สังคม

‘พ่อคิวพี’ ยัน ลูกขี่เจ็ตสกีชำนาญ-ประสบการณ์สูง เสียใจชนคนตาย เตรียมติดต่อเยียวยา

โดย paweena_c

19 ส.ค. 2567

202 views

พ่อของ “คิวพี” ยืนยัน ลูกขี่เจ็ตสกีชำนาญ ประสบการณ์สูง ปกติขี่เล่นในบึงแถวบ้านเป็นประจำ เสียใจประสบอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ เตรียมติดต่อเยียวยาช่วยเหลือ

อุบัติเหตุเจ็ตสกีที่มี "คิวพี" ชินดนัย แซ่ลิ้ม อายุ 21 ปี นักแสดงละครซีรีส์เรื่อง "วุ่นรักนักบิด" เป็นคนขับ โดยมีแฟนสาววัย 17 ปี และนางสาว อรลดา อายุ 41 ปี แม่ของแฟนสาวคิวพี ซ้อนเจ็ตสกีมาด้วย โดยชนเข้ากับเรือหางยาวข้ามฟากที่มีคนในเรือ 3 คน ได้แก่ นาย ประยูร อ่วมปทุม อายุ 64 ปี เป็นคนขับเรือหางยาว (เสียชีวิต) นางสาว ปาริฉัตร หอยหมั้น อายุ 44 ปี (เสียชีวิต) และนาย มงคลสวัสดิ์ เวิ่นกระโทก อายุ 48 ปี เป็นผู้โดยสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักประดาน้ำต้องค้นหานานกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนจะเจอร่างของผู้สูญหาย

ทีมข่าวได้คุยกับนาย มงคลสวัสดิ์ หนึ่งในผู้โดยสารที่อยู่ในเรือหางยาว และเป็นสามีของนางสาว ปาริฉัตร เล่าว่า นั่งเรือข้ามฟากมากับภรรยา เพื่อข้ามไปฝั่งกรุงเทพฯ โดยเขานั่งหน้า ภรรยานั่งกลาง และคนขับเรือนั่งท้าย พอเรือล่องมาถึงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ก็มีเจ็ตสกีคู่กรณีขับมาพุ่งชนทำให้ภรรยา และคนขับเรือตกน้ำ แต่ตัวเขาไม่ได้ตกลงไป พยายามมองหาทั้งคู่แล้ว แต่ไม่เจอเลย ประกอบกับภรรยาว่ายน้ำไม่เป็นทำให้จมน้ำเสียชีวิต ซึ่งถ้าเขาตกน้ำลงไปด้วยก็คงไม่รอดเช่นกัน

โดยเมื่อคืนนี้สามีได้รับร่างภรรยากลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด วัดหนองตะแบก ต.ยางโทน อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ซึ่งแม่ของนางสาว ปาริฉัตร เสียใจร้องไห้อย่างหนัก รวมถึงลูกชายคนกลางและคนเล็กต่างก้มกราบเท้าแม่ทั้งน้ำตา ซึ่งเมื่อคืนนี้ไม่มีทางญาติหรือครอบครัวฝั่ง "คิวพี" มาร่วมงานศพ

ขณะที่ร่างของนาย ประยูร คนขับเรือ ครอบครัวนำศพไปไว้ที่วัดบางยางกระทุ่มแบน อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

ซึ่ง "คิวพี" ยอมรับว่า ไม่เห็นว่ามีเรือหางยาวขับผ่านกลางแม่น้ำจริง ๆ มาเห็นคือระยะที่ใกล้มากแล้ว ห่างแค่เมตรเดียว เพราะเรือหางยาวไม่มีไฟ

ด้านพ่อของนักแสดงหนุ่ม "คิวพี" เปิดใจกับนักข่าวว่า น้องและพวกได้ฉีดเจ็ตสกีไปกินข้าวบริเวณคุ้งน้ำ แล้วเลยจากร้านอาหารมาเล็กน้อย ก็มาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งตัวน้องเองนั้นมีประสบการณ์และความสามารถในการขี่เจ็ตสกีอยู่แล้ว เพราะขี่เป็นประจำในบริเวณบึงแถวบ้าน เสียใจประสบอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิต เตรียมติดต่อเยียวยาช่วยเหลือ

