สรุปตั้งแต่ต้น ดรามา 'แสตมป์' ลมเปลี่ยนทิศ จากภรรยาถูกคุกคาม สู่การนอกใจ

คลิปเมื่อวันที่ 15 มกราคม ปรากฏคลิป แสตมป์ ขณะเล่นคอนเสิร์ต ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจถึงสาเหตุหายจากวงการไปเกือบ 2 ปี เนื่องจาก ภรรยาถูกคุกคามร่วม 10 ปี จากคนคนหนึ่ง คอยตามรังควาน ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คอยใส่ร้าย โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับภรรยาของเขา ทำให้คนในวงการเพลง และนอกวงการเกิดความเกลียดชังภรรยาของแสตมป์



พฤติกรรมที่คอยตามรังควานก็เช่น หาเรื่อง ด่า ถ่ายคลิป โดยที่ภรรยาของเขาไม่ยินยอม และสร้างสถานการณ์เอาไปโพสต์ประจานเสียๆ หายๆ แต่ช่วงปีนี้หนักขึ้น เพราะคู่กรณีมีแฟนทำงานในวงดนตรีวงหนึ่ง ทำให้คู่กรณีมีป้ายห้อยคอที่สามารถเดินเข้าหลังเวทีได้อย่างอิสระ



ยกตัวอย่างสถานกาณณ์ คือ ในขณะที่แสตมป์เล่นดนตรีอยู่บนเวที สองคนนั้นจะโฉบผ่านหน้าภรรยาของแสตมป์ บางวันก็มานั่งร้องไห้ใกล้ๆ ภรรยา ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเป็นการส่วนตัว ภรรยาแก้ปัญหาด้วยการบอกผู้จัดงานว่า ขอไม่รับงานร่วมกับวงดนตรีวงนี้ไปก่อน



แต่ก็มีอยู่งานหนึ่ง ที่บังเอิญได้มาเจอกัน และก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ คือคู่กรณีและแฟนมานั่งรอที่หน้าห้องพักวงดนตรีอยู่เป็นชั่วโมง พอแสตมป์และภรรยามาถึงก็วิ่งเข้ามาชาร์จเลย พูดจากกล่าวหาภรรยาของแสตมป์ แล้วก็มีการอัดคลิปเอาไว้ ซึ่งก็งงว่าทำไปทำไม



ภายหลังมาทราบว่าคู่กรณีเอาคลิปนี้ไปให้คนในวงการเพลงดู แล้วพูดว่าภรรยาของแสตมป์ไปคุกคามพวกเขาโดยไม่มีสาเหตุ



28 ตุลาคม 2566 คู่กรณีทั้งสองคนได้ไปดักรอเจ้าของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศ เพื่อกล่าวหาภรรยาของแสตมป์ ทางผู้บริหารจึงติดต่อมาเพื่อฟังเรื่้องราวอีกด้าน และยอมไปขึ้นศาลเพื่อเป็นพยานให้ด้วย



แสตมป์เผยว่า ระหว่างที่ไปศาล พ่อของจำเลยเป็นทหารยศนายพลจากพิษณุโลกมาขึ้นศาลแทนลูก และบอกกำลังจะบรรจุเป็นองครักษ์ พร้อมบอกว่าให้ตนกับภรรยาถอนฟ้องลูกของเขา ไม่เช่นนั้นจะโดนยัดคดีทางการเมือง



นอกจากนี้ นายพลท่านนี้เคยขับรถไปที่บ้านแม่ของตนและถ่ายรูปแม่ตนเก็บไว้ ภรรยาของนายพลท่านนี้ก็เคยมาดูคอนเสิร์ตตนปะปนในกลุ่มโอเพ่นแชท ซึ่งพวกตนโดนครอบครัวนี้คุกคามเรื่อยๆ จนต้องสั่งให้แอดมินปิดโอเพ่นแชท รวมไปถึงการติดตามคุกคามถึงหน้าโรงแรม ปั๊มน้ำมัน หนักสุดคือไปนั่งบนเครื่องบินที่นั่งข้างๆ กันเลย โดยการให้เพื่อนที่ทำงานสายการบินล็อกที่นั่งให้



เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้ แสตมป์ตัดสินใจหยุดรับงานคอนเสิร์ตทั้งหมด จนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น เพื่อรอคำสั่งคุ้มครองจากศาลหากชนะคดี แล้วก็ปรากฎว่าเมื่อปีที่แล้วภรรยาแสตมป์ชนะคดีด้วยการรับสารภาพของจำเลยเอง เพราะยอมจำนนต่อหลักฐานในชั้นสืบพยาน มีการยกมือไหว้ขอโทษและรับปากว่าจะไม่ยุ่งกับภรรยาแสตมป์อีก แต่หลังจากนั้นคู่กรณีก็ยังไม่เลิก ทำพฤติกรรมคุกคามไม่หยุดเหมือนเดิม ตนจึงติดต่อไปที่วงดนตรีที่อีกฝั่งสังกัดอยู่แต่ได้รับการเมินเฉย จึงต้องเปิดศึกในสื่อ ใช้แสงที่มีออกมาต่อสู้เรื่องดังกล่าว



หลังจากเรื่องราวกลายเป็นกระแส เพราะมีการใช้อำนาจในการข่มขู่คุกคาม ทำให้ชาวเน็ตแห่ขุดภาพหญิงสาวคู่กรณี ระบุว่าเป็นสาวปริศนารายนี้ลักษณะเป็นซาแซง เพราะแม้แต่ในงานหมั้นของตัวเอง ยังให้ฝ่ายชายถือหน้ากากที่เป็นใบหน้าของแสตมป์อยู่ด้วย



หลังจากนั้นทางฝ่ายชาย อดีตคนรักของสาวคู่กรณี ก็ได้ออกมาโพสต์ว่าตนเองเลิกรากับสาวรายนี้แล้ว ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกรณีดังกล่าว



ขณะที่แสตมป์ เอง ต่อมาก็ได้โพสต์ขอบคุณและขอโทษฝ่ายชาย ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีใดๆ ทั้งสิ้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/RdpLtR-lIpM