สังคม

'ว.วชิรเมธี' งานงอก! กรมป่าไม้สั่งสอบ 'ไร่เชิญตะวัน' รุกป่าสงวนฯ หรือไม่

โดย panwilai_c

19 ต.ค. 2567

45 views

คืบหน้าคดีดิไอคอนกรุ๊ป ตั้งเเต่สัปดาห์ที่เเล้วมาถึงวันนี้ มียังมีผู้เสียหายเข้าเเจ้งความต่อเนื่อง ส่วนการสืบสวนขยายผลทั้งเรื่องทรัพย์สินเเละผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลาง เตรียมออกหมายจับเพิ่มในล็อตที่ 2 เเละจะเรียกบุคคลกลุ่มหนึ่งมาสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีคลิปเสียงเทวดาเรียกรับเงิน ส่วนประเด็นไร่เชิญตะวันของพระ ว.วชิรเมธี ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ที่ญี่ปุ่น ก็กำลังถูกตั้งคำถามเรื่องการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ ซึ่งอาจมีบางส่วนรุกล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนเเห่งชาติ ล่าสุด อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเเล้ว



กรณีพระเมธีวชิโรดม หรือพระ ว.วชิรเมธี จากศูนย์วิปัสสนาสากล"ไร่เชิญตะวัน" อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งตกเป็นกระแสที่เกี่ยวข้องกับคดีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วันนี้ พบว่าบรรยากาศที่ไร่เชิญตะวัน ยังคงมีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมสถานที่กันตามปกติ



จากการสอบถามลูกศิษย์เเละคนใกล้ชิด พวกเขาไม่ทราบว่าพระ ว.วชิรเมธี จะเดินทางกลับประเทศไทย หรือกลับมาที่ไร่เชิญตะวันเมื่อไหร่ ทราบเเต่เพียงว่า"พระ ว.วชิรเมธี" ยังคงจำวัดอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น จึงสังเกตเห็นได้ว่าที่กุฏิพระ มีการปิดประตูตั้งแต่ด้านนอกอย่างมิดชิด



ส่วนกรณีที่ภาคประชาสังคม ตั้งคำถามกรณีบุกรุกป่าสงวนเเห่งชาติ ล่าสุด มีรายงานว่า อธิบดีกรมป่าไม้ นายสุรชัย อจลบุญ สั่งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ จ.เชียงราย ตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินของศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวันเเล้ว เบื้องต้นพบว่าจุดนี้ตั้งในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยปุย ตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย



ก่อนหน้านี้ มูลนิธิวิมุตตยาลัย ได้ขออนุญาตใช้ประโยชน์ก่อสิ่งปลูกสร้างไม่น้อยกว่า 100 ไร่ ต่อมาทราบว่าทางสำนักพุทธฯก็ได้ขอใช้ประโยชน์เพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง จนถูกตั้งข้อสงสัยว่าศูนย์วิปัสสนาเเห่งนี้ อาจเข้าทำประโยชน์เกินกว่าที่เเจ้งขออนุญาตไว้หรือไม่ ซึ่งนายสุรชัย ยืนยันว่า ทราบเรื่องเเละได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เชียงราย เข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคมนี้



หากตรวจสอบรังวัดแล้วพบว่า ใช้พื้นที่เกินกว่าที่ขออนุญาตและล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนฯจริง ก็ให้แจ้งความเอาผิดฐานบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ม.54 ได้ทันที



ส่วนความคืบหน้าในคดีดิไอคอน ล่าสุด มีรายงานว่า พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ ในวันนี้ได้เรียกพนักงานสอบสวนประชุมเพื่อสรุปพยานหลักฐาน ขยายผลเรื่องทรัพย์สินเเละเตรียมที่จะออกหมายจับกล่มผู้ต้องหาในแถวที่ 2 เพิ่ม



ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว โดยบอกว่า กรณีที่นายวิทูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล หรือ บอสพอล ออกมาเปิดเผยว่า ได้ให้ข้อมูลกรณีปรากฏคลิปเสียงในสื่อโซเชียลมีเดีย



ซึ่งบอสพอลให้ข้อมูลว่าคลิปเสียงที่มีการเผยแพร่ดังกล่าวนั้นเป็นเสียงของบอสพอลจริง แต่ยืนยันว่าไม่เคยจ่ายสินบนให้หน่วยงานใดตามที่มีการถูกกล่าวอ้าง ส่วนที่มีการพูดถึงเทวดานั้น บอสพอล ยืนยันว่า เทวดาที่หมายถึงคือเทวดาจริง ๆ ไม่ใช่เทวดาบนโลกมนุษย์



ประเด็นนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ได้เข้าไปสอบปากคำด้วยตัวเอง และ"บอสพอล"ก็ยอมรับว่าเป็นเสียงตัวเอง-มีการสนทนาจริง มี 2 คลิป คลิปแรกอ้างว่าทุกหน่วยงานมีเทวดา เทวดาอารักษ์คอยปกปักรักษา คลิปที่ 2 เป็นคลิปบอสพอลคุยกับนายอักษรย่อ ส. เสือ



ส่วนจะเรียกเข้ามาพบภายในวันไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ขอดูพยานหลักฐานและข้อมูลก่อน ขณะนี้กำลังดำเนินการ แต่ตำรวจก็มีไฟล์ที่กำลังดึงมาเพิ่ม ซึ่งต้องนำมาดูเพื่อประกอบการยืนยันให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์เร็วๆนี้หรือไม่ ยืนยันว่าถ้ามีหลักฐานก็จะไม่ละเว้นใคร ดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฏหมาย



ส่วนกรณีที่มีคนตั้งข้อสงสัยว่า มีคนใกล้ชิดของผู้ต้องหากลุ่มเเรก เดินทางออกนอกประเทศไปเเล้วหรือไม่ ทำให้วันนี้ ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สั่งให้ด่านตรวจทั่วประเทศ คอยเฝ้าระวังบุคคลมีส่วนเกี่ยวโยงกับผู้ต้องหาเเละบริษัท"ดิไอคอนกรุ๊ป"



โดยให้เฝ้าระวังทั้งสนามบินและด่านชายแดน แม้จะยังไม่มีหมายจับแต่หากพบตัวก็ขอให้รายงานไปยังผู้บังคับบัญชา หากพบว่าบุคคลเฝ้าระวังและบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดิไอคอนฯ ออกนอกประเทศตามช่องทางธรรมชาติ แต่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของด่านนั้น ๆ จะต้องรับผิดชอบทั้งทางวินัยและอาญา โดยให้ประสานฝ่ายปกครอง ,ทหาร , ตำรวจ ร่วมเฝ้าระวังใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาตามมา



ในเบื้องต้น ได้ตรวจเช็คข้อมูลประชาชนที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ ยังไม่ปรากฎชื่อภรรยาของบอสดารา เดินทางออกนอกประเทศ

คุณอาจสนใจ

Related News