เจาะปัญหาโรงงาน “แวกซ์ กาเบ็จ” สารเคมีรั่วไหลกว่า 20 ปี ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ซ้ำ

จับตากระบวนการกำจัดสารเคมีกากขยะโรงงานแวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซนเตอร์ หลังกรมโรงงานอุตสาหกรรมออกคำสั่งและปิดป้ายประกาศแจ้งให้ย้ายไปกำจัดภายใน 15 วัน ขณะกรมควบคุมมลพิษ เตรียมเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกาศเขตควบคุมมลพิษในพื้นที่

ข่าว 3 มิติ เกาะติดกรณีไฟไหม้โรงงานแวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิลเซนเตอร์ ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี นับจากที่มีชาวบ้านตำบลน้ำพุ อำเภอเมืองราชบุรี ร้องเรียนมาก่อนหน้านี้ว่าได้รับผลกระทบจากน้ำกากสารเคมีซึมลงแหล่งน้ำธรรมชาติ

กระทั่งล่าสุด ที่เกิดเพลิงไหม้โรงงาน เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ตอนนี้ชาวบ้านต่างจับตามาตรการขนย้ายกากขยะสารเคมี ตามที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม มีคำสั่งให้โรงงานย้ายภายใน 15 วัน นับจากปิดประกาศหน้าโรงงาน เมื่อ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ ส่งเจ้าหน้าที่กล่าวโทษโรงงาน กรณีครอบครองของเสียเข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย เพื่อให้สอบสวนหาผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีด้วย

ประกาศคำสั่ง 2 ฉบับจำนวน 3 แผ่น ปิดไว้หน้าโรงงานแวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิลเซ็นเตอร์ จ.ราชบุรี เมื่อ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ใจความสำคัญคือ คำสั่งให้โรงงานหยุดประกอบ กิจการทั้งหมดและให้ปรับปรุงแก้ไข โดยนำกากวัสดุของเสียที่ถูกเพลิงไหม้ และที่เหลือจากบริเวณเดียวกันย้ายไปกำจัดที่อื่นภายใน 15 วัน นับจากได้รับเอกสาร ซึ่งก็คือ วันที่ 28 ที่ผ่านมา และให้ปรับปรุงโรงงานให้พร้อม โดยมีวิศวกรรับรอง ก่อนจะขอประกอบกิจการโรงงานที่เดิมได้อีก พร้อมทั้งให้รายงานความคืบหน้าต่ออุตสาหกรรม จังหวัดราชบุรี ต่อเนื่อง และระหว่างนี้ห้ามพนักงานเข้าไปทำงานในพื้นที่ ดังกล่าว

ที่จริงโรงงานทั้งหมดหยุดประกอบกิจการมาตั้งแต่ปี 2561 ตามคำสั่งศาลแพ่งกรณีเคยถูกฟ้องเรื่องสารเคมีรั่วไหล แต่คำสั่งล่าสุดนี้ เป็นไปตามระเบียบกรมโรงงานฯในฐานะ ผู้ออกใบอนุญาต หากนับจากวันที่ปิดประกาศ ถึงวันนี้ผ่านมาแล้ว 6 วัน หรือเกือบถึงครึ่งทางของคำสั่งย้าย ท่ามกลางการจับตาจากผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกรณีนี้มีความซับซ้อนตรง ที่โรงงานตั้งอยู่ในเขตตำบลรางบัว อ.จอมบึง แต่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบและร้องเรียนมาตลอด คือตำบลน้ำพุ อ.เมือง ซึ่งเป็นที่ติดกัน ทั้งได้รับผลกระทบจากกลิ่น และน้ำใต้ดิน ที่พบว่าปนเปื้อนสารเคมี

หนึ่งในตัวแทนชาวตำบลน้ำพุ และเป็นคณะทำงานของจังหวัด ที่ร้องเรียนหลายหน่วยงานมาตลอด นับจากโรงงานตั้งมา 20 ปี และล่าสุด ยังไปชี้แจงต่อกรรมาธิการป้องกัน และบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า อยากให้ทุกขั้นตอนในการเคลื่อนย้ายกากขยะสารเคมี โปร่งใส และทุกฝ่ายตรวจสอบได้

ในที่ประชุมกรรมาธิการปภ.ล่าสุด จังหวัดราชบุรี ยังหารือกับกรมควบคุมมลพิษ และเห็นตรงกัน ที่จะเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาประกาศ พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว เป็นเขตควบคุมมลพิษ ทั้งเพื่อบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด และใช้งบประมาณเพื่อบรรเทาเยียวยาได้

นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิษ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปกล่าวโทษ กรณีพบของเสียในโรงงานดังกล่าวตกค้างอยู่ในโกดังทั้งที่ถูกเพลิงไหม้และที่ยังอยู่ในโรงงานหลังอื่นๆ ทั้งที่ศาลแพ่งสั่งหยุดประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2561 โดยสารดังกล่าว เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย ตาม พรบ.วัตถุอันตรายปี 2535 การที่โรงงานยังครอบครองอยู่ อาจเข้าข่ายผิดตาม พรบ.นี้ จึงให้เจ้าหน้าที่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้พนักงานสอบสวนภูธรจอมบึง สืบสวน สอบสวน หาผู้กระทำผิดด้วย