หนุ่มเล่าหนังคนละม้วน เชื่อฝ่ายหญิงกุเรื่องท้องทิพย์ เผยมีสัมพันธ์ครั้งเดียว จะท้องได้ยังไง ลั่นตัวจริงไม่ตรงปก

จากกรณีสาวร้องว่าถูกสามี ทอดทิ้งไม่รับผิดชอบตั้งแต่ตั้งท้องจนถึงวันคลอดลูกก็ไม่เคยมาเหลียวแล  หนำซ้ำยังเคยถูกทำร้ายร่างกายขณะท้องแก่ด้วย ล่าสุดทีมข่าวได้คุยกับฝ่ายชาย เล่าหนังคนละม้วน แฉกลับ เชื่อฝ่ายหญิงกุเรื่องท้องทิพย์ เผยมีสัมพันธ์ครั้งเดียว จะท้องได้ยังไง



ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ติดต่อไปหาฝ่ายชาย บอกว่า ตนรู้จักกับฝ่ายหญิงผ่านทาง tiktok ซึ่งกดติดตามกันมานานแล้ว จนกระทั่งได้พูดคุยกันผ่านทางข้อความ โดยที่ฝ่ายหญิงบอกว่า ตัวเองอยู่ที่ฮ่องกงและในโปรไฟล์ tiktok ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา และรูปร่างหน้าตาสวย ดูดี ระดับนางแบบ ตนก็คุยกันเรื่อยมานานปีกว่า ปรึกษาปัญหาต่างๆจนสนิทสนมเชื่อใจกัน และฝ่ายหญิงขอยืมเงิน 300,000 บาท แล้วบอกว่าเดี๋ยวกลับมาที่ประเทศไทย ขายที่ดินได้จะใช้คืน



หลังจากนั้นฝ่ายหญิงกลับมาที่ประเทศไทย ก็มีการนัดเจอกัน เดทแรกที่คอนโดของฝ่ายหญิง ซึ่งตนยอมรับเลยว่า เจอกันครั้งแรกช็อคมากเพราะไม่ตรงปกเลยในโปรไฟร์ฝ่ายหญิงเอารูปของบุคคลอื่นมาใช้แทนรูปของตัวเอง ซึ่งเดทแรกตนยืนยันว่า ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวฝ่ายหญิงเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นฝ่ายหญิงตัดพ้อว่ารังเกียจเธอหรอ , และฝ่ายหญิงก็อธิบายว่าตัวเองไปทำหน้าและเป็นโรคไทรอยด์ ให้น้ำเกลือเยอะเลยทำให้ดูบวมกว่าภาพในรูป สุดท้ายเดทแรกจบลงด้วยความผิดหวัง เพราะตนก็รู้สึกนอยด์เสียความรู้สึกที่มาจับได้ว่าฝ่ายหญิงหลอกโปรไฟล์มาคุยกับตน



หลังจากเดทแรกก็มีการคุยกันต่ออาทิตย์กว่า และตนจึงบอกกับฝ่ายหญิงว่าขอลดสถานะจากแฟนกลับมาเป็นเพื่อนดีกว่า ซึ่งหากมีอะไรให้ช่วยเหลือก็สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ ปรากฏว่าฝ่ายหญิงไม่พอใจร้องไห้ฟูมฟายขู่ทำร้ายตัวเอง ขู่ฆ่าตัวตาย และเริ่มคุกคามตนอย่างหนักทั้งบุกมาหาตนที่คอนโดเอากระดาษมาแปะที่ประตูห้อง แปะที่รถของตน



โดยมีข้อความลักษณะประจานว่าตนทิ้งลูกทิ้งเมียและเอาชู้มานอนที่ห้อง พร้อมบุกมาหาตนที่คอนโดหลายครั้ง และสร้างสถานการณ์ว่าตัวเองนั้นถูกตนทำร้ายร่างกายซึ่งมีครั้งหนึ่งตนถึงขั้นต้องแจ้งตำรวจเข้ามาระงับเหตุและตำรวจยังกำชับฝ่ายหญิงด้วยว่าห้ามตามคุกคามตนอีก แต่ฝ่ายหญิงก็ยังไม่ยอมหยุด



ถึงขั้นยื่นคำขาดกับตนว่า ถ้าจะให้เลิกยุ่ง ต้องยอมนอนและมีอะไรกับเธอแบบไม่ใส่ถุงยาง ซึ่งฝ่ายชายไม่ได้ตอบตกลงไปตั้งแต่ครั้งแรกใช้เวลาคิดทบทวนอยู่พักหนึ่ง แต่ด้วยความที่ต้องการได้ชีวิตกลับคืนและฝ่ายหญิงบอกแล้วว่าหากยอมมีอะไรด้วยจะเลิกยุ่ง ตนจึงยอมทำตามที่ฝ่ายหญิงร้องขอ โดยที่ตนยืนยันว่าการมีอะไรครั้งนั้นตนเหมือนถูกบังคับข่มขืน และหลังจากนั้นได้ไม่ถึงอาทิตย์ ฝ่ายหญิงก็ติดต่อมาอีกบอกว่าตั้งครรภ์ ตนรู้ทันทีเลยว่า โดนเข้าแล้ว



จากนั้นตนก็พยายามให้ฝ่ายหญิงพิสูจน์เรื่องการตั้งครรภ์ ปรากฏว่าฝ่ายหญิงไปปลอมใบผลตรวจดีเอ็นเอ มายืนยันกับตนอีกว่าเด็กในท้องคือลูกของตนซึ่งตนได้ตรวจสอบไปที่โรงพยาบาลดังกล่าว ทางโรงพยาบาลยืนยันว่า ไม่มีประวัติการตรวจคนไข้รายนี้และทางโรงพยาบาลไม่ได้รับตรวจ DNA ซึ่งการตรวจดีเอ็นเอจะต้องให้พ่อกับแม่ไปตรวจด้วยตัวเอง



หลังจากตนจับได้ฝ่ายหญิงก็ยิ่งโวยวาย และตามคุกคามตนมาตลอด และพยายามสร้างสถานการณ์ว่าตนทำร้ายร่างกายตบตีฝ่ายหญิงขณะตั้งท้องซึ่งตนยืนยันว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องตนไม่เคยทำร้ายร่างกายผู้หญิง ส่วนในกล้องวงจรปิด ตนอยากให้สังคมช่วยสังเกตดีๆว่าตนลงมือทำร้ายฝ่ายหญิงหรือไม่หรือเป็นการยื้อยุทธฉุดกระชากและฝ่ายหญิง ทำทีเป็นล้มลง



โดยฝ่ายชายยังบอกอีกว่า 2 ปีกว่าที่รู้จักกับฝ่ายหญิง ตนมีแต่เรื่องปวดหัวตลอดเพราะฝ่ายหญิงไม่ยอมยุติความสัมพันธ์และพยายามคุกคามตนเรื่อยมา จนคนรอบข้างและที่ทำงานตนรู้ปัญหานี้ทั้งหมด เพราะฝ่ายหญิงก็ตามส่งข้อความตามไปวุ่นวายกับคนรอบข้างของตนด้วย เงิน 3 แสนก็ยังไม่ได้คืนและรอบนี้ถึงขั้นเอาเรื่องดังกล่าวไปร้องผ่านสื่อผ่านเพจต่างๆซึ่งเมื่อวานตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และเตรียมดำเนินคดีกับฝ่ายหญิงด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ONUQ6b0Fkho