สังคม
ผู้ว่าฯปัตตานี ลงพื้นตรวจสอบความเสียหาย เหตุระเบิดคาร์บอมบ์ อ.ปะนาเระ
โดย parichat_p
27 ต.ค. 2567
45 views
ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ให้กำลังใจเด็กพิเศษที่ศูนย์การเรียนฯ อ.ปะนาเระ ที่อาคารเรียนเสียหายจากระเบิดคาร์บอมบ์ และกำชับทุกส่วนราชการเฝ้าระวัง เหตุปล้นรถยนต์ราชการไปใช้ก่อเหตุระเบิด พุ่งเป้ามาที่หน่วยงานราชการ ด้านนักวิชาการ เป็นห่วงการปลุกระดมทางความคิดที่สร้างความขัดแย้งทางการเมือง เป็นอันตรายต่อกระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้
นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจาก เหตุระเบิดคาร์บอมบ์ บนถนนระหว่าง ที่ว่าการอำเภอปะนาเระ และ สภ.ปะนาเระ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ทำให้อาคารศูนย์ราชการโดยรอบรัศมี 300 เมตร เสียหาย
โดยที่ว่าการอำเภอหลังใหม่ กระจก แตก หลังคา ฝ้าเพดานเสียหาย กำลังซ่อมแซม นายมนต์ชัย หนูสาย นายอำเภอปะนาเระ เปิดเผยว่า จะเปิดทำการให้ได้วันพรุ่งนี้ ซึ่งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ไม่เสียหาย รวมถึงโครงสร้างอาคารที่ทำการ ส่วนหอประชุมเสียหายมาก ผู้ว่าฯ ปัตตานี ให้ ตรวจสอบทางวิศวกรรมก่อนจะใช้งาน
ส่วนที่เสียหายหนักคืออาคารเรียนศูนย์การเรียนเด็กพิเศษ ที่ใช้อาคารภายในที่ว่าการอำเภอ ทำให้ต้องย้ายเด็กพิเศษ 19 คน ไปเรียนที่ รร.บ้านท่าข้ามชั่วคราว จนกว่าจะปรับปรุงอาคารใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดป้ตตานี กำชับให้เร่งช่วยเหลือเยียวยา เด็กพิเศษให้ได้เรียนหนังสือ ซึ่งที่นี่เปิดมา 17 ปีแล้วด้วย มีเด็กที่ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย โดยวันนี้ได้มอบเงินข่วยเหลือเบื้อวต้นระหว่างหยุดเรียน และต้องย้ายไปที่เรียนชั่วคราว
นอกจากนี้ยังมีสำนักงานศูนย์การเรียนรู้อำเภอปะนาเระ ที่ใช้อาคารที่ทำการหลังเก่า อายุ 130 ปี เป็นสำนักงานเสียหายมากที่สุด จะต้องย้ายเจ้าหน้าที่และครู 30 คน ไปทำงานชั่วคราวที่ รร บ้านท่าข้ามด้วย และต้องทำเรื่องขอสนับสนุนงบประมาณในการหาที่ทำงานใหม่ เพราะคงไม่สามารถอยู่ที่นีาต่อได้ ส่วนเด็กนีกเรียน กศน.ไม่กระทบเพราะให้เรียนที่ศูนย์ตำบล
ส่วนการเฝ้าระวังสถานการณ์ได้กำชับทุกหน่วยงานไม่เฉพาะที่ว่าการอำเภอ แต่รวมไปถึงโรงเรียน และหน่วยงานท้องถิ่น ต้องมีมาตรการในการป้องกันการมาปล้นรถยนต์ราชการไปก่อเหตุ ซึ่งมีการใช้รูปแบบนี้มากขึ้น และ ใช้เวลาไม่ถึง 1-2 ชม.ในการก่อเหตุ
ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ยังได้ติดตามความเสียหายของ สภ.ปานาเระ จากระเบิด ที่บรรจุใส่ถังแก๊สน้ำหนักรวม 130 กิโลกรัม และมีน้ำมัน 30 ลิตร ทำให้ไฟไหม้ด้วย คาดว่าเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท และ ต้องซ่อมแซมปรับปรุง ระหว่างนี้จะทำการชั่วคราวที่อาคารด้านข้างไปก่อน
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวของ ดาบตำรวจ อดิศักดิ์ บือราเฮง ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี ที่ถูกยิงเสียชีวิต ขณะเข้าไปละหมาดในมัสยิดในหมู่บ้านคลองมานิง อ.เมือง จังหวัดปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลกระทบจากความไม่สงบ โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการก่อเหตุตอบโต้เจ้าหน้าที่หลังจากมีการปิดล้อมบ้านผู้ต้องสงสัยจากเหตุระเบิดในพื้นที่ก่อนหน้านี้ แต่ดำรวจนายนี้ เป็นเพียงตำรวจจราจร ไม่ใช่ชุดปิดล้อมจับกุม และไม่เคยมีเรื่องกับใคร และเป็นคนที่เข้าละหมาดทุกวัน ทำให้เป็นเป้าหมายในการก่อเหตุได้ง่าย ทางครอบครัวเสียใจมากเพราะเพิ่งได้เลื่อนยศ ร้อยตำรวจตรี ขณะที่ภรรยาทำงานเป็นพยาบาลต้องเลี้ยงดูลูกต่อไป ลูกสาวสองคนกำลังศึกษาคณะแพทย์ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชครินทร์ ส่วนลูกสาวคนโตเพิ่งได้บรรจุงานพัฒนาชุมชนที่จังหวัดระนอง อาจต้องขอให้ได้ย้ายมาที่ปัตตานีเพราะต้องดูแลน้องแทนพ่อ โดยครอบครัวยังคงเสียใจ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุกับครอบครัวจากที่เคยถูกเผาบ้านเมื่อปี 2548
จากสถานการณ์คดีตากใบ ที่มีการพูดถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง แต่ในมุมมองที่แตกต่างกัน และการเชื่อมโยงว่าให้เป็นการเมือง รวมถึงการสร้างวาทกรรมว่าเมื่อคดีจบแล้ว การเคลื่อนไหวคดีตากใบหลังจากนี้ เป็นภัยความมั่นคง มีมุกมองจากนักวิชาการที่ทำงานด้านสันติภาพชายแดนใต้มา 20 ปี เป็นห่วงว่า ปมขัดแย้งทางความคิด จะทำให้ปัญหากลับมารุนแรง จึงอยากเห็นทุกฝ่ายหยุดใช้ข้อมูลใส่ร้ายโจมตี เพราะกระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้เดินทางมาไกลแล้ว แม้คณะพูดคุยจะยังไม่เดินหน้า จึงอยากเห็นรัฐบาลแสดงเจตจำนงว่าจะผลักดันการพูดคุยต่อไป
นอกจากนี้หลังคดีตากใบหมดอายุความ อาจเกิดอาฟเตอร์ช็อคมาบ้าง โดยเฉพาะความรุนแรงทางความรู้สึกของประชาชนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม เชื่อว่าความรุนแรงทางอาวุธจะน้อยลง นอกจากจะทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมือง ก็จะส่งผลกระทบทางความคิดมากขึ้น