สังคม
ทลายเครือข่ายหลอก ถ่าย-ขาย คลิปลามกอนาจาร พบกลุ่มลับสมาชิกนับหมื่น
28 พ.ย. 2567
308 views
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประสานความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคลหรือ PDPC และเครือข่ายปกป้องคุ้มครองเด็ก ติดตามแกะรอยองค์กรอาชญากรรม ที่ร่วมกันเป็นขบวนการ ผลิต เผยแพร่ และส่งต่อภาพ และคลิปวิดีโอลามกผ่าน Website และ Telegram เกิดความเสียหายต่อเหยื่อหลายราย
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPC และองค์กร ลิฟท์อินเตอร์เนชั่นแนล / องค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์ เรลโรด / มูลนิธิไซเอนเทียโปรแกรม / และมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทยกระจายกำลังลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี / ราชบุรี และจังหวัดตรัง เพื่อจับผู้ต้องหาตามหมายจับและตรวจค้นขบวนการผลิต เผยแพร่ และส่งต่อภาพ คลิปวิดีโอลามกผ่าน Website และ Telegram ในคดีพิเศษที่ 37/2567
ก่อนหน้านี้ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สืบสวนติดตามกลุ่มผู้กระทำผิดโดยโฆษณาเชิญชวนผ่านเว็บไซต์ ให้สมัครเข้ากลุ่ม Telegram ซึ่งในกลุ่มนี้มีการเรียกเก็บเงินค่าสมาชิก หรือการใช้บริการเข้าชม ภาพ คลิป ของบุคคลอื่นที่กลุ่มนี้หามาโดยไม่ถูกกฎหมาย และละเมิดสิทธิส่วนบุคคด้วย ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยในกลุ่มนี้ ยังแยกเป็นอาชีพ/สถานศึกษา หรือสถานที่ทำงาน เป็นต้น ซึ่งสร้างความเสียหาย อับอาย ต่อบุคคลในภาพเหล่านั้น
ผลการตรวจค้น พบว่ามีการเรียกเก็บเงิน ค่าสมาชิกในราคาตั้งแต่ 300 – 1,000 บาทต่อเดือน สร้างรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน และพบว่ามีสมาชิกมากกว่า 20,000 ราย ไฟล์ภาพกว่า 20,000 ภาพต่อกลุ่ม คลิปวิดีโอรวมทุกกลุ่มแล้ว เกือบ 1 แสนคลิป
ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ แยกเป็นบุคคลตามหมายจับที่จังหวัดกาญจนบุรี 1 คน ทำหน้าที่เป็นแอดมินเวปไซต์ ที่เผยแพร่คลิปลามกอนาจาร จังหวัดราชบุรี จับผู้ต้องหาได้ 1 คน เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ให้โอนเงินเข้าเพื่อแลกกับการเข้ากลุ่มดังกล่าว
และที่จังหวัดตรัง จับผู้ต้องหาได้ 1คน ทำหน้าที่ จัดทำคลิปลามก โดยการหว่านล้อมหลอกหลวงเหยื่อให้โชว์ลากอนาจาร แล้วบันทึกคลิปเหล่านั้นไว้เพื่อเผยแพร่และจำหน่าย
ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ เปิดเผยว่าคดีนี้กระทำเป็นขบวนการ มีคนเกี่ยวข้องกันร่วมกันทำผิดหลายคน แตกต่างจากหลายกรณีที่เป็นพฤติกรรมของบุคคลคนเดียว ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ต้องดำเนินคดีเด็ดขาด เพราะเป็นเครือข่ายที่สร้างความเสียหายและละเมิดสิทธิบุคคลอย่างยิ่ง
คดีนี้เป็นการปราบปรามสื่อลามกอนาจาร โดยไม่ได้รอให้ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ แต่เริ่มจากการใช้เทคโนโลยีเพื่อรวบรวมข้อมูล แกะรอยผู้ต้องหาที่อยู่ต่างพื้นที่ และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้สืบสวน แกะรอยจนพบและติดตามตัวผู้กระทำผิดดังกล่าวได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง คลิปลามก ,คลิปอนาจาร ,ขายคลิปลามก