สังคม
เปิดปฏิบัติการตัดวงจรแก๊งคอลฯ จับกลุ่มผตห. พบหลอกลวงต่อเนื่อง พร้อมเปิดกลโกงดูดเสียงญาติ-เพื่อน หลอกเหยื่อ
โดย panwilai_c
27 ก.ย. 2567
169 views
ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับผู้เกี่ยวข้องที่เอื้ออำนวยประโยชน์ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง ทั้งหลอกให้กลัวและปัจจุบันมีการแอบอ้างเลียนเสียงเป็นญาติและเพื่อน เพื่อให้เหยื่อโอนเงิน
ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองปราบปราม เข้าจับกลุ่มนางสาวสุธาทิพย์ได้ที่จุดผ่านแดนคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ขณะเดินทางกลับเข้ามาแสตมป์หนังสือเดินทาง เพื่อกลับไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก
ขณะที่ นายบริพัฒน์ ถูกจับขณะที่กลับเข้ามารักษาโรค ที่บ้านในจังหวัดชลบุรี จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า ไปทำงานด้วยความสมัครใจ โดยทำงานอยู่ที่ตึก25 ชั้นในปอยเปต ฝั่ง กัมพูชา ชั้น ล่าง เป็นคาสิโน และชั้นบน เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมด ห้องละ 50 คน โดยหนึ่งชั้นจะมีแปดห้อง ซึ่งจะมีชาวจีนเป็นบอสผู้สั่งการ โดยแต่ละคอล เซ็นเตอร์ จะมี story หลอกทุกประเภท ตามคอนเทนท์ที่หัวหน้าแต่ละคอลเซ็นเตอร์จะได้รับมาจากบอสชาวจีน พนักงานแก๊งคอล ทำหน้าที่สวมบทบาท ให้สมจริง มีหน้าม้าคอยปั่นกลุ่มในแอปพลิเคชันไลน์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ ผู้ทำหน้าที่หลอกลวงเหยื่อหรืออาจารย์ที่จะคอยแจกสคริปต์ให้ในทีม แล้วหลอกลวงเอาเงินจากเหยื่อ, ผู้ทำหน้าที่ยิงแอดโฆษณาตามแอปฯโซเชียล ที่สำคัญจะมีบอสใหญ่เป็นศูนย์กลาง ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการเงิน
การกวาดล้างครั้งนี้ตำรวจสอบสวนกลางยังจับนางสาวก็ชพรและนางณัฐกานต์ ซึ่ง เป็น นายหน้าจัดหาบัญชีม้าคนไทยให้นายทุน ชาวกัมพูชา ซึ่งขายไปแล้วรวม100 บัญชี
นอกจากนี้ยังตามจับนายนวพลซึ่งทำหน้าที่สแกนหน้าให้กับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ขณะเดินทางกลับมาบ้านเนื่องจากบัญชีถูกอายัด
จากการตรวจสอบบัญชีของคนร้ายที่รับเงินในคดีนี้ พบว่ามีความเกี่ยวพันกับคดีคอลเซ็นเตอร์ที่ได้มีการแจ้งความไว้ในระบบรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กว่า 300 เคส รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 110 ล้านบาท อีกทั้งขณะนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังใช้ Ai เลียนเสียง ญาติหรือเพื่อนสนิท
โดยล่าสุด พบตำรวจตกเป็นผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ใช้ Al เลียนเสียงเป็นผู้กำกับการ กองปราบ ขอยืมเงิน เนื่องจากเปลี่ยนมือถือใหม่ ยังไม่มีแอปธนาคาร ขอให้โอนจ่ายค่าสินค้าให้ก่อน ตำรวจนายนี้จึงเชื่อเพราะเสียงเหมือน ผกก กองปราบ จึงโอนไปร่วม140000 บาท
เมื่อ สอบถามไปยังผกก. ที่ยังไม่คืนเงิน จึงมาทราบว่าเป็นเสียงของมิจฉาชีพ ผกก. 3 กองปราบปรามจึงตั้งทีมสืบสวนออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 9 ราย จับได้ 6 ราย ซึ่งเป็นบัญชีม้า และคนกดเงิน และในวันเดียวกันมีเงินโอนเข้ามา 3 ล้านบาท คาดถูกหลอกเช่นเดียวกัน ส่วน 2 รายเป็นคนจีน
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังระบาดไปทั่วโลก โดยสถานฑูตจีนประจำประเทศไทย ได้ประสานให้ช่วยเหลือหญิงชาวจีน ถูกหลอกเรียกค่าไถ่ โดยตำรวจกองปราบปรามเข้าไปช่วยเหลือได้ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านปริมณฑล
โดยขณะตำรวจเข้าช่วย เธอยังไม่เชื่อว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก จนผู้ปกครองที่เดินทางมาจากจีน นำหลักฐานยืนยัน จึงเชื่อโดยเหยื่อรายนี้บอกว่าศึกษาอยู่เยอรมัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจจีนโทรไปแจ้งว่าเธอมีชื่อเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติให้โอนเงินไปตรวจสอบ เธอจึงโอนไปคิดเป็นเงินไทย 8 ล้านบาท และต้องเดินทางมาไทยเพื่อพิสูจน์ตัวตน เธอจึงหลงเชื้อทำตาม เพื่อจะเงินได้เงิน 8 ล้านคืน แต่แล้วแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้นำคลิปไปเรียกค่าไถ่จากผู้ปกครองที่อยู่จีน จนนำไปสู่การประสานให้ตำรวจสอบสวนกลางเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย