สาวร้อง ถูกเพื่อนบ้านหลอกขายที่ สูญเงินเกือบ 10 ล้าน สุดท้ายเป็นสินสมรส ห้ามขาย

สาวร้อง ซื้อที่ดินเพื่อนบ้านถูกศาลสั่งโมฆะ เหตุเป็นสินสมรส เผยคู่สามีภรรยาหย่ากันไปแล้วหลังขายที่ สามีฟ้องศาล ทำให้เสียเงินฟรี 9.5 ล้านบาท ต้องการแจ้งเตือนภัยผู้จะซื้อที่ดิน ต้องตรวจสอบให้ละเอียดรอบคอบ



นางสาวเกศรา อนันตมงคล ชาวบ้านตำบลหนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองและมารดา คือนางนางสุนีย์ อนันตมงคล ได้ซื้อที่ดินจากเพื่อนบ้าน คือนางพิศ นามสมมติ เมื่อเดือนกันยายน ปี 2563



เดิมทีติดต่อขอซื้อที่จากคนรู้จัก ลุงในซอยให้ซื้อที่แปลงใหญ่ไปด้วย เป็นชื่อของคุณก้อง ติดตามจนรู้ และขอซื้อเป็น 2 แปลง คือแปลงแรกของคุณก้อง พื้นที่ 5 ไร่ ราคา 9.5 ล้านบาท ส่วนอีกแปลงเป็นที่ของคู่กรณี ที่มีข้อพิพาทกันอยู่ คือนางพิศ โดยตกลงทำสัญญาซื้อขาย กันที่สำนักงานที่ดิน นางพิศไปทำสัญญาพร้อมกับสามี (คนใหม่) ซึ่งได้ทำการตรวจสอบเอกสาร หลักฐานโฉนดที่ดินเรียบร้อย รอบคอบ พบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นชื่อของนางพิศ คนเดียว ไม่ติดจำนอง เนื้อที่ 3-1-25.6 ไร่ ราคา 9,500,000 บาท



หลังซื้อที่โอนที่ดินกันเรียบร้อยแล้วได้เพียง 2 เดือน ก็มีหมายศาลมาว่าตนเองเป็นจำเลยที่ 4 และศาลสั่งเพิกถอนการซื้อขาย เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นสินสมรส ซึ่งเจ้าของที่ดินรับว่าเป็นสินสมรสกับสามีเก่าที่หย่ากันไปแล้ว จึงบอกว่าเป็นเรื่องของคู่กรณีที่ไม่ตกลงกันเอง ตนจึงขอให้ซื้อที่กลับคืนไป เอาเฉพาะแค่ค่าที่ดิน ส่วนค่าใช้จ่ายในการถมที่อีก 4-5 แสนบาทตนเองไม่คิด แต่คู่กรณีบอกว่าใช้เงินไปหมดแล้ว ไม่สามารถซื้อคืนได้ สุดท้ายตนเองต้องไปสู้ในชั้นศาล และแพ้ไปแล้ว 2 ศาล คือศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เหลืออีก 1 ศาลคือศาลฎีกา ก็แล้วแต่ศาลจะตัดสินว่าอย่างไร ก็ยอมรับผลการตัดสินตอนนี้ต่อสู้ในชั้นศาลมาแล้ว 4 ปีด้วยกัน



นางสาวเกศรา อนันตมงคล บอกว่า ตนเองซื้อที่ดินเพื่อทำธุรกิจ มีการตรวจสอบรายละเอียดของที่ดินรอบคอบทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ โฉนดดังกล่าว ระบุชื่อของคู่กรณีชัดเจนเพียงผู้เดียว และไม่ติดจำนอง เพียงแต่ไม่ได้ตรวจสอบสถานภาพสมรสของคู่กรณี เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้พลาดตรงที่เป็นสินสมรส ต้องแบ่งครึ่งของคู่สมรส คือศาลชั้นต้น ให้เพิกถอนการซื้อขาย ส่วนที่เป็นสินสมรสของฝ่ายโจทก์ คือครึ่งหนึ่งของเนื้อที่ 3-1-25.6 ไร่ หรือมูลค่า 4,750,000 บาท ตนจึงต้องรอการตัดสินของศาลฎีกาอีกครั้งว่า จะต้องสูญเสียเงินจากการซื้อที่ดินแปลงนี้หรือไม่ อย่างไร



นางสาวเกศรา อนันตมงคล บอกว่า ตนไม่รู้ว่าเรื่องดังกล่าว ทำไมมาฟ้องเอาสินสมรสในช่วงที่ตนเองซื้อที่ดินแปลงนี้ ทั้งที่หย่ากันมานานแล้ว (ตุลาคม 2561 กว่า 2 ปี) ไม่รู้ว่าคู่กรณีรู้กันหรือเปล่าว่าจะขายที่แล้วฟ้องโมฆะเพราะเป็นสินสมรสได้ ทำให้ตนผิดหวังที่จะต้องสูญเสียเงินจำนวนมากจากการซื้อที่โดยไม่รู้ว่า ที่ดินเป็นสินสมรส จึงอยากฝากบอกคนขายที่ดินว่า หากที่ดินเป็นสินสมรสก็อย่าไปหลอกขายให้คนอื่น ขณะเดียวกันผู้ซื้อก็จะต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ดีว่า ที่ดินจะซื้อเป็นสินสมรสหรือไม่ สำหรับการเรียกเงินคืนจากคู่กรณี นางสาวเกศรา บอกว่า คู่กรณีบอกว่า เงินที่ขายที่ได้ ใช้หมดแล้ว ตนจึงจำใจต่อสู้ชั้นศาลฎีกาต่อไป