สังคม

หนุ่มนศ. พร้อมเพื่อน ร้องทนายดังถูกทหารนับ 10 คน รุมกระทืบในผับ แถมขู่ให้ลบคลิป

โดย parichat_p

27 มี.ค. 2566

178 views

นักศึกษาหนุ่มพร้อมเพื่อนร้องทนายดังถูกทหารค่ายดังจ.อุตรดิตถ์กว่า 10 คน รุมกระทืบจนสลบ แถมขู่ให้ลบคลิปเหตุการณ์ที่โพสต์



วันนี้ (27 มีนาคม 66) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายเอ นามสมมุติ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังใน จ.อุตรดิตถ์ พร้อมเพื่อนร่วม 4 คน เดินทางเข้าร้องเรียนนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมเพื่อขอให้ช่วยเหลือ หลังไปเที่ยวสถานบันเทิงแล้วถูกทหารค่ายดังในจ.อุตรดิตถ์กว่า 10 คน รุมทำร้ายร่างกายจนสลบ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมกลัวคดีไม่คืบหน้าเพราะกลุ่มคนก่อเหตุเป็นทหาร นอกจากนี้ยังถูกผู้บังคับบัญชาของทหารกลุ่มดังกล่าวขู่ให้ลบคลิปกล้องวงจรปิดที่พวกตนโพสต์ข้อความเป็นธรรมไม่งั้นจะฟ้องดำเนินคดีข้อหาทำให้เสื่อมเสีย



นายเอ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มี.ค.66 ช่วงเวลา 00.00 น.ตนพร้อมด้วยเพื่อนรวม 5 คนได้ไปเที่ยวที่สถานบันเทิงใน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ขณะที่นั่งดื่มกินกันอยู่ภายในร้าน ตนเห็นเพื่อนรุ่นน้องที่รู้จักกันนั่งอยู่โต๊ะฝั่งตรงข้าม จึงได้ลุกเดินเข้าไปทักทายแต่จังหวะที่เดินไปนั้นผ่านโต๊ะของกลุ่มคู่กรณีที่ยืนเต้นกันอยู่กว่า 20 คน โดยทุกคนใส่เสื้อยืดคอปกสีเขียวปักสัญลักษณะที่น่าอกว่า นักเรียนนายสิบ ม.พัน 7 ตนเสียหลักไปชนแขน 1 ในกลุ่มคนก่อเหตุโดยไม่ได้ตั่งใจ จึงยกมือไหว้ขอโทษแต่ชายดังกล่าวกลับบอกว่า มึงเก๋าหรอจะเอาใช่ไหม ตนจึงรีบบอกไปว่าไม่เอาครับพี่ ผมขอโทษ แต่ทั้งกลุ่มทำท่าไม่ยอมตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินมาบอกเพื่อนๆที่นั่งอยู่ที่โต๊ะให้เช็คบิลกลับบ้าน พอตนออกมาเอารถจยย.ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถกับเพื่อน 4 คน


ส่วนรุ่นพี่อีกคนไปเอารถกระบะ เตรียมจะกลับบ้านกลุ่มคู่กรณีได้เดินออกมาจากร้านตรงมาที่ตน พร้อมถามว่ามึงจะเอาใช่ไหม ตนจึงยกมือไหว้ของโทษอีกครั้งหนึ่งแต่ทางคู่กรณีไม่ยอมใช้มือตบมาที่หน้าตน 1 ครั้ง เป็นจังหวะที่รุ่นพี่ตนขับรถกระบะออกมาพอดีพวกตนจึงรีบวิ่งหนีไปหา กลุ่มคู่กรณีวิ่งตามมา รุ่นพี่ตนจึงลงจากรถมาถามว่ามีเรื่องอะไรกัน หลังจากนั้นพวกตนก็โดนรุมกระทืบจนเพื่อนนอนสลบไปกองกับพื้น 2 คน พวกตนที่เหลือจึงวิ่งหนีตายไปอีกฝั่งของร้านก่อนจะมีการ์ดร้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุนำเพื่อนส่งรพ. ส่วนกลุ่มคนก่อเหตุก็แยกย้ายกันหลบหนีไป



