'ภูมิธรรม' เตรียมฟื้นแผนเส้นทางน้ำ 2 แสนล้าน-เขื่อนแก่งเสือเต้น ดันการบริหารน้ำเป็นวาระแห่งชาติ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำจังหวัดสุโขทัย นครสวรรค์ และ ชัยนาท โดยเตรียมให้การจัดการน้ำเป็นวาระแห่งชาติ ฟื้นแผนเส้นทางน้ำ 2 แสนล้านบาท แห้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก จังหว้ดสุโขทัย เสนอคณะรัฐมนตรี วันที่ และเห็นว่าถึงเวลาต้องกลับมาคุยถึงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยา พื้นที่ท้ายเขื่อนล่าสุด ยังไม่ทำให้น้ำท่วมหนัก



นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่จังหวัดสุโขทัยและประชุมรับฟังสถานการณ์ล่าสุดจาก นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย



ซึ่งน้ำท่วมหนักเพราะปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำยมที่จังหวัดสุโขทัย ในช่วงที่เกิดน้ำท่วม มีปริมาณ 1,707 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ขณะนี้เหลือเพียง 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้สถานการณ์ทั้งจังหวัดคลี่คลายลง สำหรับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าท่วมจังหวัดสุโขทัย มีปริมาณทั้งสิ้น 35 ล้านลูกบาศก์เมตร



ในที่ประชุมทาง ร.อ.ธรรมนัส เสนอว่า ควรมีแผนระยะยาว ในการแก้ไขปัญหาแม่น้ำยม ตั้งแต่จังหวัดพะเยา จนถึงจังหวัดสุโขทัยที่มีน้ำท่วมมาตลอด ซึ่งนายสมศักดิ์ เห็นว่า ต้องมีเขื่อนใหญ่ๆ และเลิกแก้ปัญหาแบบวันต่อวัน หากสร้างเขื่อนใหญ่ไม่ได้ ต้องสร้างเขื่อนเรียงหิน หรือเขื่อนคอนกรีดจุดต่างๆ รวม 9,640 เมตร มูลค่า 900 กว่าล้านบาท จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเรื่องนี้



นายภูมิธรรม ยอมรับว่าถึงเวลาต้องมาคุยถึงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นอย่างจริงจัง ที่ผ่านมามีความคิดแตกต่างกันสองฝ่าย แต่เมื่อเกิดภัยพิบัติทำให้เกิดความเสียหายมาก จึงเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา มีการประสานกับเวิร์ลแบงค์เพื่อทำการศึกษาอย่างรอบด้านอีกครั้ง



ขณะที่นายอนุทิน เห็นว่า แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีแต่เรื่องบรรเทา ไม่มีเรื่องป้องกัน แต่ความเป็นจริงกระทรวงมหาดไทย ถูกกดดันเรื่องเขื่อนและฝาย แต่ไม่มีเจ้าภาพ ดังนั้นควรเป็นงบกลาง และรัฐบาลควรมีแผนในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ควรผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีแผนงบประมาณ 2 แสนล้านบาท ตั้งแต่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะนำมาทบทวน เพื่อให้แม่น้ำยม มีพื้นที่รับน้ำเหมือนลุ่มน้ำอื่นๆ โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีในวันที่ 3 กันยายน



ซึ่งในการลงพื้นที่ประตูระบายน้ำคลองหกบาท กรมชลประทาน รายงานถึงโครงการปรับปรุงคลองยม - น่าน เพื่อให้รับน้ำได้ปริมาณที่เพิ่มขึ้นตามแนวคลอง ซึ่งการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2569



นายภูมิธรรม ยังเดินทางมายังจังหวัดนครสวรรค์ ติดตามระดับน้ำเจ้าพระยาที่ปากน้ำโพ ซึ่งยังต่ำกว่าตลิ่ง 4-5 เมตร มวลน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ยังมีน้อย แต่ต้องติดตามสถานการณ์ฝนอย่างต่อเนื่อง



นายภูมิธรรมและคณะ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ไปยัง เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท โดยระหว่างทางบินตรวจสถานการณ์น้ำและพื้นที่การเกษตร กล่าวว่าการลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ระหว่างที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังปฏิบัติหน้าที่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ ซึ่งต้องมาดูทั้งระบบให้มั่นใจ ซึ่งการกักเก็บน้ำในเขื่อนใหญ่ทำให้มั่นใจว่าน้ำจะไม่ท่วมเหมือนปี 2554



ส่วนสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา แม้จะมีการระบายน้ำเพิ่มขึ้น แต่มีเพื่อระบายน้ำเหนือ รองรับฝนใหม่ สถานการณ์จึงไม่น่าห่วงและไม่วิกฤต ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวย้ำว่า แม้ยังไม่มีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่รัฐมนตรีรักษาการณ์ร่วมทำงานกันอย่าเต็มที่และคาดว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ภายใน 15 กันยายนนี้