สังคม
ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เครือข่าย 'ธารารัตน์' ยึดทรัพย์กว่า 1.2 พันล้าน
โดย panwilai_c
12 ม.ค. 2567
454 views
ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใน 3 จังหวัด ยึดทรัพย์กว่า 1,200 ล้านบาท ขณะปี 2566 ที่ผ่านมา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือปปง. สรุปผลตรวจอายัดทรัพย์สินกลุ่มอาชญากรรมได้มากกว่า 12,000 ล้านบาท
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , พลตำรวจเอกรอย อิงคไพโรจน์ ผู้บัญชาการจำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือสอท. ร่วมกับ ปปง. แถลงผลปฎิบัติการยึดทรัพย์เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขบวนการนางสาวธารารัตน์เป็นเครือข่ายที่มีความเกี่ยวข้องกับนางสาว ธารารัตน์ สิงห์ทองวรรณ พร้อมพวก มีพฤติการณ์ฉ้อโกงประชาชน กระทำในลักษณะขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ และหลอกลวงผู้เสียหายหลายรูปแบบ ทั้งในรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยใช้วิธีการโทรสุ่มเข้ามาหลอกลวงประชาชนทั่วไป / แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่และหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน / โพสต์เฟซบุ๊กชักชวนให้มาแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทเป็นเงินสกุลหยวนในอัตราที่ถูกกว่าอัตราแลกเปลี่ยนของสถาบันการเงิน เ พอได้เงินมาจะแปลงเป็นอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนมีการโอนเงินไปยังกลุ่มผู้กระทำความผิดในลักษณะเว็บพนันออนไลน์มูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านบาท
ที่เมื่อวานนี้เข้าตรวจค้นใน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นนทบุรี และ กรุงเทพฯ รวม 13 จุด สามารถยึดทรัพย์ ได้รวมกว่า 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรถยนต์ 77 คัน โฉนดที่ดิน 84 ฉบับ ทองรูปประพรรณ น้ำหนักประมาณ 50 บาท ธนบัตรไทยและต่างประเทศ อีกเกือบ 10 ล้านบาท นาฬิกาหรู
โดยจุดใหญ่สุดคือที่ จังหวัดเชียงใหม่ สามารถยึดทรัพย์สินได้มากที่สุด เป็นรถยนต์กว่า 50 คัน ซึ่งเจ้าของทรัพย์มีความเกี่ยวเนื่องกับนางสาวธารารัตน์ แต่เจ้าตัวอ้างว่าทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของภรรยาซึ่งเป็นชาวจีน โดยพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและขยายผล ส่วนที่เหลืออีกมูลค่า 924 ล้าน เป็นทรัพย์สินที่ ปปง. มีคำสั่งอายัดไว้ก่อนหน้านี้ โดยคดีนี้มีผู้แจ้งความกับตำรวจไซเบอร์แล้ว 54 คน
และจากการสืบสวนพบว่ากลุ่มของธารารัตน์ มีการโอนเงินหมุนเวียนกว่า 3 พันล้านบาท บางส่วนโอนไปยังบัญชีเงินฝากของกลุ่มเว็บพนันออนไลน์ เพื่ออำพรางธุรกรรม และแปลสภาพทรัพย์สินเป็นอสังหาริมทริททรัพ เช่น ที่ดินห้องชุด ฉลากออมสิน เงินฝากในบัญชี ที่ ปปง.สั่งยึดอายัดไว้แล้วกว่า 238 รายการ
นอกจากนี้กลุ่มของนางสาวธารารัตน์ยังเคยถูกดำเนินคดี และแจ้งอาญัติบัญชีเงินฝาก ในคดีฉ้อโกงประชาชนในหลายท้องที่ ทั้งใน จ.อุบลราชบธานี /ขอนแก่น และกรุงเทพมหานคร
ด้านนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า ตามขั้นตอนการคืนทรัพย์สินให้กับผู้เสียหาย ผู้เสียหายต้องยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ์ ภายใน 90 วัน เพื่อให้ศาลพิจารณาสั่งนำทรัพย์มาคืนให้ผู้เสียหาย ส่วนนางธารารัตน์ กับพวกรวม 3 คน ปปง.ได้แจ้งข้อหาไปแล้วบางส่วน
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ปปง. ยังแถลงผลการยึดทรัพย์ ปี 2566 ซึ่งสามารถดำเนินการอายัติทรัพย์สิน ได้กว่า 12,000 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินที่ยึดและอายัติแล้ว 19 คดี มูลค่า 995 ล้านบาท คือคดีของนางสาวธรารัตน์ , คดีหลอกลงทุนแอปพลิเคชัน "ไทยเดลี่" ชักชวนทำงานหารายได้เสริม , หลอกขายเพชรออนไลน์ ที่มีผู้เสียหายกว่า 500 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างส่งเรื่องให้อัยการยื่นขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 16 คดี มูลค่า 2,143 ล้านบาท และขอให้ศาลมีคำสั่งนำทรัพย์สินชดใช้คืนให้กับผู้เสียหายอีก 8 คดี มูลค่า 318 ล้านบาท