สังคม

ดีเอสไอเตรียมแจ้งเพิ่ม 2 ข้อหา 18 บอส 'ดิไอคอน'

โดย panisa_p

4 พ.ย. 2567

34 views

กรมสอบสวนคดีพิเศษ เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องในคดี บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำนวน 18 คน ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ขณะที่รักษาการอธิบดี ดีเอสไอ ระบุว่า 2 ข้อกล่าวหาที่จะแจ้งบอส 18 คน คือความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พรบ.ขายตรง



พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดยระบุว่าที่ประชุมที่มติแจ้งข้อกล่าวหา ผู้เกี่ยวข้องในคดี บริษัทดิไอคอน จำนว 18 คน หรือที่เรียกว่า บอส ทั้ง 18 คน ดยจะแจ้งความใน 2 ฐานความผิด คือความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4,5 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 19,20 โดยเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา อย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าก็คือสัปดาห์หน้า เพราะความพร้อมของทนายความแต่ละคนไม่เท่ากัน



รวมทั้ง ยังพิจารณาจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อทำดีดังกล่าว ทั้งการแบ่งงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และการตั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐในการสอบสวนตามมาตรา 83 รวมถึง และตั้ง ที่ปรึกษาพิเศษ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆเพื่อตรวจสอบ งบดุลบัญชี รวมถึงการตั้งอัยการที่ปรึกษาทางคดีด้วย นชั้นนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่องมาจากสำนักตำรวจแห่งชาติ และได้สอบพยานเพิ่มเติมจนได้หลักฐานตามสมควร ในการฟ้อง18 บอส และนิติบุคคล ในข้อหาดังกล่าว โดยแต่ละคนจะมีบทบาท หน้าที่แตกต่างกันไป



รักษาการอธิบดีดีเอสไอ ยังระบุว่า ความผิด ตาม พ.ร.บ. ฟอกเงิน ฯ ในกรณีนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหานี้ รวมถึงการจะแจ้งข้อกล่าวหา ผู้เกี่ยวข้องล็อต 2 นั้น ยังไม่มีในช่วงนี้



สำหรับกรณีที่นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล หรือบอสพอล นำพยาน 20 คน มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ในฝั่งของบริษัทดิไอคอนนั้น พันตำรวจตรียุทธนา ระบุว่าสั่งให้คณะทำงานจัดทำบัญชีเพื่อเรียกมาให้ปากคำภายหลัง และหากได้ข้อเท็จจริงมากพอ ก็ไม่จำเป็นต้องสอบปากคำทั้งหมด เพราะจะทำให้เกินระยะเวลาควบคุม และส่งผลเสียหายต่อคดี



สำหรับความคืบหน้า กรณีคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์ของนักการเมือง ชื่อ ส.เสือ ที่สนทนากับนายวรัตน์พล หรือบอสพอลนั้น วันนี้ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตรวจพบเส้นทางการเงิน ระหว่างบอสพอล และแม่นักการเมืองคนดังกล่าวจริง ในวงเงินหลักแสนบาท แต่ยังไม่พบเส้นเงิน ที่มีจำนวน 2 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าว และตำรวจยังสืบสวนเชิงลึกว่ามียอดเงินเท่าใดแน่ และภายในสัปดาห์นี้ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จะเข้าไปสอบปากคำ บอสพอล เพื่อถามว่าจะแจ้งความเอาผิดในประเด็นนี้หรือไม่



พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ระบุอีกว่า กรณีนักร้องเรียนหญิง ที่บอสพอล มอบให้ทนายความดำเนินคดีฐานกรรโชกทรัพย์นั้น ขณะนี้ยังเหลือการสอบพยานบุคคล ส่วนคดีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ยังต้องรอการให้ปากคำจากฝั่งผู้แจ้งความให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะให้คณะกรรมการพิจารณาว่า จะออกหมายเรียกให้นายเอกภพ มาให้ปากคำได้เมื่อใด

คุณอาจสนใจ

Related News