สังคม
แกะรหัสลับบนหน้าซองเงินจากห้องทำงาน 'อธิบดีอุทยานฯ' หาที่มาเงิน 5 ล้าน
โดย panwilai_c
30 ธ.ค. 2565
629 views
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับคณะกรรมการตรวจสอบกรณีอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ให้ตรวจเส้นทางการเงินทั้งของผู้ให้และผู้รับ ให้ชัดเจน พร้อมเดินหน้าเรียกความเชื่อมั่น ขณะข่าว 3 มิติพยายามแกะรอยรหัสลับบนหน้าซองธนบัตร ซึ่งบางโครงการที่อนุมัติไป ต้องส่งเงินกลับคืนมาถึง 70 เปอร์เซ็นต์ จนกลายเป็นเงินกว่า 1 ล้าน 2 แสนบาท ในซองที่พบในห้องดังกล่าว
หลังจากตำรวจเจรจาจนได้รับอนุญาตให้ตรวจค้นในห้อง ก็พบซองธนบัตรกระจายกันอยู่ในห้องทำงาน บางส่วนพบในลิ้นชัก บางส่วนพบในเป้สะพายวางข้างโต๊ะและซอกโต๊ะ และบางส่วนพบในซอกห้องแต่งตัว
ตำรวจ ปปป.ได้สรุปของกลางที่พบแล้วมีทั้งหมด 21 รายงาน เป็นเงินสดรวม 4,843,300 บาท ตัวอย่างที่มาของเงินที่พบ เช่น รายการที่ 3. พบซองสีน้ำตาลจากส่วนจัดการต้นน้ำ ที่เชียงใหม่ เขียนหน้าซองว่าเดือนตุลา และพฤศจิกายน เดือนละ 8 แสน รวม 1 ล้าน 6 แสน รายการที่ 6 และ 7 ซองสีน้ำตาล เขียนว่ามาจากส่วนควบคุมไฟป่า เชียใหม่ ตุลาคม138,000 และเดือนพฤศจิกายน 124,000 ตัวอย่างรายการที่ 8 เงินสด 1 แสน จากหน่วยงานหนึ่งที่ปัตตานี รายการที่ 9 มีทั้งธนบัตรใบละพันและใบร้อย รวม81,300 บาท จากหน่วยงานหนึ่งที่ลำปาง รายการที่ 10 ซองสีขาวมีเงิน 2 หมื่นบาทจากหน่วยงานหนึ่งที่นครสวรรค์ รายการที่ 11 12 13 และ 14 เป็นชื่อตัวบุคคล ซองละ 1 หมื่น 2 หมื่น 5 หมื่น และ 1 แสน รายการที่ 15 และ 16 เป็นชื่อหัวหน้าอุทยาน ฯ ซองละ 3 หมื่น
สำหรับรายการที่ 1 ในกระเป๋าสะพายข้างโต๊ะ เป็นเงินสด 2 ล้าน และรายการที่ 2 เงินสด 1 แสน ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ไม่อยู่ในซองและไม่เขียนที่มา แต่หลักฐานรายการอื่นๆ เป็นซองเปล่า แต่เขียนที่มาและจำนวนเงิน
นอกจากนี้ มีอย่างน้อย 2-3 รายการแจกแจงรายละเอียดของเงิน เช่นจำนวนเงินที่เบิก -จำนวนเงินที่คืน และสัดส่วนที่หัก เช่นรายการที่ 21 เขียนว่า "คูดงใหญ่ ยอด 1.8 ล้าน พร้อมวงเล็บ VIP 70% คือ1,260,000
ตำรวจพยายามแกะรอยคำว่า "คูดงใหญ่" จนพบว่า มีโครงการสร้างคูกันช้างแห่งหนึ่ง ชื่อของสถานที่คล้ายกับชื่อ "ดงใหญ่"บนซอง ที่ต้องจ่ายเงิน 70 เปอร์เซ็นต์ ของยอด 1,8000,000 บาทคือ 1,260,000 บาท
เมื่อตรวจสอบย้อนหลัง ก็ยังพบข้อมูลว่าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ที่บุรีรัมย์ มีโครงการก่อสร้างคูกันช้างแห่งหนึ่ง ระยะความยาวของคู 105 กิโลเมตร วงเงิน 53,980,000 บาท ซึ่งร้อยละ 70 ของวงเงินนี้คือ 37 ล้าน 1 แสนบาท
ตอนนี้ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ชื่อบนซอง กับโครงการคูกันช้างของเขตรักษาพันธุ์นี้ เป็นอันเดียวกันหรือไม่ หรืออาจจะเป็นคนละโครงการก็ได้ แต่เพื่อให้ได้คำตอบชดเจน ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องให้ตำรวจ เชิญผู้เกี่ยวข้องที่ปรากฎชื่อบนซองดังกล่าวมาสอบถาม ขณะเดียวกันก็ขอให้ตำรวจเชิญผู้รับผิดชอบโครงการและเจ้าของพื้นที่ ซึ่งมีชื่อตรงกับบนซองนั้น มาสอบฐานในฐานะพยาน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันอีกครั้งวันนี้ได้กำชับให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งผู้ให้และผู้รับ และพร้อมทำงานเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นกลับคืนมา
ขณะที่ผุ้บังคับการตำรวจ ปปป. เปิดเผยวันนี้ว่า ได้ออกหมายเรียกหัวหน้าหน่วยต่างๆที่ปรากฎบนชื่อกว่า10 ราย มาชี้แจงที่มาของเงิน โดยให้มาพบหลังวันหยุดปีใหม่ ขณะเดียวกัน ก็ยืนยันว่าไม่กังวลใจ หากผู้มีชื่อบนซองกระดาษจะปฏิเสธว่าไม่ใช่เงินวิ่งเต้นโยกย้าย และไม่กระทบรูปคดี ขอให้มาให้ข้อมูลและชี้แจงที่มาของเงินให้ชัดเจน แต่หากไม่ชี้แจงหรือชี้แจงไม่ได้ก็อาจตกเป็นผู้ต้องหาด้วย