สังคม
ช่วยอดีตอธิการบดี ม.ดัง วัย 85 ถูกแก๊งคอลฯตุ๋นเทรดหุ้นผ่านโซเชียล สูญเงินเกือบ 40 ล้าน
โดย petchpawee_k
13 ก.ย. 2568
258 views
อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยดัง เหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกร่วมลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินเกือบ 40 ล้านบาท ศูนย์ปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ พบการโอนเงินที่ผิดปกติจึงรีบอายัดไว้ได้ 3 ล้าน ก่อนแจ้งเหยื่อ
กรณีนี้ ทางเพจดาวแปดแฉก โพสต์ว่า “สุดเลว!! แก๊งคอลเซนเตอร์โบรกเกอร์เถื่อน เพียงวันเดียวได้เงินจากการหลอกเหยื่อสูญเงิน รวม 45 ล้าน เหยื่อคนแรกอดีตอธิการบดี โดนกว่า 38 ล้าน เหยื่อคนที่สอง โดน 6 ล้าน พื้นที่สน.บางซื่อ และ สน.หัวหมาก”
ก่อนที่จะโพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า “หลอกลงทุนสูญเงิน 45 ล้านบาท!! อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง วัย 85 ปี ตกเป็นเหยื่อโบรกเกอร์เถื่อน จะเข้าแจ้งความที่ สน.บางซื่อ “บิ๊กหวาน” อาจเดินทางมาสอบถามผู้เสียหายด้วยตนเอง”
วานนี้ (12 ก.ย.) ทีมข่าวลงพื้นที่ สน.บางซื่อ พบว่า ช่วง 11.45 น. ผู้เสียหายได้เดินทางซึ่งเป็นอดีตอธิการบดี ถูกแกงค์คอลเซนเตอร์หลอก ได้นำเอกสารเข้ามา และให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ โดยขอความร่วมมือจากผู้สื่อข่าวในการไม่ให้สัมภาษณ์ ก่อนขึ้นไปให้ข้อมูลที่ชั้น 2 ของ สน.
จากนั้น พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะรักษาราชการแทน ผบก.น.2 ได้เดินทางมาสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมกับ พลตำรวจตรี โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล
โดยพูดคุยนานเกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนที่พล.ต.ต.พัลลภ จะให้สัมภาษณ์ว่า ผู้เสียหาย ได้ไปเจอเพจให้ร่วมเทรดหุ้นเมื่อเดือนที่แล้ว โดยมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นโบรกเกอร์ ให้ร่วมเทรดหุ้น ก่อนที่จะถูกดึงเข้าไปในกลุ่มไลน์ โดยเทรดไปหลายครั้ง โดยมิจฉาชีพจะสร้างพอร์ตปลอมขึ้นมา เสมือนว่าเทรดได้เงินจริงๆ
จากนั้น ก็ชักชวนให้ผู้เสียหายเข้ากลุ่มไลน์ ที่มีสมาชิกเป็นร้อยคน เพื่อร่วมเทรดหุ้นแบบบิ๊กล็อต ซื้อในราคาถูก และได้กำไรเยอะ โดยเป็นการร่วมลงทุนหลายคน จำนวนหลายสิบล้านบาท ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ และมีการโอนเงินไปสิบกว่าครั้ง สูญเงินทั้งสิ้น 38 ล้านบาท
ล่าสุด ทางผู้เสียหายต้องการจะถอนเงิน 1 ล้าน 9 แสนบาทจากธนาคารกสิกรไทย ก่อนที่จะโอนเข้าสู่บัญชี 3 บัญชี ซึ่งทางธนาคารพบความผิดปกติ จึงโทรไปเตือนเหยื่อ และรีบเข้าไปหาเหยื่อ จึงทำให้สามารถอายัดเงินได้ 3 ล้านบาท
สำหรับบัญชีปลายทาง ทางมิจฉาชีพจะใช้เป็นบัญชีบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชี่อถือให้เหยื่อ และพบว่าไปกดเงินตามตู้ในต่างจังหวัด ส่วนสมาชิกในกลุ่มไลน์ จะต้องตรวจสอบก่อนว่า มีใครเป็นหน้าม้า หรือใครเป็นผู้เสียหายบ้าง สำหรับสภาพจิตใจผู้เสียหาย ยังค่อนข้างเสียใจ
ทางด้านพลตำรวจตรี โชติวัฒน์ เล่าว่า ทางตำรวจได้เข้าไปหาเหยื่อเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา และแจ้งว่ามิจฉาชีพหลอก ซึ่งตอนแรกยังไม่เชื่อ ยังเข้าใจว่าตนเองเทรดหุ้นได้จริง ทางตำรวจจึงติดต่อไปทางธนาคารว่า ไม่มีบัญชีของเหยื่อที่นำไปเทรดหุ้นอยู่ ทำให้เหยื่อค่อยๆ ยอมรับแต่ก็ยังมีความหวังว่าจะได้เงินคืน
และยังดีที่ตำรวจเข้าไปถึงตัวเหยื่อได้ทัน ไม่อย่างนั้น เหยื่ออาจจะโอนเงินเพิ่มอีก 40 ล้านบาทให้มิจฉาชีพ
ส่วนที่มิจฉาชีพใช้ บัญชีบริษัทเป็นบัญชีปลายทางในการรับโอนเพราะ มีความน่าเชื่อถือ และไม่ต้องสแกนหน้าเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งบริษัทเหล่านี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อฟอกเงินโดยเฉพาะ
ขณะที่ในท้องที่ สน.หัวหมากก็มีผู้เสียหายอีกหนึ่งรายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินอีก 6 ล้านบาท ซึ่งเป็นการหลอกในลักษณะเดียวกัน โดยพบว่าเส้นเงินบางส่วน ปลายทางไปยังธนาคารต่างประเทศ
แท็กที่เกี่ยวข้อง อธิการบดี ,แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ,เทรดหุ้นออนไลน์