สังคม

สลด เด็กวัย 13 ถูก 2 อา ชำเรา 2 ปี ซ้ำขู่ฆ่า ย่าเห็นคาตา แต่ไม่ช่วย

โดย nattachat_c

5 พ.ย. 2567

934 views

สุดสลด เด็กหญิงอายุแค่ 13 ปี ถูกสองอาซึ่งเป็นญาติแท้ ๆ กระทำชำเราหลานสาวตัวเอง ตั้งแต่ ป.6 จนถึง ม.2 แถมขู่ฆ่าถ้าเอาไปบอกใคร


วันที่ 4 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจาก ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ หรือ ทนายชัช กลุ่มทนายใจดี ว่า มีบิดา พร้อม เด็กหญิงติ๊ก (นามสมมุติ) ชาวอำเภอรัตภูมิพร้อมญาติ เข้าขอความช่วยเหลือต่อกลุ่มทนายใจดี ผ่านว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ พร้อมมอบพยานหลักฐานที่สำคัญ และให้ข้อเท็จจริง ในการดำเนินคดีกับสองญาติแท้ ๆ ได้ร่วมกระทำกับเด็กหญิงติ๊ก ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะเดินทางไปที่สำนักงานกฎหมายทนายใจดี บ้านกลาง ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

จากการสอบสวนข้อเท็จจริงจากปากเด็กหญิงติ๊ก ได้เล่าว่า เด็กหญิงติ๊กได้อาศัยอยู่กับปู่และย่าเลี้ยง ที่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอรัตภูมิ และอยู่ร่วมกันกับลูกของย่าเลี้ยงซึ่งเป็นชาย 2 คน ถูกฝ่ายญาติข่มขืนกระทำชำเราตั้งแต่อยู่ชั้นป.6 เทอม 1 เมื่อปี 2565 จนถึงปัจจุบัน


โดยเริ่มจากเมื่อปี 2565 ครั้งเมื่อเด็กหญิงติ๊กอยู่ชั้นป.6 เทอม 1 ได้มีนายหนึ่ง (นามสมมุติ) เข้ามาลวนลามหมายจะข่มขืนแต่เนื่องจากมีคนมาเห็นเสียก่อนจึงถูกนายหนึ่งเพียงแค่ลวนลาม และพยายามจะข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น นายหนึ่งจึงได้ตกใจวิ่งหนีออกไป


เมื่อปี 66 ขณะที่เด็กหญิงติ๊กอยู่ชั้น ม 1 เทอม 2 ขณะคนในบ้านไปกรีดยาง ก็ได้มีนายสอง (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นพี่ของนายหนึ่งได้เข้ามาข่มขืนในห้องนอน จนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง เด็กหญิงติ๊กได้นำเรื่องนี้ไปบอกกับย่าเลี้ยง แต่กลับไม่มีใครฟังว่าเป็นความจริง และยังถูกดุด่าว่าตนเป็นคนโกหก นายสองไม่ได้มีพฤติกรรมเช่นนั้น


หลังจากนั้น ประมาณ 1 สัปดาห์ นายสองก็เข้ามาข่มขืนเด็กหญิงติ๊กอีกครั้ง ในห้องนอน ครั้งนี้เด็กหญิงติ๊กได้ส่งเสียงร้องเรียกย่า เมื่อย่าเข้ามาที่ห้องก็พบว่านายสองกำลังข่มขืนเด็กหญิงติ๊กอยู่จึงได้ตกใจ และวิ่งหนีออกไป แต่ย่าเมื่อเห็นดังนั้นก็ไม่ได้ดำเนินการอย่างไร


จนครั้งสุดท้าย เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 เวลา 01.00 น. ถึง 02.00 น. นายสองคนเดิมก็เข้ามาในห้อง และข่มขืนเด็กหญิงติ๊กอีกครั้งหนึ่ง และออกไปนั่งดูทีวีข้างนอกห้อง เด็กหญิงติ๊กจึงโทรศัพท์ไปให้น้องชายแจ้งไปยังพ่อของตนว่า ถูกนายสองข่มขืนกระทำชำเรา บิดาของเด็กหญิงติ๊กจึงเดินทางมารับเด็กหญิงติ๊กไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายสองและนายหนึ่ง


เด็กหญิงติ๊ก เล่าอีกว่า นายสองมีพฤติกรรมติดยาเสพติดมาโดยตลอดไม่ทำงานทำการอะไรเป็นหลักแหล่ง ทุกครั้งที่ทำการกระทำชำเรา จะทำการข่มขู่ว่า ถ้าหากเอาเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร จะทำร้ายร่างกาย หรือขู่ฆ่า มาโดยตลอด ตนเองกลัวเพราะก่อนหน้านี้ เคยถูกทำร้ายมาแล้วหากไม่ยอมให้ข่มขืน จนครั้งล่า สุดเด็กหญิงติ๊กทนไม่ไหวกับพฤติกรรมดังกล่าว จึงแจ้งให้พ่อมาช่วยเหลือ


เมื่อว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ได้สอบข้อเท็จจริง และสอบถามว่า พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวไปให้แพทย์ตรวจร่างกายถึงร่องรอยการถูกข่มขืนหรือยัง เด็กหญิงติ๊กตอบว่า ได้มีการส่งไปที่โรงพยาบาลแล้ว แต่โรงพยาบาลให้นั่งรอ แต่ไม่ได้ทำการตรวจร่างกายเกี่ยวกับร่องรอยการถูกข่มขืนแต่อย่างใด เพียงแค่สอบถามธรรมดา และให้กลับบ้านได้


เมื่อทราบ ดังนั้น ทางว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์เห็นว่าไม่ถูกต้องจึงเร่งให้ผู้ปกครองเด็กหญิงติ๊กนำตัวเด็กหญิงติ๊กไปตรวจร่องรอยการถูกข่มขืนอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที และจะได้ประสานพัฒนาสังคมฯ จังหวัดสงขลาให้เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงติ๊ก ซึ่งเด็กหญิงติ๊กไม่อาจที่จะกลับเข้าไปอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวได้อีกครั้งอย่างแน่นอน เพราะขณะที่ให้ข้อเท็จจริง จะมีอาการหวาดกลัว และร้องไห้ตลอดเวลา


ส่วนเรื่องเรียนนั้น อาจต้องลาออกจากที่เดิมไปก่อน ส่วนเรื่องคดีความ ทางกลุ่มทนายใจดีจะดำเนินคดีตามความประสงค์ของบิดา และญาติ ของเด็กหญิงติ๊กให้ถึงที่สุดต่อไป โดยเหตุเกิดที่ตำบลท่าชะมวง อำเภอรัตภูมิจังหวัดสงขลา

คุณอาจสนใจ