สาวเจ็บใจ หมอดูหลอกสะเดาะเคราะห์ชุดใหญ่ บอกจ่ายค่าครูแล้วจะโอนคืน สุดท้ายปิดเฟซหนี สูญกว่า 5 หมื่น

วันที่ 20 มิถุนายน 2567 ขณะที่ ร.ต.ท.ณัฐวัตร ละดาวัลย์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจาก น.ส.ลภัสรดา อายุ 46 ปี ชาว ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี หมอนวดแผนโบราณร้านดังในตัวเมืองอุดรธานี ว่าถูก น.ส.กนกวรรณ ที่รู้จักกันผ่านเฟชบุ๊ก เมื่อปี 2563 โดยอ้างตัวเป็นหมอดู มีค่าครู 199 บาท/ครั้ง ทำให้สนิทสนมกัน กระทั่งเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2566 ตนตกงาน ตนจึงทักไปหา น.ส.กนกวรรณ บอกว่าตนมีเคราะห์กรรม ต้องทำพิธีสะเดาเคราะห์ รวมเป็นเงิน 6,999 บาท และสัญญาว่าจะคืนเงินให้ 6,900 บาท ส่วนอีก 99 บาทเป็นค่าครู และหลอกค่าลาขันครู 3,999 บาท ก่อนหลอกตนมาเรื่อยๆ จนตนสูญเงินไปรวมทั้งหมด 53,000 บาท

แรกๆติดต่อได้ แต่ก็พูดจาบ่ายเบี่ยง อ้างโน่นนี่นั่น สุดท้ายก็ปิดเฟซบุ๊กหนี และโทรติดต่อไม่ได้ และตนก็จำชื่อเฟชบุ๊กของเขาไม่ได้ด้วย จึงมาแจ้งความให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุม และเงินที่สูญไปกลับคืนมาให้ด้วย

น.ส.ลภัสรดา ผู้เสียหายเล่าว่า เริ่มจากตนสอบถามไปในเพจว่า มีหมอดูแม่นๆ บ้างไหม ก็จะมีคนนั้นคนนี้แนะนำ แต่หมอดูคนนี้เขามาเสนอตัวเองเลย โดยไม่ผ่านคนแนะนำ ซึ่งเป็นหมอดูผู้หญิง แล้วบอกตนว่าหนูรับดูดวงในราคาถูก เริ่มดูครั้งแรกไม่เสียเงิน ครั้งต่อไปจะต้องเสียเงิน จากนั้นตนก็เปิดใจคุยและปรึกษาว่า มีปัญหาเรื่องกลุ้มใจนิดหน่อย ต้องการแก้ไข ต้องทำอะไรบ้าง จากนั้นก็ดูดวงกันมาเรื่อยๆ และเริ่มเสียเงินค่าครูครั้งละ 199 บาท ซึ่งหมอดูบอกว่า อยู่ที่จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งตนใช้วิธีดูดวงผ่านเฟซบุ๊ก แล้วโอนเงินไปให้ 

กระทั่งปี 2566 ตนตกงานแล้วเป็นช่วงเครียดๆ จึงโทรไปเล่าเรื่องให้หมอดูฟัง ว่าตอนนี้ตนตกงาน ช่วยดูดวงให้หน่อย แล้วหมอดูก็บอกตนว่า มีเคราะห์หนัก ต้องสะเดาะเคราะห์ โดยหมอดูส่งรูปสังฆทานชุดใหญ่ และมีพระบูชา 1 องค์ ราคา 6,999 บาท โดยหมอดูบอกว่า จะไปบูชาและสวดมนต์ให้ที่วัด ส่วนเงิน 6,900 จะโอนคืนให้ แต่ 99 บาท จะเก็บไว้เป็นค่าครู อีก 10 วัน จะโอนคืนให้หลังพิธีเสร็จ ตนก็เชื่อใจเพราะรู้จักกันมานาน จึงโอนเงินไปเข้าบัญชีธนคารของเขา

แต่ 10 วันผ่านไป ตนโทรไปถามก็บ่ายเบี่ยง แล้วบอกตนว่าต้องมีพิธีลาขันครู จะต้องมีค่าใช้จ่ายอีก 3,900 บาท ตนก็โอนไปให้ จากนั้น 2-3 วันหมอดูทักมาอีกว่า ตนต้องสะเดาะเคราะห์อีก 2,900 บาท  เพราะตนกำลังกังวลเรื่องงานที่สมัครไว้ ซึ่งต้องทำอะไรก็ได้ที่จะได้งานทำ แล้วหมอดูก็โทรศัพท์มาขอเงิน 2,000 บาท เพื่อไปทำบุญให้เด็กกำพร้า ซึ่งตนไม่ได้ติดใจเรื่องนี้  แต่ในการทำพิธีทุกครั้ง เขาก็ไม่เคยส่งภาพมาให้ตนดูว่าไปทำพิธีที่วัดไหน มีแต่ส่งมาครั้งแรกแล้วก็ไม่ส่งอีกเลย และมีการขอเงินอีกหลายครั้ง แต่ตนจำไม่ได้ แต่รวมๆ ยอดเงินที่โดนหลอกไปประมาณ 53,000 บาท

ตนจึงได้เข้ามาแจ้งความ เพราะก่อนหน้านี้ปรึกษาคนรู้จัก และมีคนในเพจหมอดูส่งรูปมาว่าหมอดูคนนี้มีหมายจับ ตนจึงต้องเข้ามาแจ้งความ เพราะเขาเป็นมิจฉาชีพ เพื่อตำรวจจับตัวให้ได้ ไม่ให้เขาไปหลอกลวงใครอีก  อยากให้หมอดูเอาเงินมาคืนตน ส่วนเรื่องคดีก็ดำเนินการไป เงินที่ได้คืนตนก็จะนำไปทำบุญให้หมด เพราะหมั่นไส้ที่หมอดูแสบมาทำกับตนแบบนี้ ฝากเตือนคนที่ชอบดูดวงจากหมอดูว่า ถ้าดูแล้วมีการต้องโอนเงิน หรือเสียเงินไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ให้คิดเลยว่าเป็นมิจฉาชีพ เพราะถ้าจะทำการสะเดาะเคราะห์นั้น เราสามารถทำได้เองที่วัดใกล้บ้าน อย่าเอาความกังวลใจ ไปเทให้กับหมอดูจนหมด ตนก็อยากให้เคสของตัวเองนี้เป็นตัวอย่าง เพราะตนหมดแค่นี้ถือว่ายังน้อยกว่าผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่หมดเงินไปเป็นแสนบาท เพื่อการทำพิธีสะเดาะเคราะห์กับหมอดูแสบคนนี้

จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของ น.ส.กนกวรรณ อายุ 27 ปี ชาว ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร มีหมายจับจากศาลแขวงนครสวรรค์ ในข้อหา “ฉ้อโกงผู้อื่นและโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวงนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคลใดบุคลหนึ่ง” ซึ่งตำรวจ สภ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ได้ตั้งรางวัลนำจับ 10,000 บาท หากใครมีเบาะแสจนนำสู่การจับตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้