อาชญากรรม

รวบคนไทย ร่วมจีนเทาแก๊งคอลฯ เช่าเบอร์ 02 กว่าหมื่นเลขหมาย โทรหลอกกว่า 700 ล้านครั้ง

18 พ.ย. 2567

438 views

พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงปฏิบัติการ Operation Sip Trunk บุกทลายบริษัทผีจีนเทา ใช้เบอร์ 02 กว่าหมื่นเลขหมาย โทรหลอกลวงเหยื่อเสียหายทั่วไทยมากกว่า 700 ล้านครั้ง รวมความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท



โดย พล.ต.ท.ธัชชัย เปิดเผยว่า เนื่องจากมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสมาว่า พบความผิดปกติของการใช้หมายเลขโทรศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย 02-xxxxxxxx โทรมาหลอกลวงประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงได้ดำเนินการตรวจสอบ พบว่า กลุ่มหมายเลขโทรศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย 02 ดังกล่าว เป็นหมายเลขที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้โทรหลอกลวงประชาชน ให้ร่วมทำกิจกรรมและร่วมลงทุนรูปแบบต่าง ๆ



นอกจากนี้ยังพบว่า ชุดหมายเลข 02 ดังกล่าวนั้น ได้จัดสรรให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือ โดยมีนิติบุคคลจำนวน 3 บริษัท ได้ขอจดทะเบียนเลขหมายดังกล่าว เพื่อประกอบธุรกิจอุปกรณ์ตู้สาขาแบบ SIP Server ด้วยระบบ SIP Trunk Solution โดยรูปแบบวิธีการทำงานของระบบ SIP Trunk Solution นั้น เป็นเทคโนโลยีเพื่อให้บริการรูปแบบโครงข่ายโทรศัพท์ประจำที่ที่ใช้งานผ่านโครงข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถบริหารจัดใช้งานเลขหมายผ่านระบบคอมพิวเตอร์ได้ โดยไม่ติดข้อจำกัดด้านสถานที่และการวางระบบโครงข่ายสายสัญญาณต่าง ๆ โดยจะเป็นหมายเลขที่ขึ้นต้นด้วย 02-xxxxxxx ทั้งหมด



จากการสืบสวนทำให้ทราบว่า มีนิติบุคคลจำนวน 3 ราย ได้ขอจดทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย 02 ดังกล่าว รวมจำนวน 11,201 เลขหมาย จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัททั้ง 3 แห่ง ทำให้ทราบข้อมูล ดังนี้



1. บริษัท หรวนหยุน อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด จดทะเบียนจำนวน 3,000 เลขหมาย พบสถิติการใช้งาน (call attempt) รวม 256,219,676 ครั้ง มีกรรมการบริษัท 3 ราย แบ่งเป็นชาวจีนซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่  1 ราย และเป็นชาวไทย 2 ราย



2. บริษัท ยูน เตี้ยน เค่อ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด จดทะเบียนจำนวน 6,000 เลขหมาย พบสถิติการใช้งาน (call attempt) รวม 345,339,574 ครั้ง มีกรรมการบริษัท 3 ราย แบ่งเป็นชาวจีน 2 ราย และเป็นชาวไทย 1 ราย



3. บริษัท พรีมา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน จดทะเบียนจำนวน 2,201 เลข พบสถิติการใช้งาน (call attempt) รวม 128,626,642 ครั้ง มีกรรมการบริษัท 3 ราย ซึ่งเป็นชาวจีนทั้งหมด



โดยการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า ทั้ง 3 บริษัท ได้ใช้เบอร์ 02 โทรไปหาเหยื่อแล้วจำนวน 730,185,892 ครั้ง ส่วนกรรมการบริษัทชาวจีนทั้ง 3 แห่ง จากการตรวจสอบประวัติการเดินทางเข้าออกประเทศไทย ไม่พบการเดินทางเข้าออกประเทศไทย มีเพียงชาวจีน 1 ราย ที่ได้ออกนอกประเทศไทยไปตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2566 และไม่ได้กลับเข้ามาประเทศไทยอีกเลย



เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการจำนวน 24 ราย เป็นต่างชาติ 9 ราย ซึ่งมีทั้งผู้ทำหน้าที่กรรมการบริษัทและเป็นผู้จัดการค่าใช้จ่ายของบริษัท ได้แก่ ชาวจีน 3 ราย , ชาวสิงคโปร์ 1 ราย , ชาวมาเลเซีย 1 ราย , ชาวเมียนมาร์ 1 ราย และชาวลาว 3 ราย รวมทั้งออกหมายจับคนไทย 15 ราย ซึ่งมีทั้งผู้ทำหน้าที่เป็นกรรมการบริษัท ผู้จัดการค่าใช้จ่าย และบัญชีม้า



โดยทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันนำข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ , ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลที่ปกปิดวิธีการและมีมุ่งหมายเพื่อการมิชอบด้วยกฎหมาย (สมคบกันเป็น อั้งยี่ หรือ ซ่องโจร) , สมคบกันกระทำความผิดฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และความผิดฐานบัญชีม้า



ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการได้แล้วจำนวน 10 ราย เป็นคนไทย 9 ราย และสัญชาติเมียนมา  1 ราย นอกจากนี้ยังได้ประสานตำรวจสากล (Interpol) ในการออกหมายแดง เพื่อจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการชาวต่างชาติที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ กลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ประเทศไทยต่อไป



พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินคดีในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่กลุ่มคนร้ายต่างชาติร่วมกับคนไทย ใช้กลไกการจดทะเบียนบริษัทมาเช่าโทรศัพท์หมาย 02-xxxxxxx เพื่อทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นโทรศัพท์พื้นฐานทั่วไปในประเทศไทย แต่แท้จริงแล้วโทรมาจากต่างประเทศตามชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน โดยปฏิบัติการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยการมุ่งเน้นการตัดช่องทางสื่อสารของคนร้ายของประชาชน โดยเห็นผลได้จากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คดีอาชญากรรมจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด



โดยหลังจากนี้ จะดำเนินการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิติบุคคลทั้ง 3 บริษัทว่าดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งและประกอบธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่าตามกฎหมายแล้ว ชาวต่างชาติสามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทรวมทั้งเป็นกรรมการบริษัทได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้ หากเป็นธุรกิจที่สงวนเฉพาะคนไทยหรือเป็นธุรกิจที่ต้องมีใบอนุญาต ในส่วนนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่านิติบุคคลทั้ง 3 บริษัทนั้น ได้ขอใบอนุญาตในการทำธุรกิจที่มีข้อจำกัดทางกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งเป็นการแฝงทำธุรกิจผิดกฎหมายในนามบริษัทหรือไม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง  แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ,แก๊งจีนเทา

คุณอาจสนใจ

Related News