สาววัย 19 ร้อง ถูกกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน รุมโทรมถ่ายคลิปขู่ประจาน ตร.เร่งตามตัวผู้ก่อเหตุ

แม่โร่ร้องทนายช่วย ลูกสาววัย 19 ถูกเพื่อนสาวลวงไปให้แก๊งโจ๋นับ 10 รุมโทรม ซ้ำถ่ายคลิปแบล็กเมล พบมีผู้เสียหายหลายราย



วันที่ 9 ตุลาคม 2567 นางสาวบี (ขอสงวนชื่อ นามสกุล) อายุ 41 ปี ได้พาตัว นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี บุตรสาว ร้องเรียนต่อ นายสิทธิชัย ต๊ะอาจ หรือ ทนายอ้วน



โดยกล่าวว่า นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปีลูกสาว ถูกเพื่อนลวงไปให้กลุ่มวัยรุ่นชาย จำนวนนับ 10 คน รุมข่มขืน เหตุเกิดที่ในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ที่บ้านคลองศาลา ตำบลสะเดียง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์



จากนั้นนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ ทนายความ จึงได้พานางสาวเอ (นามสมมุติ) วัย 19 ปี ไปชี้บ้านที่เกิดเหตุ พร้อมพาเข้าพบ พ.ต.ท.วิริยะ กิ่งแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบูรณ์



โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 10 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยนางสาวเอ (นามสมมุติ) วัย 19 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่าวันเกิดเหตุ ตนกับเพื่อนๆ ได้ชักชวนกันไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพชรบูรณ์ และแยกย้ายกันกลับ ต่อมาเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 10 กันยายน 2567 ได้มีเพื่อนผู้หญิง ชื่อนางสาวจัน (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ได้โทรศัพท์เข้ามาบอกว่ารออยู่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง ตนเองบอกไม่มีรถไป นางสาวจัน ก็บอกว่าเดี๋ยวจะให้คนเข้าไปรับ



จากนั้นก็มีวัยรุ่นชายขับรถจักรยานยนต์ เข้าไปรับ และได้พานางสาวเอ ไปที่บ้านเช่าที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบเพื่อนตามที่เพื่อนที่โทรมาแต่อย่างใด จากนั้นเธอได้บอกให้ชายวัยรุ่นคนดังกล่าว ขับรถไปส่งห้องพัก แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นช่วยกันจับตัวเธอเอาไว้ และได้นำผงสีขาวมายัดใส่จมูก และปากของเธอ จากนั้นเธอก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ กลุ่มวัยรุ่นจึงได้ผลัดกันรุมกระทำชำเราเธออย่างป่าเถื่อน ซึ่งเธอจำใบหน้าวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ทุกคน



นอกจากนั้นพวกกลุ่มวัยรุ่น ยังได้ใช้ไฟโทรศัพท์มือถือ ถ่ายที่ใบหน้าของเธอตลอดเวลาเหมือนเป็นการถ่ายคลิปไว้ จากนั้นหลังเสร็จกิจ พวกวัยรุ่นได้พาเธอไปส่งที่ห้องพัก พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเธอก็ไม่ได้บอกและไม่ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง เพราะอับอาย และกลัวจะได้รับอันตราย



ต่อมา กลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ ได้มีการส่งข้อความมาว่าเรื่องนี้มีการอัดคลิปขณะที่เธอถูกรุมโทรม และขู่ว่าจะปล่อยคลิปดังกล่าว เธอจึงได้ตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พี่ชาย และ มารดาของเธอฟัง



มารดา จึงได้พานางสาวเอ บุตรสาว ไปพบกับทนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ และได้พากันเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุแล้ว



ล่าสุด เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เดินทางมาร่วมสอบถามข้อเท็จจริงเพื่อจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือ



นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวอีกหลายราย ที่เคยถูกกลุ่มเยาวชนกลุ่มนี้ก่อเหตุรุมข่มขืน ส่วนใหญ่อับอายจึงไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี



ขณะที่ผลทางด้านคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ทราบเรื่อง ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาพบ หากมีการร่วมกระทำความผิดจริงก็จะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันข่มขืนผู้อื่น