออลงกตและมูลนิธิไม่ได้มีบทบาทในการดูแลโรงงานแห่งนี้ในทุกกรณี เพียงแต่มูลนิธิเป็นผู้ให้เช่าสถานทีเท่านั้น และ กัญชาเหล่านี้ก็ทำเพื่อการแพทย์ซึ่งสามารถช่วยเหลือมนุษย์ได้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/P3H3jVObkeA

แท็กที่เกี่ยวข้อง  วัดพระบาทน้ำพุ ,เก็บศพ

คุณอาจสนใจ

Related News