'ชัยวัฒน์' รับล่อจับ 'อธิบดีอุทยานฯ' ปมเรียกส่วย หลังถูกอ้างมีเรื่องกัน ผบก.ปปป. ฮึ่ม เร่งสอบเงิน 5 ล้าน

มีการเปิดเผยคลิปเสียงหลักฐานจากสื่อแห่งหนึ่ง ขณะเจรจาส่งมอบซองเงินรายเดือน ซึ่งเสียงคล้ายกับนายรัชฎา และคู่สนทนา สอดคล้องกับซองเงินของกลาง ที่ตรวจยึดได้จากในลิ้นชักภายในห้องทำงานของนายรัชฎา รวมทั้งบทสนทนาการต่อรองเงินค่าวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่ง



ซึ่งในคลิปเสียงดังกล่าวยังเผยถึงรายละเอียดบทสนทนาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในหน่วยงานจากผลกระทบเรื่องนี้ หลังมีเจ้าหน้าที่กรมอุทยานรายหนึ่งต้องถูกร้านค้าฟ้องร้องดำเนินคดีไปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา เหตุเพราะติดค้างเงินค่าน้ำมันและวัสดุของใช้ต่างๆ ที่นำไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นจำนวนเงินรวม 4 แสนบาท แต่ไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ เพราะต้องนำเงินที่ทำการเบิกมาแล้วในส่วนนี้ นำไปส่งให้กับนายรัชฎาแทน



ขณะเดียวกันคลิปเสียงดังกล่าวยังมีการบันทึกเสียงเหตุการณ์ในช่วงขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมกับขออนุญาตตรวจค้นลิ้นชักโต๊ะทำงานของนายรัชฎา ช่วงแรกเจ้าตัวไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่จึงอธิบายเหตุผลตามหลักข้อกฎหมายให้นายรัชฎารับทราบจนเป็นที่เข้าใจ สุดท้ายนายรัชฎาต้องยอมให้ตรวจค้น จนพบซองเงินของกลางดังกล่าว



หลังจากมีคลิปการเจรจาต่อรองเรื่องวิ่งเต้น ทีมข่าวอาชญากรรมโทรศัพท์สอบถามไปยังหัวหน้า ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ก็ยอมรับว่าเขาคือคนในคลิป



นาย ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ยอมรับว่า วันที่ 27 ธันวาคม เขาเป็นคนที่นำซองเงินเข้าไปให้ อธิบดีกรมอุทยานฯ เอง โดยเจ้าหน้าที่ ปปป. เป็นคนเอากล้องปากกาใส่ในกระเป๋าของเขา เพื่อบันทึกภาพและเสียงเป็นหลักฐานกรณีที่อธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับเงินจริง



หลังจากคุยได้ไม่ถึง 2 นาที นายชัยวัฒน์ ก็ตัดบทและวางสายทันที เพราะหงุดหงิดที่มีการปล่อยคลิปเสียงออกไปโดยไม่ได้ปิดบังชื่อของบุคคลที่ 3 ที่ถูกพาดพิงในคลิป



รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพบพนักงานสอบสวน ปปป. ขอหลักฐานเอาผิด อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อใช้พิจารณาการตั้งคณะกรรมการสอบสวน



เมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา นาย กุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีนาย รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถูกดำเนินคดีข้อหาทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ บอกว่า ได้ประสานกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ขอข้อมูลและพยานหลักฐานที่ทาง บก.ปปป. มี ขณะเข้าจับนายรัชฎา มาประกอบการสอบสวนของคณะกรรมการในกระทรวง ซึ่งตำรวจแจ้งว่าจะส่งให้ภายในวันที่ 3 มกราคม 2566



ส่วนหน่วยงานที่ถูกระบุหน้าซองนั้น ยังคงเป็นข้อมูลของพนักงานสอบสวนที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ และกระทรวงก็ไม่สามารถขอข้อมูลนี้ได้เช่นกัน แต่ทางกระทรวงจะตรวจสอบข้อเท็จจริงกับหน่วยงานภายในระดับกองทั้ง 25 หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานฯ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง



ขณะที่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ บก.ปปป. บอกว่า วันนี้พนักงานสอบสวนส่งหนังสือเชิญไปยังหัวหน้าหน่วยงานและบุคคลที่มีชื่ออยู่บนหน้าซองใส่เงินที่ตรวจพบในห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานฯ รวมถึงผู้ที่อาจมีข้อมูล จำนวนไม่ต่ำกว่า 20 คน มาให้ปากคำในฐานะพยาน ซึ่งในจำนวนนี้มีนาย ชัยวัฒน์ส่วนผู้ที่ถูกเชิญจะเข้ามาให้ข้อมูลวันไหนแล้วแต่บุคคล และหากใครอยู่ไกล ทาง บก.ปปป. ยินดีรับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางหรือตั๋วเครื่องบินให้ เพื่อความอำนวยความสะดวกในการเดินทางและสามารถสอบสวนได้อย่างรวดเร็ว โดยจะเร่งรัดให้เสร็จภายใน 30 วัน เพื่อส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ชี้มูลต่อไป



นอกจากนี้ทาง บก.ปปป. จะสืบสวนในเชิงลึกควบคู่กันไป ทั้งเส้นทางการเงินหรือตัวการร่วมที่อาจจะส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลมาประกอบคดีด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

รับชมได้ทางยูทูบ :  https://youtu.be/RkmrMQfmgWg