ด้านนายแซค รุ่นพี่ที่ถูกทำร้ายจนสลบกล่าวว่า หลังเกิดเรื่องตามคลิปวงจรปิด จะเห็นว่าตนถูกกระทืบจนสลบคาลานจอดรถ พอรู้สึกตัวอีกที่ก็มานอนอยู่ที่รพ.จึงถามพยาบาลว่าเกิดอะไรขึ้น ทางพยาบาลบอกว่าตนถูกทำร้ายจนสลบไป พอเดินออกมาก็พบว่ามี 1 ในทหารที่ก่อเหตุทำร้ายพวกตนยืนรออยู่ด้วยความกลัวตนจึงบอกไปพี่พวกผมไม่เอาเรื่องหรอกขอให้มันจบกันแค่นี้ แต่ขอให้ช่วยดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลของตนกับน้องที่มารักษาตัว ทางทหารคนนั้นกลับตอบว่าพวกมึงนั้นแหละที่หาเรื่องและไม่ยอมรับผิดชอบ ตนจึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองอุตรดิตถ์วันที่ 24 มี.ค.66


หลังจากนั้นทางผู้บังคับบัญชากลุ่มทหารดังกล่าวได้โทรศัพท์เข้ามาหาตนเพื่อขอเจรจาให้ไม่เอาเรื่อง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ก่อนที่ทางนั้นจะขู่ว่าให้ตนลบโพสต์ที่นำไปลงไม่งั้นจะดำเนินคดีข้อหาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง



พวกตนจึงนำเอกสารหลักฐานคลิปวงจรปิดเดินทางมาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ให้ช่วยเหลือ เพราะเกรงว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้าและไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่มคนก่อเหตุเป็นทหารค่ายดังในจ.อุตรดิตถ์


ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มทหารดังกล่าวยกพวกรุมทำร้ายกลุ่มผู้เสียหายนั้นทางผู้เสียหายยังไม่รู้เลยว่ามาจากสาเหตุใด ถ้าเป็นแค่การเดินชนทางน้องเขาก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษไปแล้ว และถ้าดูจากภาพวงจรปิดก็เห็นเหตุการณ์รุมทำร้ายอย่างชัดเจน หลังจากนี้จะติดตามคดีว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจศาลทหารหรือขึ้นศาลยุติธรรมตามปกติ ถึงแม้เจ้าหน้าที่ทหารที่ร่วมกันก่อเหตุจะก่อเหตุนอกเวลาราชการก็จะต้องถูกตั้งกรรมการตรวจสอบทางวินัยของหน่วยงานเขา


ส่วนคลิปที่ผู้เสียหายเอาไปเผยแพร่นั้นเขาเอาไปโพสต์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งหากเขาไปโพสต์และตัวทหารเดือดร้อนก็ต้องขออภัย แต่ถ้าเดือดร้อนมากหลังจากนี้ให้ผู้เสียหายส่งคลิปร้องเรียนไปที่ทบ.เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตนอยากให้มีการเจรจาโดยมีคนกลางที่เป็นกลางจริงๆ ไม่ใช่ไปเจรจาในค่ายทหาร มาเพื่อพูดคุยกันในที่สาธารณะว่าจะมีการรับผิดชอบอย่างไรบ้าง ถ้าทหารคิดว่าถูกทำร้ายร่างกายก่อนก็ชี้แจงมา ไม่มีปัญหา


วันนี้ไม่ได้ตัดสินใครถูกใครผิด แต่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็ต้องว่าตามกฎหมาย ทำร้ายร่างกายคือทำร้ายร่างกาย เจ็บมากน้อยก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด จะมาหมกเม็ดเจรจาในค่ายทหารให้มันจบๆไม่ได้ ผบทบ.บอกว่ากลัวเรื่องความปลอดภัย ตนเชื่อว่าชายชาติทหารคงไม่มาทำอะไรรอบกัดคนอื่นแน่นอน ยิ่งเป็นข่าวออกไปแบบนี้ ถ้าเป็นข่าวยังกล้ามาข่มขู่คุกคามไม่รู้จะไปที่ไหนต่อเหมือนกัน แต่มันยังไม่เกิดขึ้นและคิดว่าคงไม่เกิด

คุณอาจสนใจ

Related News