สังคม

รวบชายวัย 50 ฉกมือถือแม่ค้าร้านของชำ อ้างหาเงินจ่ายค่าเทอม-ค่าหอ ให้ลูก

โดย chiwatthanai_t

27 พ.ค. 2566

24 views

รวบชายวัย 50 คนร้ายก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือในร้านขายของชำ หลอกให้แม่ค้าตายใจโดยจ่ายเงินไปก่อนให้แม่ค้าเดินไปทอนเงิน อาศัยจังหวะเผลอหยิบโทรศัพท์ไป เมื่อคนร้ายเจอผู้ต้องหาถึงกับก้มลงกราบเท้าขอขมา สาเหตุเอาเงินไปจ่ายค่าหอและค่าเทอมให้ลูก ที่เรียนอยู่ในระดับมหาลัยเอกชน โดยภรรยาและลูกก็ไม่รู้ว่าตนเองมาทำแบบนี้



วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรณีที่มีชายลักษณะท้วม อายุประมาณ 50 ปี สวมใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ขี่รถมาจอดที่หน้าร้าน ก่อนเข้าไปขอซื้อน้ำอัดลม 1 แก้ว ขณะที่แม่ค้าเดินไปทำน้ำอัดลมให้ ชายรายนี้ได้หยิบโทรศัพท์ของแม่ค้าที่วางไว้ ก่อนจะรีบออกมาจากร้านขี่รถหนีไป โดยเหตุการณ์นี้ น.ส.พิมพ์พิศา  อายุ 60 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้ ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา


ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (27 พ.ค. 66) ร.ต.อ.วรทัต เรืองฤทธิ์ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้เชิญตัวน.ส.พิมพ์พิศา ผู้เสียหายมาทำการชี้ตัวนายเชาวลิตหรือดำ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหา หลังก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร จึงปลอมตัวหลากหลายอาชีพ เฝ้าซุ่มดูบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อเหตุนับ 10 วัน ซึ่งนายดำ ก่อเหตุแล้วก็ไม่กลับเข้าบ้าน และคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่รู้และไม่ตามตัวแล้ว จึงชะล่าใจย้อนกลับมายังบ้าน ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้ในที่สุด


โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัวนายดำ มาทำการสอบสวน ซึ่งได้พบกับผู้เสียหายคือน.ส.พิมพ์พิศา ได้ยกมือไหว้ขอโทษ และก้มลงไปกราบที่เท้าของผู้เสียหาย กล่าวคำขอโทษที่ได้กระทำลงไป โดยนายดำ ผู้ก่อเหตุ ยังเปิดเผยว่า ที่ทำลงไปนั้น เพียงเพราะต้องการนำโทรศัพท์ของผู้เสียหายไปขาย แลกเป็นเงินเก็บเล็กผสมน้อย ไปจ่ายค่าเทอมและค่าหอให้ลูกสาว ที่เพียงเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนปี 1 ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานเป็นอาชีพ รปภ.ถูกเบี้ยวเงินค่าจ้าง ไม่รู้ว่าจะหาเงินมาจากไหน เพื่อส่งให้ลูกสาว จึงตัดสินใจก่อเหตุขึ้น



ด้านผู้เสียหาย หลังเห็นผู้ต้องหาก้มลงกราบเท้าและบอกเหตุ ก็ให้อภัยนายดำที่ก่อเหตุ และก็สงสารไม่น่าจะมาตัดอนาคตตัวเองแบบนี้ พร้อมทั้งชื่นชมตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ว่าติดตามไม่ปล่อยแม้จะเป็นคดีเพียงเล็กน้อย ก็สามารถดำเนินการจับกุมผู้ก่อเหตุไม่ให้ไปก่อเหตุกับใครต่อได้อีก



ขณะที่ร.ต.อ.วรทัต เรืองฤทธิ์ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ในชั้นพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้แจ้งข้อหาว่ากระทำผิดฐาน วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ก่อนคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราในวันนี้(27 พ.ค. 66)

คุณอาจสนใจ