เร่งช่วย! 'วาฬเบลนวิลล์' ย้ายรักษาด่วน หลังเกยตื้นหาดเขาเขียว มีแผลถลอก อ่อนเพลีย คาดหลงฝูง

วาฬเบลน์วิลล์บาดเจ็บเกยตื้นหาดเขาเขียว อ.เทพา จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างได้ย้ายวาฬไปรักษาเป็นการเร่งด่วน ที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่ชาวบ้าน ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลาได้พบวาฬเกยตื้นที่บริเวณชายหาดเขาเขียว หมู่ที่ 1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา และได้พยายามนำวาฬกลับลงสู่ทะเลหลายครั้ง แต่วาฬไม่สามารถว่ายน้ำได้ คลื่นได้ซัดกลับเข้าสู่ฝั่ง จึงได้แจ้งให้ทางศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างมาตรวจสอบ พบว่า เป็นวาฬเบลน์วิลล์ เพศเมีย ความยาว 4 เมตร น้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัมอายุประมาณ 3-5 ปี จัดอยู่ช่วงวาฬวัยรุ่น โดยธรรมชาติจะอยู่เป็นฝูงในทะเลลึก จัดเป็นวาฬหายากชนิดหนึ่งของโลก คาดว่าวาฬตัวนี้อาจหลงฝูงในช่วงมรสุมของภาคใต้ซึ่งก่อนหน้านี้มีคลื่นลมกำลังแรงมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ขนย้ายวาฬมาอยู่บริเวณแอ่งน้ำใกล้ชายหาดก่อนเป็นการเบื้องต้น

นายสัตวแพทย์รัตนกร พากเพียร สัตวแพทย์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างได้ตรวจร่างกายวาฬพบบริเวณใต้ท้องมีบาดแผลถลอก สภาพร่างกายน่าเป็นห่วงมีอาการอ่อนเพลีย เนื่องจากขาดสารอาหาร ขาดน้ำ เจ้าหน้าที่ได้พยายามป้อนอาหารแต่วาฬไม่ยอมกลืน

จึงจัดเจ้าหน้าที่ชุดละ 2 คน ผลัดละ 2 ชั่วโมง ดูแลวาฬอย่างใกล้ชิด โดยคอยรดน้ำบนแผ่นหลังวาฬให้ชุ่มชื้นตลอดเวลา และประคองไม่ให้จมูกวาฬจมน้ำเนื่องจากวาฬไม่สามารถประคองตัวเองได้

ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างได้ย้ายวาฬเพื่อมารักษาพยาบาลด่วน ที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงบ่ายของในวันที่ 4 ธันวาคม 2566 โดยได้มีการขนย้ายวาฬใส่รถบรรทุกมีแผ่นยางรองตัววาฬไว้พร้อมเติมน้ำทะเลลงไปในผ้ายางและคอยรดน้ำบนแผ่นหลังวาฬให้ชุ่มชื้นตลอดเวลาในขณะขนย้าย

โดยเบื้องต้นได้มีการตรวจร่างกายอย่างละเอียด และให้สารน้ำทางเส้นเลือด รวมทั้งรักษาแผลถลอกใต้ท้อง สำหรับการพบวาฬเบลนวิลล์ในประเทศไทยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกพบที่ชายฝั่งจังหวัดภูเก็ตแต่เป็นซากวาฬ