ขณะที่นาย พรทวี เจ้าของเจ็ตสกีซึ่งญาติของนายคิวพี เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวานนี้คิวพีกับเพื่อนรวม 11 คน ได้ขี่เจ็ทสกีจากดาวคะนองมากินข้าวที่บริเวณพระประแดง ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุ พร้อมยืนยันว่า "คิวพี" นั้นไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเมื่อคืนนี้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้วก็ไม่พบ ปกติจะพากันขับเรือออกในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นประจำ และ "คิวพี" เองก็มีความชำนาญมากในการขับเจ็ตสกี ซึ่งปกติจะไม่ได้ขับเร็ว แต่ตอนนี้สภาพจิตใจของ "คิวพี" ย่ำแย่มากยังคงเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเจ็ตสกีมีประกันภัยอยู่แล้ว และพร้อมที่จะชดใช้เยียวยาให้แก่ผู้สูญเสียทั้งหมด

สำหรับเจ็ตสกีที่เกิดเหตุ ชื่อเรือ เจ.เอ.พี.พี ขนาด 0.42 ตันกรอส ใบอนุญาตหมดอายุวันที่ 21 ธันวาคม 2567 มีมูลค่า 7 แสนบาท ไม่ใช่ 7 ล้าน คาดว่าเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าน่าจะลงตัวเลขในเอกสารผิดพลาด และจดทะเบียนขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าอย่างถูกต้อง

ขณะที่ในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพนิ่งที่ "คิวพี" ถือกระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในมือขณะคร่อมอยู่บนเจ็ตสกี

ในเรื่องนี้ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามพันตำรวจเอก ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผู้กำกับการ สภ.พระประแดง ยืนยันว่า ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของ "คิวพี" แล้วพบว่าเป็น 0 แปลว่า ไม่มีแอลกอฮอล์ในร่างกายของ "คิวพี" แต่ "คิวพี" ก็ไม่มีใบอนุญาตขับเรือ เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาฝ่ายใด จะต้องเชิญตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียด และพิจารณาจากหลักฐานต่าง ๆ อีกครั้งจึงจะแจ้งข้อกล่าวหา

ทำให้เช้าวันนี้ (19ส.ค.67) สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ออกคำสั่งห้ามใช้เรือ และออกหนังสือเชิญ ว่าที่ร้อยตรี พรทวี จันทร์ม่วง เจ้าของเรือ กับ "คิวพี" เข้ามาพบเจ้าพนักงานกรมเจ้าท่า เพื่อสอบสวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยให้ทั้งคู่นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับใบทะเบียนเรือเจ็ทสกี และประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือหรือใบนายท้าย ซึ่งเปรียบเสมือนใบขับขี่รถยนต์ มาแสดงต่อเจ้าพนักงานด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะมาถึงราวเที่ยง

หาก "คิวพี" ไม่มีประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือหรือใบนายท้ายจะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทยพุทธศักราช 2456 นั้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ล่าสุดพันตำรวจเอก ประภาส มั่งคั่ง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนเดินทางมาติดตามการสอบสวน "คิวพี" ด้วย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากยังไม่ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง และอีกประเด็นที่นักข่าวสอบถามคือ ใครจะเป็นคนดำเนินคดี ระหว่าง สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หรือ สน.บางคอแหลม กทม. ซึ่งรองผู้บังคับการบอกว่า ต้องให้ทางเจ้าท่าเป็นผู้ชี้ชัดว่า เครื่องยนต์เรือยาวที่ถูกชนตกอยู่ในท้องที่ใด รวมทั้งต้องให้ทางเจ้าท่าดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับเส้นทางการเดินเรืออย่างละเอียด ถึงจะสามารถชี้ชัดได้ว่าท้องที่ใดต้องรับผิดชอบ และจะสามารถดำเนินคดีทางอาญาได้


https://youtu.be/Ac45SrZxQuA

คุณอาจสนใจ

Related News